7 จุดร้อยไหม ยกกระชับ ปรับรูปหน้า จุดไหนทำได้ จุดไหนไม่แนะนำ ทำแล้วเสี่ยง!
ร้อยไหม
ร้อยไหมเป็นหัตถการทีได้รับความนิยมในคลินิกเสริมความงาม มีจุดเด่นในเรื่องของการยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อย ให้เต่งตึง เรียบเนียน ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสวยงาม แต่การร้อยไหมไม่สามารถจะยกกระชับทุกจุดที่หย่อนคล้อยได้ ก่อนตัดสินใจร้อยไหม มาดูว่ามีจุดไหนบ้างที่สามารถร้อยไหมได้อย่างเห็นผลและปลอดภัย จุดไหนที่ไม่แนะนำ ทำแล้วเสี่ยง! พร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมตรงจุดและเห็นผลชัดเจน
ร้อยไหมหน้าเรียว
- ทำได้
ร้อยไหมหน้าเรียว ร้อยไหมดึงหน้า ร้อยไหมยกกระชับหน้า สามารถทำได้ทั้งหมด การร้อยไหมเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ตรงจุด สามารถยกกระชับใบหน้า แก้มที่หย่อนคล้อย ให้เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ ปรับรูปหน้าให้เรียวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลรวดเร็ว ซึ่งถ้าหากร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง จะทำให้เกิดเป็นเส้นใยอีลาสตินที่ช่วยประคองผิวหรือพยุงผิวที่หย่อนคล้อยขึ้นได้ ทำให้หน้ากระชับได้สัดส่วนมากขึ้น
ขั้นตอนร้อยไหมหน้าเรียว หมอจะใช้ไหมละลายก้างปลาสอดลงในชั้นผิวหนังตามโครงสร้างของใบหน้า เมื่อสอดลงไปแล้วผิวจะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามแนวเส้นไหมที่คล้ายกับตะขอดึง โดยจะมีจุดที่ดึงบริเวณแก้มส่วนล่างและจุดที่ยึดอยู่บริเวณขมับดึงเข้าหากันจึงสามารถดึงแก้มที่หย่อนขึ้นได้ทันที
เมื่อดึงแล้วใบหน้าที่หย่อนคล้อยจะมีความกระชับขึ้น ดูเต่งตึง และปรับรูปหน้าเรียว V Shape ได้สวยเข้ารูป คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4 เดือน-1 ปี
ร้อยไหมจมูก
- ทำได้
ร้อยไหมจมูก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเสริมจมูกให้โด่งขึ้นได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้ว แต่ต้องการเพิ่มสันจมูกให้ดูคมขึ้น ปลายพุ่ง ดั้งโด่งขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ ถ้าไม่มีฐานจมูกเลย แนะนำให้ใช้การผ่าตัดเสริมซิลิโคนหรือใช้กระดูกอ่อนของตัวเองแทนจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า
ขั้นตอนการร้อยไหมจมูก หมอจะร้อยไหมเข้าไปเรียงกันบริเวณสันจมูกให้ได้เป็นทรงโด่งขึ้นมา คล้ายกับการเสริมด้วยซิลิโคน เส้นไหมที่ใช้จะนิยม คือ ไหมก้างปลา PDO ที่มีความยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ ขณะที่ร้อยจะไม่รู้สึกระคายเคือง และไหมก้างปลา PCL ที่มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด แข็งทน ไม่เปราะหักง่าย
หลังร้อยไหมจะทำให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อของผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้มีเนื้อจมูกขึ้นมา ซึ่งแต่ละคลินิกจะมีเทคนิคเฉพาะในการร้อยไหมจมูกที่แตกต่างกัน เช่น เทคนิคร้อยไหมดีดปลายจมูก ทำให้จมูกโด่งขึ้น ปลายจมูกเรียวพุ่งเป็นทรงสวยอย่างจมูกทรงหยดน้ำ คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือน-2 ปี
ร้อยไหม Foxy Eyes
- ทำได้
การทำตาแบบ Foxy Eyes หรือตาจิ้งจอก กำลังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะคนที่อยากปรับลุคให้ดูโฉบเฉี่ยวขึ้น สามารถใช้วิธีร้อยไหม Foxy Eyes เพื่อปรับรูปตาให้ดูเฉี่ยวคมขึ้นได้ รวมถึงคนที่มีปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย หนังตาตก คิ้วตก ตาดูเศร้า ก็สามารถร้อยไหม Foxy Eyes ช่วยยกคิ้ว ยกหางตา ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้นได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม
ขั้นตอนการร้อยไหม Foxy Eyes หมอจะใช้ไหมละลายที่มีเงี่ยงที่เรียกว่าไหม Tesslift Foxy eye ไหมสีม่วง เป็นไหมโครงตาข่าย โดย 1 เส้น จะเทียบเท่ากับการร้อยไหม 2 เส้น ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไป 80 เท่า วัสดุมีความแข็งแรง ผ่านการรับรองจาก CE Approved (European Conformity)
เมื่อสอดลงในชั้นผิวหนัง สามารถจะเกี่ยวดึงผิวหนังบริเวณหางตาให้ยกขึ้นตามแนวเส้นไหม ทำให้หางตา หางคิ้วยกขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ คล้ายกับการร้อยไหมหน้าเรียว แต่จะเน้นบริเวณหางตาและคิ้วเป็นหลัก คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-5 เดือน ถ้าหากหางตาหรือคิ้วที่ยกขึ้นเริ่มคลายและตกลงมา ก็สามารถกลับมาร้อยไหม Foxy eyes ซ้ำได้
ร้อยไหมหน้าผาก
- ไม่แนะนำ
หากมีปัญหาริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ในเคสปกติทั่วไป หมอจะไม่แนะนำให้ทำ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนหลังร้อยไหมได้ เช่น บริเวณหน้าผากอาจเป็นคลื่น ดูแข็ง ดูไม่เป็นธรรมชาติ ใบหน้าดูไม่สมมาตร ไม่เท่ากัน นอกจากนี้บริเวณหน้าผากจะมีเส้นประสาทและเส้นเลือดที่สำคัญอยู่เป็นจำนวนมาก หากเลือกใช้เส้นไหม ใช้เข็มร้อยไหมผิดประเภท อาจเป็นอันตรายถึงขั้นเป็นอัมพาตที่ใบหน้าได้
การแก้ปัญหาริ้วรอยหน้าผากที่ตรงจุด ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี คือ การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากเพื่อลดริ้วรอย โบท็อกจะไปออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (์Neurotoxin) ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว เมื่อแสดงสีหน้าหรือเลิกคิ้ว จะไม่เกิดการพับของผิว ช่วยลดริ้วรอยได้ โดยจะรู้สึกว่าผิวเริ่มตึงขึ้นใน 3-4 วัน เห็นผลชัดเจนใน 7-14 วัน ระยะเวลาคงผลลัพธ์อยู่ได้นานจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่เลือกใช้
ในกรณีที่ดื้อโบท็อกก็ยังมีวิธีอื่น เช่น ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หรือถ้ากลัวเข็ม ก็มีเครื่องมือทันสมัย เช่น Hifu, Ulthera, Thermage ที่สามารถจัดการกับปัญหาริ้วรอยบนหน้าผากได้อย่างปลอดภัยและเห็นผล
ร้อยไหมเหนียง
- ไม่แนะนำ
หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าการร้อยไหมจะช่วยเก็บเหนียงหรือคางสองชั้น ซึ่งเกิดจากการสะสมของไขมันและความหย่อนคล้อยได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ไม่แนะนำให้ทำ เพราะถึงแม้การร้อยไหมจะช่วยกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาตึงและเรียบเนียนได้ แต่เนื่องจากเหนียงใต้คาง เกิดจากไขมันที่สะสมอยู่บริเวณคาง ซึ่งการร้อยไหมไม่สามารถกำจัดไขมันได้
หากร้อยไหมเหนียง นอกจากจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุดแล้ว ยังทำให้เนื้อบริเวณเหนียงเพิ่มขึ้น จากการที่ผิวของเราสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ และไม่ว่าจะร้อยไหมเหนียง เก็บเหนียงด้วยไหมชนิดใดก็ตาม สุดท้ายแล้วไม่นานผิวก็จะตกลงมาอยู่ดี เพราะสาเหตุของเหนียงมาจากไขมันเป็นส่วนใหญ่ การยกกระชับผิวโดยทั่วไปจึงไม่ช่วยกำจัดไขมันเหนียงให้หายได้ ผลลัพธ์ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
ถ้าอยากลดเหนียง วิธีที่นิยมและเห็นผล คือ การฉีดโบท็อก เมโสแฟต และ Hifu ซึ่งช่วยลดเหนียง พร้อมยกกระชับหน้า สามารถทำร่วมกันได้ เพื่อผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น
ร้อยไหมยกมุมปาก
- ไม่แนะนำ
ปัญหามุมปากตก ส่งผลต่อใบหน้าโดยรวม ทำให้ดูเหมือนเป็นคนที่หน้าบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลา ดูไม่สดใส และยังทำให้ดูแก่อีกด้วย
แม้การร้อยไหมยกมุมปากสามารถยกมุมปากได้ก็จริง โดยหมอจะใช้เข็มนำเส้นไหมละลายสอดลงในชั้นผิวหนังบริเวณมุมปาก เงี่ยงไหมที่คล้ายตะขอจะเกี่ยวดึงผิวขึ้นได้ทันที คล้าย ๆ ตะขอเกี่ยว ยกกระชับใบหน้า ช่วยให้มุมปากให้ยกขึ้นได้ แต่ยกได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ได้ผลลัพธ์ไม่คุ้มค่า หมอจึงไม่ค่อยแนะนำให้ทำ อีกอย่างการร้อยไหมยกมุมปากต้องดึงไหมตึงมาก ๆ เสี่ยงไหมขาด หน้าเป็นคลื่น เกิดรอยบุ๋มของผิวหนัง หรือผิวหนังสองข้างยกกระชับไม่เท่ากันได้
วิธีที่นิยมและได้ผล คือ การฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก หมอจะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณมุมปากและริมฝีปาก สามารถแก้ไขได้ตรงจุด ยกมุมปากได้ปลอดภัย และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ริมฝีปากอวบอิ่ม ดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย
ร้อยไหมคอลลาเจน
- ไม่แนะนำ
หลายคลินิกยังมีการโปรโมทเกี่ยวกับการร้อยไหมคอลลาเจนว่าสามารถช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึง หน้าเด็กลงได้ในทันที หลังร้อยไหมจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน สร้างความยืดหยุ่นให้กับผิวหน้า แต่ไม่สามารถจะช่วยดึงยกกระชับผิวได้
เนื่องจากไหมที่ใช้จะเป็นไหมเรียบหรือไหม mono ร้อยในผิวชั้นตื้น ไม่ไช่ไหมก้างปลาที่มีเงี่ยงเกี่ยวผิว เหมือนกับในจุดอื่น ๆ ซึ่งด้วยความที่เป็นไหมเส้นเล็ก ทำให้ต้องใช้ไหมจำนวนหลายเส้นในการร้อย ประมาณ 10-20 เส้นต่อหนึ่งจุดที่ทำ เมื่อร้อยซ้ำกันถี่ ๆ มากเกินไป จะทำให้เกิดเป็นพังผืดได้ในอนาคต
ถ้าเป็นคลินิกเสริมความงามชั้นนำ จะไม่นิยมใช้ไหม mono แต่จะใช้เป็นไหมก้างปลา ที่ถูกพัฒนาให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้น ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน เสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวยกกระชับได้เช่นกันแทน ประกอบกับเทรนด์การร้อยไหมในปัจจุบันจะเน้นไปที่การยกกระชับหน้ามากกว่า เช่น ร้อยไหมหน้าเรียว ร้อยไหมดึงหน้า ถ้าอยากกระตุ้นคอลลาเจน จะนิยมทำ Hifu เพราะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน และอยู่ได้นานกว่า
ร้อยไหม กี่วันเห็นผล?
ร้อยไหมสามารถเห็นผลได้ทันที หลังการทำการร้อยไหมและจะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนขึ้นตามลำดับ
- หลังร้อยไหมอาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเล็กน้อย
- 3-4 วันแรกหลังร้อยไหม จะมีอาการบวมมากขึ้น
- 4 วันหลังร้อยไหม ถ้ายังมีอาการบวมแดงมากขึ้น แนะนำให้รีบกลับมาพบหมอเพื่อตรวจประเมินอาการ และรับประทานยาแก้ปวด ลดบวมเพิ่ม
- 14 วัน อาการบวมจะยุบลง ใบหน้าเรียวสวย ได้รูปชัดเจน และเข้าที่ใน 1 เดือน
ร้อยไหม เจ็บไหม?
ระหว่างร้อยไหมจะไม่รู้สึกเจ็บ เพราะก่อนร้อยไหมจะมีการแปะยาชาหรือฉีดยาชาก่อนทุกครั้ง ความเจ็บที่เกิดขึ้นจะเกิดจากการฉีดยาชา ในบางรายอาจมีอาการปวดหรือตึงผิวหน้าในช่วงแรก แต่อาการเหล่านี้จะหายได้เองในช่วง 1-2 สัปดาห์ และสามารถใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ
ร้อยไหม อันตรายไหม?
การร้อยไหมไม่มีอันตราย หากเลือกคลินิกร้อยไหมที่ได้มาตรฐาน ร้อยไหมกับหมอที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคร้อยไหมที่ถูกต้อง และเลือกใช้ไหมที่มีคุณภาพ หลังร้อยไหมสามารถเข้ากันได้ดีกับผิวหนัง สลายได้ 100% โดยไม่มีสารตกค้าง
ร้อยไหมที่ไหนดี?
- คลินิกมีความน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง
- แสดงเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการ 11 หลัก ที่ป้ายด้านหน้าสถานพยาบาล
- แสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย
- คลินิก สะอาด ปลอดเชื้อ บรรยากาศของคลินิกกว้างขวาง มีห้องทำหัตถการที่เพียงพอ
- ตั้งอยู่ในทำเลที่สังเกตเห็นง่าย มีหลายสาขาพร้อมให้บริการ เดินทางสะดวก
- มีการรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และมีความเป็นกลาง
- คลินิกที่มีหมอประจำ และเป็นหมอที่มีประสบการณ์
การร้อยไหมต้องใช้ประสบการณ์สูง ไม่ใช่ใครก็สามารถทำได้ ต้องเป็นหมอที่มีประสบการณ์ด้านการร้อยไหม จึงจะสามารถประเมินปัญหาได้อย่างตรงจุด เลือกใช้เส้นไหม และรู้เทคนิคร้อยไหมที่ถูกต้อง บวมช้ำน้อย
- คลินิกที่ใช้ไหมแท้ มีคุณภาพ
ไหมที่นิยมนำมาร้อยไหมจะเป็นไหมก้างปลาหรือไหมเงี่ยง ซึ่งมีความปลอดภัย เป็นไหมละลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ก่อนร้อยไหมจึงควรศึกษาข้อมูลชนิดของเส้นไหม วัสดุที่ใช้ทำเส้นไหม รวมถึงคุณภาพของไหมแต่ละชนิด เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- คลินิกที่ราคาสมเหตุสมผล
แต่ละคลินิกจะมีราคาร้อยไหมที่แตกต่างกัน และมักจะตั้งชื่อไหมที่ใช้ในการร้อยให้แตกต่างจากของคลินิกอื่น เพื่อให้ง่ายต่อการทำการตลาด หรือให้ไม่สามารถตรวจสอบและเปรียบเทียบราคาได้ ก่อนร้อยไหมจึงต้องศึกษาข้อมูลในเบื้องต้น ราคาต้องสมเหตุสมผล เพื่อให้ไม่ถูกหลอก
- คลินิกที่มีการติดตามผลหลังทำ และมีช่องทางการติดต่อที่สะดวก
ควรเลือกคลินิกที่มีการนัดหมายเพื่อติดตามผลในภายหลัง ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวทั้งก่อน-หลังร้อยไหม และมีช่องทางไว้สำหรับติดต่อได้สะดวก เช่น Inbox Facebook หรือ Line@ เพื่อสอบถามกับหมอได้โดยตรง
ก่อนตัดสินใจร้อยไหม ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน หมอมีประสบการณ์ด้านการร้อยไหม ซึ่งจะสามารถประเมินใบหน้า วิเคราะห์ปัญหาว่ามีอะไรบ้าง จะสามารถแก้ไขด้วยวิธีการร้อยไหมอย่างไร ใช้จำนวนไหมกี่เส้นถึงจะเห็นผล (จำนวนเส้นไหมที่ใช้จะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนว่ามีความหย่อนคล้อยมากน้อยแค่ไหน) หรือถ้าเป็นจุดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการร้อยไหม จะใช้วิธีไหนดีที่เหมาะสม เห็นผล และปลอดภัย