ซะกาต หลักการบริจาคทานในศาสนาอิสลาม ตามความเชื่อของชาวมุสลิม
ซะกาต คือการบริจาคทานตามหลักการศาสนาอิสลาม มีบริจาคกี่ประเภท ใครเป็นผู้ที่ต้องบริจาคและบริจาคให้กับบุคคลประเภทไหนที่มีสิทธิ์สามารถรับบริจาคซะกาตได้
การบริจาคเป็นสิ่งดีงามได้รับการส่งเสริมจากทุกศาสนาสอนให้รู้จักแบ่งปันแก่ผู้ยากไร้หรือผู้ด้อยโอกาสได้อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข รวมทั้งในศาสนาอิสลามก็มีบริจาคเช่นกันเรียกว่า ซะกาต หนึ่งในเสาหลักของศาสนาอิสลาม เปรียบเสมือนสายใยแห่งความเมตตาเชื่อมโยงผู้มั่งคั่งกับผู้ยากไร้ เป็นการแบ่งปันทรัพย์สินเพื่อบรรเทาความทุกข์ยาก ส่งเสริมความเท่าเทียม และสร้างความสามัคคีในสังคม
บทความนี้ จะพาทุกท่านไปรู้จักกับซะกาต ความหมายแท้จริงซะกาตคืออะไร? มีความสำคัญอย่างไร? ส่งผลดีต่อผู้ให้และผู้รับอย่างไร? มีซะกาตประเภทใดบ้าง? แต่ละประเภทมีวิธีการคิดคำนวณซะกาตอย่างไร?รวมถึงการจ่ายซะกาตทรัพย์สินคืออะไร ไปหาความรู้เพื่อปฏิบัติได้ถูกต้องพร้อมกันเลย
ซะกาต คืออะไร
ซะกาต คือการบริจาคทานตามหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งชาวมุสลิมทุกคนจำเป็นต้องบริจาคทานแก่กลุ่มคนที่มีคุณสมบัติตามศาสนาอิสลามบัญญัติไว้ ทรัพย์สินสามารถนำไปซะกาตได้ต้องมาจากรายได้มีแหล่งที่มาชัดเจน ได้แก่ทรัพย์สินจากทำปศุสัตว์ เงินออม ค้าขายสินค้าต่าง ๆ ผลผลิตทางการเกษตร และแร่ธาตุต่าง ๆ เป็นต้น
คำว่า "ซะกาต" ในภาษาอาหรับ มีความหมายหลายอย่าง เช่น การชำระล้าง การเจริญเติบโต การขัดเกลา รวมถึงการให้เกียรติ ซึ่งล้วนสื่อถึงความหมายเชิงบวกทั้งสิ้น ความสำคัญของซะกาตในศาสนาอิสลาม มีดังนี้
- เป็นหนึ่งในหลักปฏิบัติสำคัญ (รุกน) ของศาสนาอิสลาม เปรียบเสมือนเสาหลักที่ 3 รองจากการปฏิญาณตน (การกล่าวคำสักการะ) และการละหมาด
- แบ่งปัน แก่ผู้ยากไร้ หรือผู้ด้อยโอกาส ช่วยให้สังคมมุสลิมมีความเท่าเทียมกัน
- ชำระล้างจิตใจของผู้ให้ทาน ช่วยให้พ้นจากความโลภ ตระหนี่ขี้เหนียว
- ช่วยเหลือ ผู้ต้องการความช่วยเหลือ
- กระจายรายได้ และความมั่งคั่ง
- ส่งเสริม ความสามัคคีในหมู่มุสลิม
สรุป การบริจาคซะกาตคือบริจาคทานมีความสำคัญต่อทั้งผู้ให้และผู้รับ ช่วยให้สังคมมุสลิมมีความสมดุลและมีความสงบสุข
ที่มาของซะกาต
ซะกาตถูกบัญญัติในศาสนาอิสลามตั้งแต่สมัยศาสดามุฮัมมัด โดยมีหลักฐานจากอัลกุรอานและฮะดีษ ดังนี้
อัลกุรอาน
- ซูเราะฮฺ อัล-บะกอเราะฮฺ 2:43 "จงปฏิบัติการละหมาดและจ่ายซะกาต จงก้มตัวรอกูอูกู่อฺพร้อมกับหมู่ชนผู้ก้มตัวรอกูอูกู่อฺ"
- ซูเราะฮฺ อัต-เตาบะฮฺ 9:60 "ซะกาตนั้นเป็นสิทธิ์สำหรับ: คนยากจน, คนยากไร้, ผู้เก็บกุม (ซะกาต), ผู้ดึงดูดใจให้เข้ารับอิสลาม, ทาส, คนมีหนี้, ในทางของอัลลอฮฺ รวมถึงผู้เดินทาง"
ฮะดีษ
- ศาสดามุฮัมมัดกล่าวว่า "อิสลามนั้นถูกสร้างขึ้นบนห้ารากฐาน คือ การปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ มุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ การละหมาด การจ่ายซะกาต การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน และการจาริกแสวงบุญฮัจญ์ ณ บัยตุลลอฮฺสำหรับผู้มีความสามารถ" (บันทึกโดย อัล-บุคอรี และมุสลิม)
ประวัติความเป็นมาของซะกาต
ซะกาตถูกบัญญัติในศาสนาอิสลามตั้งแต่สมัยศาสดามุฮัมมัด โดยในช่วงแรก ๆ มุสลิมจะบริจาคทานตามความสมัครใจ แต่ต่อมาอัลลอฮ์ได้บัญญัติให้ซะกาตเป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกคนต้องปฏิบัติ โดยมีกฏเกณฑ์เงื่อนไขชัดเจน
ซะกาตมีบทบาทสำคัญในสังคมมุสลิม โดยช่วยเหลือผู้ยากไร้ ส่งเสริมความเท่าเทียมกันในสังคม นอกจากนี้ ซะกาตยังช่วยให้ผู้บริจาคได้ชำระล้างจิตใจและทรัพย์สินของตน
การจ่ายซะกาตในปัจจุบัน
ในปัจจุบัน การจ่ายซะกาตมีรูปแบบหลากหลาย ขึ้นอยู่กับกฎหมายและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ แบ่งได้ดังนี้
1. ซะกาตเป็นการบริจาคแบบสมัครใจ
- ประเทศส่วนใหญ่ การจ่ายซะกาตเป็นการบริจาคซะกาตแบบสมัครใจ มุสลิมสามารถบริจาคซะกาตผ่านองค์กร มัสยิด หรือ บริจาคโดยตรงแก่ผู้รับซะกาต
- มุสลิมมีอิสระในการเลือกจำนวนเงินที่จะบริจาค
- รัฐบาลไม่มีบทบาทบังคับให้มุสลิมจ่ายซะกาต
2. ซะกาตเป็นกฎหมายบังคับ ให้จ่ายตามกฎหมายเหมือนกับภาษี
- ในบางประเทศ เช่น ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ บาห์เรน รวมทั้งคูเวต การจ่ายซะกาตเป็นกฎหมายบังคับ มุสลิมทุกคนมีคุณสมบัติครบถ้วนต้องจ่ายซะกาต
- รัฐบาลมีบทบาทในการจัดเก็บซะกาต และนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้
- มุสลิมที่ไม่จ่ายซะกาตอาจถูกปรับหรือลงโทษ
3. รูปแบบการจ่ายซะกาตมีหลายวิธี
- ในปัจจุบัน มีรูปแบบการจ่ายซะกาตหลากหลาย เช่น จ่ายซะกาตผ่านธนาคาร จ่ายซะกาตออนไลน์ จ่ายซะกาตผ่านหุ้น
- มุสลิมสามารถเลือกวิธีจ่ายซะกาตที่สะดวกและเหมาะสมกับตนเอง
ข้อดีของการจ่ายซะกาต:
- ช่วยเหลือผู้ยากไร้และขัดสน
- ส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม
- สร้างความสามัคคีในหมู่มุสลิม
- เป็นการทำบุญและได้กุศล
ประเภทของการบริจาคซะกาต
ประเภทของการบริจาคซะกาต มี 2 ประเภทหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ซะกาตฟิฏเราะห์ หรือ ซะกาตอาหาร
ซะกาตฟิฏเราะห์ หรือซะกาตอาหาร เป็นการบริจาคทานจากมุสลิมทุกคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วน หรือมีรายได้ถึงนิศอบ (เกณฑ์ขั้นต่ำ) จำเป็นต้องจ่ายซะกาตฟิฏเราะห์ จ่ายในช่วงเดือนรอมฎอน หรือในช่วงเทศกาลอีดิลฟิฏร์ อันเป็นเดือนถือศีลอด
โดยจ่ายซะกาตฟิตเราะห์เป็นอาหารหลักที่คนในท้องถิ่นรับประทานกันเป็นประจำ ได้แก่ ข้าวสาร แป้ง ธัญพืช หรืออาหารแห้งต่าง ๆ อัตราการจ่ายซะกาตฟิฏเราะห์อยู่ที่ 1 ศออ์ (ประมาณ 2.7 กิโลกรัม) ต่อคน และสามารถจ่ายซะกาตฟิฏเราะห์เป็นเงินได้ โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามราคาตลาด ผู้รับซะกาตฟิฏเราะห์ ได้แก่ ผู้ยากไร้ คนยากจน ผู้เดินทาง และทาส
ซะกาตมาล หรือ ซะกาตทรัพย์สิน
ซะกาตมาล หรือซะกาตทรัพย์สิน เป็นการจ่ายซะกาตทรัพย์สิน หรือการบริจาคทานจากทรัพย์สินต่าง ๆ ที่สะสมไว้หลังจากการใช้จ่ายครบรอบปีแล้วในอัตราต่างกันตามประเภทของทรัพย์สินให้แก่ผู้ยากไร้ มุสลิมทุกคนที่มีรายได้ถึงนิศอบ จำเป็นต้องจ่ายซะกาตมาล
ทรัพย์สินที่ต้องจ่ายซะกาตมาล ได้แก่ ทองคำ เงิน ปศุสัตว์ ผลผลิตทางการเกษตร สินค้าค้าขาย อสังหาริมทรัพย์ และเงินออม อัตราการจ่ายซะกาตมาลอยู่ที่ 2.5% ของทรัพย์สินทั้งหมด
ผู้รับซะกาตมาล ได้แก่ ผู้ยากไร้ คนยากจน ผู้เก็บกุม (ซะกาต) ผู้ดึงดูดใจให้เข้ารับอิสลาม ทาส คนมีหนี้ ในทางของอัลลอฮฺ และผู้เดินทาง
ผู้ที่อยู่ในเงื่อนไขต้องจ่ายซะกาต
ผู้ที่เข้าข่ายต้องจ่ายซะกาต คือมุสลิมที่ครบเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
- บรรลุนิติภาวะ: บุคคลบรรลุนิติภาวะตามหลักศาสนาอิสลาม หมายถึง บุคคลเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ หรือมีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์
- มีสติสัมปชัญญะ: บุคคลมีสติสมประกอบ ไม่เป็นบ้า มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์
- เป็นอิสระ: ไม่ได้เป็นทาส
- ครอบครองทรัพย์สิน: ทรัพย์สินต้องจ่ายซะกาต จะต้องมีจำนวนถึงเกณฑ์กำหนด เรียกว่า "นิศอบ" ประเภทของทรัพย์สินต้องจ่ายซะกาต ได้แก่ ทองคำ เงิน ปศุสัตว์ ผลผลิตทางการเกษตร สินค้าค้าขาย รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์
- ครอบครองทรัพย์สินครบ 1 ปี: ทรัพย์สินต้องจ่ายซะกาต จะต้องครอบครองไว้ครบ 1 ปีจันทรคติ
ผู้มีสิทธิ์สามารถรับซะกาตได้
ผู้มีสิทธิ์สามารถรับซะกาตต้องอยู่ในเงื่อนไขของผู้รับซะกาต 8 ประเภท ดังนี้
- ฟากีร (คนยากไร้) หมายถึง ผู้ไม่มีทรัพย์สิน หรือรายได้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ ไม่สามารถหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ต้องการความช่วยเหลือเพื่อดำรงชีวิต
- มิสกีน (คนขัดสน) หมายถึง ผู้มีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย มีทรัพย์สินบางส่วน แต่ไม่เพียงพอ ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม
- อามิล (เจ้าหน้าที่ซะกาต) หมายถึงผู้ทำงานเก็บรวบรวมและจัดแจงซะกาตได้รับค่าตอบแทนจากซะกาต จำเป็นต้องใช้จ่ายเงินเพื่อทำงาน
- มุอัลลัฟ (ผู้ดลใจให้เข้ารับอิสลาม) หมายถึง ผู้เพิ่งเข้ารับอิสลาม หรือผู้ที่ยังลังเลอยู่ ต้องการแรงจูงใจให้ยึดมั่นในศาสนา ซะกาตสามารถใช้เพื่อช่วยเหลือพวกเขาในการปรับตัว
- ริคอบ (ทาส) หมายถึง ทาสที่นายอนุญาตให้ไถ่ตัวเอง ต้องการเงินเพื่อไถ่ตัวเองเป็นอิสระ ซะกาตสามารถใช้เพื่อซื้ออิสรภาพให้พวกเขา
- คนมีหนี้หมายถึง ผู้มีหนี้สินล้นตัว ไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ ซะกาตสามารถใช้เพื่อชำระหนี้แทน
- ฟีซาบีลิลลาห์ (ทางของอัลลอฮ์) หมายถึง ผู้อุทิศตนเพื่อศาสนาอิสลาม เช่น นักรบในศาสนา ต้องการเงินทุนสนับสนุนในการทำกิจกรรมเพื่อศาสนา ซะกาตสามารถใช้เพื่อสนับสนุนพวกเขา
- อิบนุส Sabil (ผู้เดินทาง) หมายถึง ผู้เดินทางไกล ไม่มีทรัพย์สินเพียงพอต้องการเงินทุนเพื่อเดินทางกลับบ้านหรือไปยังจุดหมายปลายทาง ซะกาตสามารถใช้เพื่อช่วยเหลือพวกเขา
สรุป ผู้รับซะกาต 8 ประเภท มีรายละเอียดและเงื่อนไขแตกต่างกันไป ผู้จ่ายซะกาตควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เพื่อเลือกผู้รับซะกาตที่ตรงกับหลักเกณฑ์
สรุปเกี่ยวกับการบริจาคซะกาตผ่านโครงการต่างๆ
ใครที่ต้องการบริจาคซะกาตที่จัดโดยมูลนิธิที่น่าเชื่อถืออย่างเช่น โครงการซะกาตของ UNHCR เป็นโครงการเปิดโอกาสให้ชาวมุสลิมได้บริจาคซะกาตเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่ยากไร้ ซะกาตที่บริจาคให้กับโครงการนี้นำไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก โดย UNHCR มุ่งเน้นช่วยเหลือครอบครัวผู้ลี้ภัย คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว และเด็ก ๆ ผ่านช่องทางการช่วยเหลือมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้
โครงการซะกาตของ UNHCR มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เงินบริจาคทั้งหมด 100% จะถูกนำไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเป็นการแบ่งปันความสุข และสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม