Backlink คืออะไร เทคนิคติดอันดับชนะคู่แข่งบนเว็ปไซต์
Backlink คือ การทำ SEO ในรูปแบบของการทำลิงก์เว็บไซต์ปลายทางมายังเว็บไซต์ต้นทางเพื่อเป็นการสร้างเครดิตที่ดีและให้ Google มองว่าเว็บไซต์มีคุณภาพ
สำหรับการทำ SEO (Search Engine Optimization) แล้วหลายคนอาจมุ่งเน้นไปที่การปรับแต่งหน้า On-Page ของเว็บไซต์หรือเขียนเนื้อหาให้ดี มีคุณภาพ เพื่อให้ Google มองว่าหน้าเว็บไซต์ของเรานั้นมีคุณภาพและจะได้ติดอันดับดี ๆ แต่ก็ยังมีอีกปัจจัยหนึ่ง ที่จำเป็นและสำคัญต่อการทำให้เว็บไซต์เรามีคุณภาพนั่นคือการทำ “Backlink” นั่นเอง
การทำ Backlink หรือการทำ Off-Page จะเป็นการทำบทความที่มีเนื้อหาโฟกัส Keyword เดียวกันและทำการอ้างถึงไปยัง On-Page เพื่อเป็นการให้เครดิตและเพิ่มความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น โดยในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Backlink กันว่า Backlink คืออะไร, มีความสำคัญอย่างไรต่อการทำ SEO, ประเภทของ Backlink มีอะไรบ้าง รวมไปถึงการพิจารณา Backlink ที่มีคุณภาพควรเช็กอย่างไรบ้าง
Backlink คืออะไร
Backlink คือ การเขียนบทความในเว็บไซต์อื่นและมีการใส่ลิงก์เพื่อทำการเชื่อมกลับมาที่หน้าเว็บไซต์ On-Page โดยการทำ Backlink จะเป็นการเพิ่มเครดิตให้กับหน้า On-Page ดังนั้นถ้าหากว่ามีการอ้างถึง (Referring) จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ก็จะทำให้ Google มองว่าหน้าเว็บไซต์ On-Page ของเรามีคุณภาพและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีอันดับ SEO ที่สูงมากขึ้น
เปรียบเทียบได้ว่าเหมือนเราเจอร้านคาเฟ่เปิดใหม่ที่สวยและน่าถ่ายรูปมากแต่ก็มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้เรารู้สึกลังเลว่าจะไปคาเฟ่แห่งนี้ดีไหมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคา การเดินทาง คุณภาพของอาหารและเครื่องดื่ม แต่พอมี Influencer ที่เรารู้จักไปรีวิวหรือมีการบอกต่อจากเพื่อนที่เคยไปคาเฟ่แห่งนี้มา ก็จะทำให้เรามั่นใจในคุณภาพร้านคาเฟ่แห่งนี้ได้มากยิ่งขึ้น เพราะร้านได้รับเครดิตจากเหล่าบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือว่าร้านนี้มีคุณภาพจริง
ความสำคัญของ Backlink
หลายคนคงรู้ว่าการทำ SEO ให้ติดในอันดับดี ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งการทำ Backlink เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้การทำ SEO มีโอกาสติดในอันดับที่ดีมากยิ่งขึ้น โดย Google จะมองว่าเว็บไซต์ที่มี Backlink จำนวนมากเป็นเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพสูง เนื่องจากเว็บไซต์อื่น ๆ ให้ความสำคัญและยอมรับเนื้อหาของเว็บไซต์เรา ดังนั้นเว็บไซต์ที่มี Backlink จำนวนมากจึงมีโอกาสที่จะติดอันดับการค้นหาสูงกว่าเว็บไซต์ที่ไม่มี Backlink
ซึ่งการทำ Backlink จะมีประโยชน์ต่อการทำ SEO ดังนี้
- ช่วยเพิ่มคะแนนความน่าเชื่อถือ (Trust Score)
Google จะมองว่าเว็บไซต์ที่มีการทำ Backlink เป็นเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพสูง เพราะเว็บไซต์อื่น ๆ ให้ความสำคัญและยอมรับเนื้อหาของเว็บไซต์เรา ซึ่งจะเป็นการเพิ่ม Trust Socre ให้สูงมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้เว็บไซต์มีอันดับ SEO ที่สูงมากยิ่งขึ้น
- ช่วยเพิ่มปริมาณการเยี่ยมชมเว็บไซต์ (Traffic)
เมื่อเว็บไซต์ของเรามี Backlink จำนวนมาก จะทำให้เว็บไซต์ของเราเป็นที่รู้จักและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถคลิกลิงก์จากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่มีการทำ Backlink ไปยังเว็บไซต์ของเราได้ในทันที ดังนั้นเว็บไซต์ที่มี Backlink จำนวนมากจึงมีโอกาสที่จะดึงดูดผู้เข้าชมได้มากกว่าเว็บไซต์ที่ไม่มี Backlink นั่นเอง
- ช่วยเพิ่มโอกาสในการติด Featured Snippets
Featured Snippets คือ ผลการค้นหาที่แสดงผลในรูปแบบของกล่องข้อความขนาดเล็กที่ด้านบนสุดของผลการค้นหา มักถูกเรียกว่า “SEO อันดับ 0” โดย Google จะเลือกและแสดงผลเนื้อหาที่ตรงประเด็นและกระชับจากเว็บไซต์ที่ตรงกับคำค้นหาของผู้ใช้ ดังนั้นเว็บไซต์ที่มี Backlink จำนวนมากจึงมีโอกาสที่จะติด Featured Snippets ได้มากกว่าเว็บไซต์ที่ไม่มี Backlink ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการทำ Backlink นั้น จะต้องคำนึงถึงคุณภาพของ Backlink ด้วย โดย Backlink ที่ดีควรมาจากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพสูง และต้องมีเนื้อหาที่ตรงกับเนื้อหาภายในเว็บไซต์ของเรา หากเราสร้าง Backlink จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำหรือเนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกัน อาจส่งผลเสียต่อคะแนนความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของเราได้
ประเภทของ Backlink มีอะไรบ้าง
หลังจากที่ได้ทราบถึงความสำคัญของ Backlink ที่มีต่อการทำ SEO กันไปแล้ว ถัดมาจะมาทำความเข้าใจเพิ่มเติมกันว่าประเภทของ Backlink มีอะไรกันบ้าง
Dofollow Backlink
Backlink แบบ Dofollow คือ Backlink ที่อนุญาตให้ Bot ของ Google เข้ามาติดตามและดึงค่า PageRank จากเว็บไซต์ต้นทางไปยังเว็บไซต์ปลายทางได้ ซึ่ง Dofollow Backlink เรียกได้ว่าเป็น Backlink ที่ใคร ๆ ก็อยากได้เพราะจะช่วยให้เว็บไซต์ปลายทางได้รับ Trust Score จาก Google มากขึ้น
การสร้าง Dofollow Backlink มีข้อดีคือ
- ช่วยเพิ่มคะแนนความน่าเชื่อถือ (Trust Score) ของเว็บไซต์ปลายทาง
- ช่วยเพิ่มปริมาณการเข้าชม (Traffic) ของเว็บไซต์ปลายทาง
- ช่วยเพิ่มโอกาสในการติดอันดับการค้นหา (SEO Ranking)
Nofollow Backlink
Backlink แบบ Nofollow คือ Backlink ที่ไม่อนุญาตให้ Bot ของ Google เข้ามาติดตามและดึงค่า PageRank จากเว็บไซต์ต้นทางไปยังเว็บไซต์ปลายทาง ซึ่งในด้าน SEO Nofollow Backlink จะยังคงได้ประโยชน์ในการเพิ่ม Domain Rating แต่จะไม่มากเท่าการทำ Dofollow Backlink โดยลิงก์ที่เป็น Nofollow ส่วนใหญ่จะเป็นลิงก์ที่มาจาก Social Media ต่าง ๆ อย่าง Facebook หรือ Instagram
ถึงแม้ว่าการทำ Nofollow Backlink อาจจะดูไม่มีประโยชน์เท่า Dofollow Backlink ในเชิง SEO แต่ก็ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นอย่างเช่น การสร้าง Awareness จากการที่มีคนนำลิงก์ของเว็บไซต์เราไปใส่และมีโอกาสที่จะสร้าง Traffic จากเว็บไซต์ต้นทางมายังเว็บไซต์ของเราได้
Sponsored Backlink
Sponsored Backlink คือ Backlink ที่สร้างขึ้นโดยการจ่ายเงินหรือแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันและกัน โดยมักใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การโปรโมตสินค้าหรือสร้างการรับรู้ของแบรนด์ โดย Sponsored Backlink มักมาจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูงและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ปลายทาง
Sponsored Backlink มีข้อดีคือ สามารถช่วยให้เว็บไซต์ปลายทางได้รับคะแนนความน่าเชื่อถือ (Trust Score) จาก Google มากขึ้น และช่วยให้เว็บไซต์ปลายทางเป็นที่รู้จักและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม Sponsored Backlink ก็มีความเสี่ยงที่อาจส่งผลเสียต่อเว็บไซต์ปลายทางได้เช่นกัน ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
- หากเว็บไซต์ต้นทางมีคุณภาพต่ำหรือมีเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ปลายทาง ก็อาจส่งผลเสียต่อคะแนนความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ปลายทางได้
- หากเว็บไซต์ต้นทางมีประวัติการทำ SEO แบบ Black Hat ก็อาจส่งผลเสียต่อเว็บไซต์ปลายทางด้วยเหมือนกัน
- มีโอกาสที่ทาง Google จะมองว่า Sponsored Backlink เป็นการสร้าง Backlink ปลอม ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อคะแนนความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ปลายทางได้
UGC Backlink
UGC Backlink คือ Backlink ที่สร้างขึ้นโดยผู้ใช้เว็บไซต์ (User Generated Content) เช่น คอมเมนต์ รีวิว บทความ รูปภาพ หรือวิดีโอ โดย UGC Backlink มักมาจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูงและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ปลายทาง ซึ่งการทำ UGC Backlink จะมีข้อดีคือ
- UGC Backlink ถือว่าเป็นหนึ่งใน Backlink ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือที่สุด เนื่องจากเกิดจากความตั้งใจของผู้ใช้เว็บไซต์เอง
- ช่วยเพิ่มคะแนนความน่าเชื่อถือ (Trust Score) ให้กับเว็บไซต์ปลายทาง
- ช่วยเพิ่มปริมาณการเข้าชม (Traffic) ให้กับเว็บไซต์ปลายทาง
Dofollow กับ Nofollow Backlink ต่างกันอย่างไร
เมื่อได้ทราบประเภทของ Backlink กันไปแล้วว่ามีประเภทไหนบ้าง บางคนอาจสงสัยว่า Dofollow กับ Nofollow Backlink ที่มีวิธีการทำคล้ายคลึงกันนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร โดยจุดที่แตกต่างกันของ Dofollow กับ Nofollow คือ Dofollow จะอนุญาตให้ Google Bot เข้ามาติดตามและดึงค่า PageRank จากเว็บไซต์ต้นทางไปยังเว็บไซต์ปลายทางได้ ในขณะที่ Nofollow จะไม่อนุญาตให้ Google Bot เข้ามาติดตามและดึงค่า PageRank จากเว็บไซต์ต้นทางไปยังเว็บไซต์ปลายทางได้
ซึ่งในเชิงของการทำ SEO แล้ว หากต้องการเพิ่มคะแนนความน่าเชื่อถือ (Trust Score) และโอกาสในการติดอันดับการค้นหาดี ๆ ควรสร้าง Dofollow Backlink จากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพสูง และมีเนื้อหาที่ตรงกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของเรา หรือหากต้องการป้องกันสแปมหรือสร้าง Backlink ปลอมก็ควรสร้าง Nofollow Backlink ขึ้นมา
Backlink คุณภาพควรเป็นอย่างไร
หลังจากที่ได้ทราบเรื่องราวของการทำ Backlink มาจนถึงตรงนี้แล้ว หลายคนก็คงอยากรู้กันแล้วว่า Backlink ที่ดีมีคุณภาพเหมาะแก่การทำ SEO ควรมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ซึ่ง Backlink ที่มีคุณภาพควรมีคุณสมบัติดังนี้
มาจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือสูง
เว็บไซต์ต้นทางที่ทำ Backlink ควรเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือ เพราะ Bot ของ Google จะมองว่าการส่ง Backlink จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพจะเป็นการเพิ่มเครดิตที่ดีให้แก่เว็บไซต์ปลายทาง
มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน
เนื้อหาภายในเว็บไซต์ต้นทางและเว็บไซต์ปลายทางที่ทำ Backlink ควรมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันหรือมีการใช้ Keyword ในการทำคอนเทนต์เหมือนกัน เพื่อให้ Google มองว่าลิงก์ที่เชื่อมนั้นมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน ไม่ใช่การสแปม
เป็น Dofollow Backlink
จากที่ได้ทราบกันไปแล้วเกี่ยวกับการทำ Dofollow Backlink จะทำให้ Bot ของ Google เข้ามาติดตามและดึงค่า PageRank จากเว็บไซต์ต้นทางไปยังเว็บไซต์ปลายทาง
มี Anchor Text ที่เหมาะสม
Anchor Text คือ ข้อความที่เป็นจุดในการใส่ลิงก์ที่เชื่อมไปยังเว็บไซต์ปลายทาง ซึ่งควรเป็นคำหรือ Keyword ที่ตรงกับเนื้อหาของเว็บไซต์ปลายทาง โดยการใส่ Anchor Text ไม่ได้มีตำแหน่งที่ใส่ตายตัวแต่ควรอยู่ในช่วง 20% แรกของเนื้อหาบทความ
มีจำนวนที่เหมาะสม
การสร้าง Backlink มากเกินไปอาจทำให้ Google มองว่าเป็นการทำสแปมได้ ดังนั้นควรสร้าง Backlink ในปริมาณที่เหมาะสมไม่มากจนเกินไป
สรุป Backlink คืออะไร
การทำ Link Building หรือการทำ Backlink คือกลยุทธ์ในการทำให้เว็บไซต์อื่นลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรา เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่เว็บไซต์ โดย Backlink เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้ในการพิจารณาการจัดอันดับเว็บไซต์จากการค้นหา (Search Engine Result Page: SERP) ถ้าหากทำ Backlink หรือ Off-Page ที่มีคุณภาพมากเท่าไร การส่งเครดิตไปให้เว็บไซต์ On-Page ยิ่งเป็นผลดีมากขึ้นตาม
ซึ่งข้อดีของการทำ Backlink ที่มีผลต่อ SEO จะมีทั้งการช่วยเพิ่มคะแนนความน่าเชื่อถือ (Trust Score) ช่วยเพิ่มปริมาณการเข้าชมของเว็บไซต์ (Traffic) เนื่องจากลิงก์ที่มาจากเว็บไซต์อื่น ๆ และช่วยเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ (Awareness) ที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้จักเว็บไซต์ของเราได้มากยิ่งขึ้น
การทำ SEO เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและอาศัยความอดทนในการปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์ รวมไปถึงการเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึมอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นอย่าลืมหมั่นตรวจเช็กและปรับปรุงคุณภาพเว็บไซต์ของเราเพื่อจะได้สามารถรักษาอันดับ SEO ดี ๆ ไว้ได้