ซื้อประกันรถยนต์แบบไหนคุ้มค่าที่สุด? พร้อมวิธีเลือกประกันให้เหมาะกับรถ
ซื้อประกันรถยนต์แบบไหนคุ้มค่า เลือกแผนคุ้มครองที่ใช่ เปรียบเทียบราคา เช็กรายละเอียด ตรวจสอบความมั่นคงของบริษัทประกัน พร้อมดูรีวิว เพื่อป้องกันปัญหาการเคลม
ประกันรถยนต์เป็นสิ่งที่ช่วยคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สินให้กับเจ้าของรถรวมถึงบุคคลที่สามในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งปัจจุบันการซื้อประกันรถยนต์ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเหมือนในอดีต เนื่องจากสามารถเลือกซื้อผ่านระบบออนไลน์ได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเดินทางไปที่บริษัทหรือติดต่อตัวแทนให้เสียเวลา การซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ยังสะดวก รวดเร็ว และมีตัวเลือกให้เปรียบเทียบได้หลากหลาย ตอบโจทย์คนยุคใหม่มากขึ้น แล้วอะไรบ้างที่ควรพิจารณาก่อนซื้อประกันรถยนต์มาดูกันเลย
ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนซื้อประกันรถยนต์
ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อประกันรถยนต์ให้ลองถามตนเองว่า ประกันภัยเดิมตอบโจทย์การใช้งานอยู่หรือไม่ มีปัญหาในการเคลมและการใช้บริการหรือเปล่า ซึ่งเจ้าของรถสามารถที่จะซื้อประกันรถยนต์จากบริษัทประกันภัยเดิมได้ แต่หากต้องการเปลี่ยนจะด้วยเหตุผลของราคา ความคุ้มครองที่ได้รับ ส่วนลด และอื่น ๆ ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
1. ทุนประกันและความคุ้มครอง
หากต้องเลือกซื้อประกันภัยใหม่ให้เปรียบเทียบและตรวจสอบว่าวงเงินคุ้มครองเพียงพอและเหมาะสมกับความต้องการหรือไม่ แม้จะเป็นประกันภัยในระดับชั้นเดียวกัน แต่การตีมูลค่าความคุ้มครองของรถจะแตกต่างกัน
2. ค่าเบี้ยประกัน
เมื่อพิจารณาถึงทุนประกันและความคุ้มครองแล้ว ลำดับต่อไปให้พิจารณาเปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่าระหว่างบริษัทประกันต่าง ๆ เพราะบางบริษัทอาจให้ค่าเบี้ยถูกกว่า แต่ให้ความคุ้มครองเท่ากัน เป็นต้น
3. ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน
นอกจากราคาประกันภัยและความคุ้มครองที่จะได้รับ ควรพิจารณาในส่วนของชื่อเสียงและความมั่นคงของบริษัทประกันภัยด้วย เพราะในอดีตที่ผ่านมามีบริษัทประกันภัยรถยนต์หลายแห่งที่ประสบปัญหาการล้มละลาย ทำให้อู่หรือศูนย์บริการหลายแห่งต่างไม่รับเคลมประกันของบริษัทเหล่านั้น
4. บริการหลังการขาย
แนะนำให้พิจารณาจากการดูรีวิวของคนใช้บริการประกันรถยนต์ การให้บริการและเคลมประกันมีขั้นตอนการเคลมที่รวดเร็วและสะดวกหรือไม่
5. โปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษ
ตรวจสอบว่ามีโปรโมชั่นหรือส่วนลดใด ๆ ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ เช่น รับส่วนลดประวัติดี ขับดีไม่มีเคลม มีกล้องติดรถยนต์รับส่วนลดเพิ่ม หรือการระบุชื่อผู้ขับขี่ลงในกรมธรรม์ สิ่งเหล่านี้สามารถนำมาเป็นส่วนลดกับทางบริษัทประกันได้
ประเภทของประกันรถยนต์มีอะไรบ้าง?
ประกันรถยนต์สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
1. ประกันชั้น 1
ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี ทั้งอุบัติเหตุ การชน น้ำท่วม ไฟไหม้ รถหาย และความเสียหายต่อตัวรถทั้งที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
2. ประกันชั้น 2+
ให้ความคุ้มครองรองมาจากประกันชั้น 1 ต่างกันเพียงเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะต้องมีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น นอกจากนั้นไม่ว่าจะเป็นรถหาย ไฟไหม้ ความเสียหายจากอุบัติเหตุกรณีมีคู่กรณี ให้ความคุ้มครองทั้งหมด
3. ประกันชั้น 3+
ให้ความคุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี โดยจะได้รับความคุ้มครองทั้งรถของผู้เอาประกันและคู่กรณี รวมถึงค่ารักษาพยาบาลและกรณีที่เสียชีวิต
4. ประกันชั้น 3
ในส่วนของประกันชั้น 3 จะให้ความคุ้มครองรถยนต์หรือทรัพย์สินของคู่กรณี ค่ารักษาพยาบาล และในกรณีที่เสียชีวิตทั้งคู่กรณีและเจ้าของรถที่ทำประกัน
ซื้อประกันรถยนต์แบบไหนคุ้มค่าที่สุด?
การเลือกซื้อประกันรถยนต์ให้คุ้มค่าขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ประกอบไปด้วย
- รถใหม่ รถเก่า หากเป็นรถใหม่อายุการใช้งานประมาณ 5 - 7 ปี ต้องการความคุ้มครองสูงสุด ควรเลือกประกันชั้น 1 เพราะให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี ส่วนรถเก่าอาจไม่ต้องการความคุ้มครองมาก เพราะหาอะไหล่ง่าย อู่ซ่อมมีมาก และที่สำคัญมูลค่าของรถจะค่อย ๆ ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น
- เลือกประเภทการซ่อม หากเลือกการซ่อมเป็นอู่ในเครือจะมีค่าเบี้ยถูกกว่าซ่อมศูนย์บริการ
- งบประมาณ หากต้องการความคุ้มครองในราคาประหยัดและขับรถในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ ประกันชั้น 2+ หรือ 3+ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
- รถเก่าและใช้งานรถไม่บ่อย แต่ยังต้องการประกันที่มีค่าเบี้ยถูกที่สุด ประกันชั้น 3 เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์
ปัจจุบันการซื้อประกันรถยนต์มีความสะดวกมากขึ้น เพราะสามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้ ช่วยให้เจ้าของรถสามารถเปรียบเทียบราคาหรือเลือกแผนที่เหมาะสมได้ด้วยตัวเองภายในเวลาไม่นาน อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำประกันรถยนต์ของคุณ
ที่มาข้อมูล
- https://insurverse.co.th/car-insurance/
- https://www.ttbbank.com/th/fin-tips/detail/how-to-select-motor-insurance

















