ครีม OEM คืออะไร? อยากมีแบรนด์ครีมเป็นของตัวเอง สร้างแบรนด์ยังไงให้ปัง?

ครีม OEM คืออะไร?  อยากมีแบรนด์ครีมเป็นของตัวเอง สร้างแบรนด์ยังไงให้ปัง?

 

ตัวช่วยสำคัญในการสร้างแบรนด์ครีมผิวขาวคุณภาพ มีเอกลักษณ์เฉพาะในตลาดความงาม ในยุคที่อุตสาหกรรมความงามมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น การสร้างแบรนด์ครีมผิวขาวที่แตกต่างและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเลือกใช้ โรงงาน OEM เพื่อเป็นผู้ผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สามารถยกระดับสินค้าให้มีคุณภาพและแข่งขันได้ในตลาด

 

ครีม OEM คืออะไร?

OEM (Original Equipment Manufacturer) ในบริบทของการผลิตครีมผิวขาว หมายถึง โรงงานที่ให้บริการรับผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ โดยลูกค้า (เจ้าของแบรนด์) เป็นผู้กำหนดคุณสมบัติของสินค้า เช่น สูตร ส่วนผสม กลิ่น สี เนื้อสัมผัส ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ และการออกแบบฉลาก

โรงงานครีม OEM จะทำหน้าที่ผลิตสินค้าให้ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด โดยดูแลกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การวิจัย พัฒนาสูตร การผลิต การควบคุมคุณภาพ การบรรจุ และส่งมอบสินค้าให้พร้อมจำหน่ายภายใต้ชื่อแบรนด์ของลูกค้าเอง การผลิตในลักษณะนี้เหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการสินค้าที่แตกต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ และต้องการควบคุมคุณภาพสินค้าอย่างใกล้ชิด

 

จุดเด่นของการใช้โรงงานครีม OEM

1. พัฒนาสูตรเฉพาะที่แตกต่างจากคู่แข่ง

แบรนด์สามารถกำหนดคุณสมบัติเฉพาะของครีมได้ เช่น ครีมผิวขาวที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ครีมที่เน้นสารสกัดธรรมชาติ หรือครีมที่ให้ผลลัพธ์เฉพาะกลุ่ม เช่น ปรับผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ฯลฯ

2. ควบคุมภาพลักษณ์แบรนด์ได้ 100%

สามารถออกแบบบรรจุภัณฑ์ โลโก้ และฉลากสินค้าให้ตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้แบรนด์โดดเด่นและจดจำง่ายในสายตาผู้บริโภค

3. ช่วยประหยัดเวลาและต้นทุน

ไม่ต้องลงทุนสร้างโรงงานหรือจ้างทีมพัฒนาเองทั้งหมด โรงงาน OEM ที่มีบริการครบวงจรจะดูแลให้ทุกขั้นตอน ทำให้แบรนด์สามารถโฟกัสกับการตลาด การขาย และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่

4. ตอบโจทย์ธุรกิจทั้งรายเล็กและรายใหญ่

โรงงานครีม OEM ส่วนใหญ่มีการผลิตขั้นต่ำที่ยืดหยุ่น เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและแบรนด์ที่ต้องการทดลองตลาด รวมถึงสามารถขยายกำลังการผลิตได้เมื่อยอดขายเติบโต

 

ความแตกต่างระหว่างครีม OEM และ ODM

แม้ทั้งครีม OEM และ ODM จะเป็นรูปแบบของโรงงานรับผลิตสินค้าให้แบรนด์อื่น แต่ทั้งสองรูปแบบมีจุดแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านกระบวนการทำงานและความยืดหยุ่นในการออกแบบผลิตภัณฑ์ ดังนี้:

โรงงานผลิตครีม OEM

• ลูกค้าเป็นผู้กำหนดทุกอย่าง เช่น สูตรเฉพาะ, ส่วนผสม, กลิ่น, สี, เนื้อครีม, บรรจุภัณฑ์, และดีไซน์ฉลาก
• โรงงานทำหน้าที่ผลิตตามคำสั่ง ของแบรนด์ ไม่ได้มีสูตรสำเร็จหรือแนวทางเฉพาะมาให้
• เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความ เฉพาะตัว แตกต่างจากท้องตลาด
• ใช้เวลาและการวางแผนมากขึ้นในการพัฒนาสูตรและทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนผลิตจริง
  
  

โรงงานผลิตครีมผิวขาวแบบ ODM

• โรงงานเป็นผู้คิดและออกแบบทุกอย่างให้ตั้งแต่สูตรมาตรฐาน บรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงฉลากสินค้า
• แบรนด์เพียงแค่เลือกผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป แล้วติดโลโก้ของตนเองก็สามารถวางขายได้ทันที
• เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ยังไม่มีความรู้เชิงลึก และต้องการเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว
  ประหยัดเวลาและต้นทุนในการพัฒนาสูตรใหม่ เพราะใช้สูตรที่โรงงานมีอยู่แล้ว

 

อ่านเพิ่มเติม : https://pdl.co.th/oem-whitening-cream/

 

ควรเลือกครีม OEM หรือ ODM แบบไหน?

การเลือกใช้บริการผลิตครีม OEM หรือ ODM ควรพิจารณาจากเป้าหมายทางธุรกิจ และทรัพยากรที่มี ดังนี้

• ถ้าคุณต้องการสร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำใคร และควบคุมคุณภาพได้เอง ควรเลือกใช้บริการแบบ OEM
  
  
• ถ้าคุณต้องการ เข้าสู่ตลาดเร็ว มีต้นทุนน้อย และยังไม่มีความชำนาญในการพัฒนาสูตร ควรเลือกใช้บริการแบบ ODM
  
  

ข้อดีของการใช้โรงงานครีม OEM ในการผลิตครีม

การเลือกใช้ โรงงานครีม OEM (Original Equipment Manufacturer) เพื่อผลิตครีมผิวขาวภายใต้แบรนด์ของตนเอง ถือเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างแบรนด์ความงามที่แตกต่าง มีคุณภาพ และสามารถเข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยข้อดีหลัก ๆ มีดังนี้

1. ช่วยประหยัดต้นทุนและเวลา

การลงทุนในสายการผลิตครีมเองต้องใช้เงินจำนวนมาก ทั้งในด้านเครื่องจักร วัตถุดิบ การจ้างบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ และการควบคุมคุณภาพ การเลือกโรงงานครีม OEM ช่วยลดต้นทุนดังกล่าว เพราะใช้ทรัพยากรที่โรงงานมีอยู่แล้ว แบรนด์สามารถโฟกัสไปที่การวางแผนการตลาด การสร้างภาพลักษณ์ และช่องทางการจำหน่ายได้เต็มที่ ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้เร็วขึ้น

2. ได้รับสินค้าที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย

โรงงานครีม OEM ที่มีประสบการณ์มักได้รับการรับรองมาตรฐาน เช่น GMP, ISO, HALAL ซึ่งการันตีว่าเครื่องสำอางที่ผลิตมีคุณภาพดี มีความปลอดภัย และผ่านการควบคุมทุกขั้นตอน ทำให้แบรนด์สามารถนำเสนอสินค้าอย่างมั่นใจ และสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาผู้บริโภค

3. สามารถพัฒนาสูตรเฉพาะของแบรนด์ได้

หนึ่งในข้อได้เปรียบของการใช้ครีม OEM คือ สามารถสร้างสูตรเฉพาะที่ไม่ซ้ำใครได้ เจ้าของแบรนด์สามารถร่วมพัฒนาสูตรกับทีม R&D ของโรงงานเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย เช่น ความขาวกระจ่างใส, ปรับผิวเรียบเนียน, ลดจุดด่างดำ หรือผิวแพ้ง่าย ฯลฯ ซึ่งถือเป็นการสร้างจุดแข็งและความแตกต่างในตลาด

4. มีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service)

โรงงานครีม OEM ส่วนใหญ่ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่

• ให้คำปรึกษาในการพัฒนาสินค้า
• วิจัยและออกแบบสูตร
• ขึ้นทะเบียน อย.
• ออกแบบโลโก้และบรรจุภัณฑ์
• ผลิตจริง และจัดส่งสินค้าสำเร็จรูป

กระบวนการทั้งหมดนี้ช่วยลดภาระงานให้กับเจ้าของแบรนด์ได้มาก โดยไม่ต้องแยกติดต่อหลายฝ่ายให้ยุ่งยาก

5. ช่วยให้เข้าสู่ตลาดได้เร็วและมีประสิทธิภาพ

ด้วยระบบการผลิตที่พร้อมและมีประสบการณ์ โรงงานครีม OEM สามารถช่วยให้แบรนด์เข้าสู่ตลาดได้เร็ว ลดเวลาที่ต้องใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เอง เหมาะอย่างยิ่งกับตลาดที่มีการแข่งขันสูง เช่น สินค้าครีมผิวขาว ที่ต้องอาศัย “ความเร็ว” และ “ความแตกต่าง” ในการช่วงชิงโอกาสทางการตลาด

 

ขั้นตอนการผลิตครีม OEM กับ Pure Derima Laboratories

Pure Derima Laboratories คือ โรงงานรับผลิตครีมผิวขาวที่มีระบบการทำงานแบบ One Stop Service ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกสูตร ไปจนถึงการส่งมอบสินค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างแบรนด์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมั่นใจในคุณภาพสินค้า ขั้นตอนการผลิตครีม OEM มีทั้งหมด 10 ขั้นตอน ดังนี้

1. เลือกสูตรครีมผิวขาวที่ต้องการผลิต

ลูกค้าเลือกได้ระหว่างสูตรมาตรฐาน ที่พัฒนาโดยทีม R&D ของโรงงานสูตรใหม่เฉพาะแบรนด์ ที่ต้องการพัฒนาเพิ่มเติม เพื่อสร้างความแตกต่างและเอกลักษณ์เฉพาะตัว

2. เลือกผลิตภัณฑ์จากแคตตาล็อก

ลูกค้าสามารถเลือกประเภทของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการผลิตจากแคตตาล็อกของทางโรงงาน หรือจะเสนอแนวคิดเพิ่มเติมให้ทีมพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ก็ได้

3. เลือกบรรจุภัณฑ์

ลูกค้าเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการ เช่น กระปุก หลอด ซอง หรือขวด โดยทางโรงงานมีตัวเลือกหลากหลายรูปแบบและขนาดให้เลือก พร้อมแนะนำให้เหมาะกับสูตรและภาพลักษณ์ของแบรนด์

4. รับใบเสนอราคาจากฝ่ายขาย

ทางโรงงานจะออกใบเสนอราคาอย่างละเอียด ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ และตรวจสอบความถูกต้องก่อนดำเนินการผลิต

5. ชำระค่ามัดจำ 50% ก่อนเริ่มผลิต

เมื่อยืนยันใบเสนอราคาแล้ว ลูกค้าจะชำระเงินมัดจำครึ่งหนึ่งของยอดทั้งหมด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการเริ่มกระบวนการผลิต

6. ยื่นขอเลขที่จดแจ้งกับ อย.

โรงงานจะดำเนินการยื่นขอจดแจ้งเครื่องสำอางกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ภายใต้ชื่อแบรนด์ของลูกค้า ระยะเวลาดำเนินการโดยเฉลี่ยประมาณ 10–14 วันทำการ

7. ออกแบบโลโก้และฉลากสินค้า

ลูกค้าจัดเตรียมไฟล์โลโก้และฉลากที่ออกแบบแล้ว เพื่อส่งให้โรงงานตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลตามข้อกำหนดของ อย. เช่น การระบุส่วนประกอบ ชื่อผลิตภัณฑ์ และคำเตือนต่าง ๆ

8. เริ่มกระบวนการผลิต

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว โรงงานจะเริ่มผลิตครีมผิวขาวตามสูตรที่เลือกไว้ และตามจำนวนที่ลูกค้าสั่ง ภายใต้ระบบควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐาน

9. ชำระเงินส่วนที่เหลืออีก 50%

หลังการผลิตเสร็จสิ้น ทางโรงงานจะแจ้งให้ลูกค้าชำระเงินส่วนที่เหลือก่อนการจัดส่งสินค้า

10. จัดส่งสินค้าให้ถึงมือแบรนด์

เมื่อทุกขั้นตอนเสร็จสิ้น สินค้าจะถูกจัดส่งถึงที่อยู่ของลูกค้า พร้อมวางจำหน่ายได้ทันที โดยสินค้าจะถูกจัดส่งในสภาพพร้อมจำหน่ายทั้งในแง่คุณภาพและภาพลักษณ์

 

สรุป

การใช้บริการ โรงงาน OEM ในการผลิตครีมผิวขาว เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดเครื่องสำอางอย่างมืออาชีพ โดยไม่ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอง สามารถพัฒนาสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ควบคุมคุณภาพได้ และเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว