ฟิลเลอร์ ฉีดแล้วหน้าเด็กจริงหรือไม่? 7 จุดฉีดฟิลเลอร์ย้อนวัย ดูอ่อนเยาว์
ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ (Filler) ฉีดแล้วหน้าเด็ก จริงหรือไม่? สำหรับใครที่อยากหน้าเด็ก การฉีดฟิลเลอร์เป็นหนึ่งในวิธีช่วยชะลอวัย เพราะสามารถเติมเต็มเพื่อแก้ปัญหาบนใบหน้าที่เป็นสัญญาณแห่งวัย ไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ รวมถึงสภาพผิวที่แห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น รวมถึงปรับรูปหน้าที่ไม่ได้สัดส่วนให้สวยงามขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ แล้วถ้าอยากคงความอ่อนเยาว์ไว้กับผิวได้นาน ๆ ฉีดฟิลเลอร์จุดไหนดี? ที่จะช่วยย้อนวัยกลับไปสัก 10 ปี บทความนี้มีคำตอบ
ฟิลเลอร์ คืออะไร?
ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ มาทำความรู้จักฟิลเลอร์กันก่อน ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่ามีความปลอดภัย ใช้อย่างแพร่หลายในคลินิกเสริมความงาม และได้รับความนิยมมากขึ้นต่อเนื่อง เพราะสมัยนี้ใคร ๆ ก็อยากดูดี คงความสวยหล่อ ชะลอวัยให้ดูอ่อนเยาว์ไว้ได้นาน ๆ ฟิลเลอร์จึงเหมือนเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ที่สะดวก ปลอดภัย และที่สำคัญคือเห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดได้ทันที ก็เลยมีคนเข้า-ออกคลินิกไปเติมฟิลเลอร์จุดนั้นจุดนี้กันอยู่บ่อย ๆ
ฟิลเลอร์ช่วยอะไรบ้าง?
1.เติมเต็มร่องลึก หรือเสริมในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง
2.ลดริ้วรอย และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต
3.ปรับรูปหน้าได้ดูเป็นธรรมชาติ
4.กักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
5.ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง แลดูอ่อนเยาว์
ฟิลเลอร์ ฉีดในจุดไหน? ย้อนวัยให้ดูอ่อนเยาว์
ฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มได้หลายจุดบนใบหน้า ได้แก่ ใต้ตา ร่องแก้ม หน้าผาก ขมับ แก้มส้ม ปาก คาง ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนที่สุด มาดูว่าฟิลเลอร์สามารถแก้ปัญหาในแต่ละจุดเหล่านี้ได้อย่างไร เพื่อให้ใบหน้าย้อนวัยแลดูอ่อนเยาว์
1.ฟิลเลอร์ใต้ตา
ใต้ตาเป็นตำแหน่งแรกที่ถ้าหากดูอ่อนเยาว์ขึ้น หรือถ้าจะพูดง่าย ๆ คือ อยากหน้าเด็กขึ้น แพทย์จะแนะนำให้ฉีดเป็นจุดแรก เพราะถ้าสังเกตดูจะพบว่าใต้ตาเป็นตำแหน่งแรกที่เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกจะยุบตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย หน้าโทรม อ่อนล้า เกิดริ้วรอย ร่องใต้ตา และปัญหาใต้ตาอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รอยตีนกา ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย เบ้าตาลึก ตาโหล
2.ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
หลายคนเข้าใจผิดว่าปัญหาร่องแก้ม จะเกิดกับคนที่อายุ 30+ เท่านั้น ทั้งที่จริง ๆ แล้วอาจส่งสัญญาณแห่งวัยมาตั้งแต่อายุเข้า 25 ที่เริ่มพบว่าบริเวณร่องแก้มจะมีเส้นยาวตั้งแต่บริเวณปีกจมูกโค้งลงมาถึงที่มุมปาก ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้จากเส้นบาง ๆ จะค่อย ๆ เห็นเด่นชัดขึ้น ลึกขึ้น ซึ่งการมีร่องแก้มลึกจะทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มร่องแก้มให้ดูตื้นขึ้น ลดริ้วรอยได้
3. ฟิลเลอร์หน้าผาก
ไม่ว่าจะหน้าผากย่น หน้าผากยุบ ริ้วรอยบนหน้าผาก ทำให้ใบหน้าดูไม่ได้สัดส่วน และดูแก่กว่าวัย การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากไม่เพียงแต่ช่วยเติมเต็มให้หน้าผากอิ่มเอิบ ลดเลือนริ้วรอย ใบหน้าดูมีมิติและสดใสขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งได้ด้วย โดยตามความเชื่อแล้ว โหงวเฮ้งหน้าผากจะเกี่ยวข้องกับการค้าขาย ธุรกิจ มีคนช่วยเหลืออุปถัมภ์ ถ้าเป็นผู้หญิง หากมีหน้าผากนูนสวย เอิบอิ่ม นูนสวย ตามลักษณะโหงวเฮ้งบอกว่าจะวาสนาดี ได้สามีรวย ชีวิตสบาย
4.ฟิลเลอร์ขมับ
ขมับตอบ ขมับยุบ ขมับเป็นแอ่ง ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย โทรม อ่อนล้า แก่กว่าวัย การฉีดฟิลเลอร์ขมับช่วยปรับรูปหน้า เติมเต็มแอ่งลึกบริเวณขมับ ทำให้รูปหน้าได้สัดส่วนสวยเข้ารูป และยังช่วยลดความเด่นของโหนกแก้ม เพราะการมีโหนกแก้มเด่น จะทำให้ใบหน้าดูแข็งไม่อ่อนหวาน รวมทั้งยังเป็นจุดที่สัมพันธ์กับโหงวเฮ้ง โดยโหงวเฮ้งขมับจะต้องเต็มอิ่มเอิบพอดีกับไรผมและหน้าผาก
5.ฟิลเลอร์แก้มส้ม
เมื่ออายุมากขึ้น บริเวณแก้มส้ม ซึ่งอยู่ส่วนกลางของใบหน้าจะเกิดการยุบตัวของกระดูก กล้ามเนื้อ ไขมัน ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดเป็นร่องหรือริ้วรอย การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยทดแทนกระดูกและชั้นไขมันที่เสื่อมสลายไป เติมเต็มให้แก้มส้มให้มีสัดส่วนที่สวยงามรับกับรูปหน้า ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ใบหน้าดูอิ่มเอิบ แก้มกลมนูนโค้งมน รวมทั้งร่องใต้ตา ร่องแก้มก็ตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงได้
6.ฟิลเลอร์ปาก
อินเทรนด์สุดก็ต้องฟิลเลอร์ปาก สาว ๆ หลายคนนิยมปรับทรงปากเพื่อให้ดูอวบอิ่ม ปรับลุคให้ดูเซ็กซี่ เพิ่มเสน่ห์ดึงดูดใจ เช่น ปากสายฝอ ปากเกาหลี ปากกระจับธรรมชาติ แต่นอกจากการปรับทรงปากแล้วฟิลเลอร์ปากยังช่วยเติมเต็มริมฝีปากดูชุ่มชื้นขึ้น ซึ่งถ้าใครมีริ้วรอยริมฝีปาก ปากแห้ง ปากเป็นขุย ปากแตกเป็นร่องลึก ขอบปากบาง มุมปากยก ทำให้แลดูมีอายุ ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อช่วยยกมุมปาก เพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากดูสุขภาพดี อมชมพู ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์
7.ฟิลเลอร์คาง
การฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถปรับรูปหน้ากลม คางสั้น คางตัด คางถอย คางบุ๋ม ให้หน้าเรียวสวยแบบทันใจ โดยไม่ต้องผ่าตัดเสริม ฟิลเลอร์คางสามารถเติมคางสั้นให้ยาวขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยเสริมมิติให้ใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว V-Shape มีโครงหน้าที่ชัดขึ้น ไม่ว่าจะมองมุมไหน อายุเท่าไหร่ก็ยังดูดีทุกองศา
แต่ละจุดต้องใช้ฟิลเลอร์กี่ CC?
- ฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 CC
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1-2 CC
- ฟิลเลอร์หน้าผาก 3-5 CC
- ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC
- ฟิลเลอร์แก้มส้ม 1-2 CC
- ฟิลเลอร์ปาก 1-2 CC
- ฟิลเลอร์คาง 1-2 CC
จำนวน CC เป็นการประเมินในเบื้องต้น ต้องให้แพทย์ประเมินใบหน้า วิเคราะห์ปัญหาอีกที ซึ่งจะพิจารณาจากสาเหตุของปัญหา ความลึกของผิว เช่น ถ้าหากปัญหาเกิดจากการยุบตัวของกระดูกจากอายุที่มากขึ้น ก็จะใช้จำนวน CC มากขึ้นตามความเหมาะสม สามารถทยอยฉีดได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม
ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี แต่ละยี่ห้ออยู่ได้นานแค่ไหน?
ฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ แต่มีฟิลเลอร์ 3 ยี่ห้อหลักที่นิยมใช้ในคลินิกเสริมความงามชั้นนำ ดังนี้
1. ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา)
ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตโดยเทคโนโลยี Hylacross ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ และมีจุดเด่นที่เนื้อฟิลเลอร์มีความเรียบเนียน
- Juvederm Ultra Plus อยู่ได้ 12 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฉีดแล้วฟูมาก ทำให้เต็มสวย เหมาะสำหรับฉีดขมับ ปาก ร่องแก้ม
- Juvederm Voluma อยู่ได้ 18 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาคาง ขมับ ปาก ร่องแก้ม
- Juvederm Volbella อยู่ได้ 12 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับฉีดหน้าผาก
- Juvederm Volift อยู่ได้ 12 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดมากกว่ารุ่น Ultraplus เหมาะกับคนผิวบาง เหมาะสำหรับฉีดปาก แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม หว่างคิ้ว
- Juvederm Volite อยู่ได้ 8-12 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา บำรุงผิวชุ่มชื้น
- Juvederm Volux อยู่ได้ 18-24 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดคาง ใต้ตา ขมับ ร่องแก้มชั้นลึก
2.ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน)
ฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่เริ่มผลิตมายาวนานที่สุด โดยบริษัท Galderma ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิต คือ NASHA technology และ OBT technology ช่วยเรื่องความคงตัว ยืดหยุ่น ชุ่มชื้น
- Restylane Perlane Lyft อยู่ได้ 12 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา จมูก คาง
- Restylane Vital Light อยู่ได้ 6-12 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เจลอนุภาคเล็ก แก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมาะสำหรับฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตา ผิวชั้นตื้น ปาก
- Restylane Vital อยู่ได้ 12 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา หน้าผาก ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ
- Restylane Volyme อยู่ได้ 18 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ใช้เติมชั้นผิวให้อิ่มฟูขึ้น เหมาะสำหรับฉีดปาก แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม
- Restylane Defyne อยู่ได้ 18 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง ใช้ฉีดกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา
- Restylane Refyne อยู่ได้ 12 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีลักษณะยืดหยุ่น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ เหมาะสำหรับฉีดปาก ร่องแก้ม มุมปาก
- Restylane Classic อยู่ได้ 12 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึกสำหรับคนผิวบาง ใต้ตา ปาก
- Restylane Kysse อยู่ได้ 12 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ
3.ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์)
ฟิลเลอร์ Belotero เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้าโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผ่านการรับรองจากอย. สหรัฐอเมริกา ยุโรปและไทย ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology เทคโนโลยีเฉพาะที่ทำให้ฟิลเลอร์ Belotero ขึ้นชื่อในเรื่องความยืดหยุ่นของเนื้อเจล การเกาะกันเป็นเนื้อเดียว ไม่ไหลไม่เป็นก้อน และการปั้นทรงสวย
- Belotero Intense อยู่ได้ 18 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง มีจุดเด่นในการใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง เหมาะสำหรับฉีดร่องแก้ม เติมแก้มตอบ คาง
- Belotero Volume อยู่ได้ 18 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง เหมาะสำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
- Belotero Soft อยู่ได้ 6-12 เดือน
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา
จะเห็นได้ว่ามีฟิลเลอร์ให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ และแต่ละยี่ห้อก็จะแยกย่อยเป็นรุ่นต่าง ๆ สำหรับใครที่ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก อาจจะเลือกไม่ถูกว่าต้องใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่ ทำไมแต่ละจุดราคาต่างกัน?
ฟิลเลอร์ ราคาแต่ละจุดที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกในช่วงนั้น ๆ จากการสำรวจคลินิกเสริมความงามชั้นนำ ฟิลเลอร์ ราคาจะใกล้เคียงกัน เริ่มต้นตั้งแต่ 11,900-18,000 บาท/CC
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา 13,000 บาท/CC
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคา 11,900 บาท/CC
- ฟิลเลอร์หน้าผาก ราคา 14,000 บาท/CC
- ฟิลเลอร์แก้มส้ม ราคา 13,000 บาท/CC
- ฟิลเลอร์ขมับ ราคา 11,000 บาท/CC
- ฟิลเลอร์คาง ราคา 11,000 บาท/CC
- ฟิลเลอร์ปาก ราคา 14,000 บาท/CC
เลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี?
ปัจจุบันมีคลินิกเสริมความงามเปิดให้บริการจำนวนมาก จะเลือกใช้บริการคลินิกไหนดี? อาจจะต้องทำการบ้านเรื่องนี้กันหนักหน่อย เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ คุ้มค่ากับงบประมาณที่เสียไป โดยหลัก ๆ มี Checklist ที่ต้องนำมาพิจารณา ต้องครบทั้งหมดนี้ถึงจะมั่นใจเข้าไปใช้บริการ
1.คลินิกเปิดให้บริการถูกต้องตามกฎหมาย ได้มาตรฐาน
- มีป้ายชื่อสถานพยาบาล เลขที่ใบอนุญาต จำนวน 11 หลัก ติดไว้หน้าคลินิก
- มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานการพยาบาล ติดไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่ายในคลินิก
2.แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ชื่อ-นามสกุล แพทย์ที่ทำการรักษา ต้องตรงตามรูปถ่าย และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่แสดงไว้ในคลินิก ตรวจสอบรายชื่อแพทย์ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา คลิกที่นี่
3.ใช้ฟิลเลอร์แท้ ปลอดภัย และผ่านการรับรองจาก อย. โดยสามารถตรวจสอบยี่ห้อฟิลเลอร์ว่าผ่านการรับรองจากอย. หรือไม่ คลิกที่นี่ หรือนำเลข lot ที่กล่องตรวจสอบกับบริษัทนำเข้า
4.คลินิกสะอาด ปลอดเชื้อ บรรยากาศภายในคลินิก สว่าง กว้างขวาง มีพื้นที่รับรอง ห้องทำหัตถการมีจำนวนเพียงพอและเหมาะสม
5.มีหลายสาขาพร้อมให้บริการ เดินทางสะดวก สังเกตได้ง่าย ตั้งอยู่ในห้างหรือใกล้ห้าง มีที่จอดรถ เดินทางได้ทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ
6.มีหลากหลายช่องทางในการติดต่อ สะดวกในการปรึกษาหรือสอบถามเกี่ยวกับฉีดฟิลเลอร์ได้โดยตรง เช่น ทางโทรศัพท์, Facebook, Line@
7.มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริง ต้องเป็นรีวิวที่เป็นปัจจุบัน มีทั้งภาพนิ่ง ภาพก่อน-หลังทำ และภาพเคลื่อนไหว ซึ่งตัดต่อดัดแปลงได้ยาก เพื่อที่จะได้เห็นขั้นตอนและความชำนาญของแพทย์ขณะฉีดฟิลเลอร์
8.ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป และมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อ หลายราคาให้เลือกได้ตามงบประมาณ
9.มีการนัดหมายติดตามผลหลังทำเคส แสดงถึงความใส่ใจและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ
10.มีบริการปรึกษาฟรี สามารถส่งรูปหน้าให้แพทย์ประเมินปัญหาก่อนได้ในเบื้องต้น ก่อนนัดหมายคิวหรือ Walk-in เข้าไปที่สาขา
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินใบหน้าและปัญหาที่ต้องการแก้ไข
- แพทย์แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณที่เหมาะสม กับจุดที่จะฉีด
- ทำความสะอาดใบหน้า หากแต่งหน้ามาจะมีการเช็คเครื่องสำอางในจุดที่ฉีดออก
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะต้องแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้
- แปะยาชา ประคบน้ำแข็งก่อนฉีด เพื่อช่วยลดความเจ็บจากเข็ม แต่ในเนื้อฟิลเลอร์บางรุ่นจะมียาชาผสมอยู่แล้ว
- หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จเรียบร้อย แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเอง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นาน
ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม?
ฉีดฟิลเลอร์ เจ็บน้อยกว่าถ้าเทียบกับการที่ต้องผ่าตัด ขณะฉีดจะประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม และในเนื้อฟิลเลอร์บางรุ่นก็จะมียาชาผสมอยู่แล้ว ทำให้แทบไม่รู้สึกเจ็บเลย นอกจากนี้แพทย์ที่มีประสบการณ์จะรู้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง ช่วยลดความเจ็บปวดและอาการบวมช้ำได้
ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน กี่วันเห็นผล?
หลังฉีดฟิลเลอร์ อาจมีอาการบวมหลังฉีด ซึ่งเกิดขึ้นได้เป็นปกติสามารถยุบบวมได้เองใน 7-14 วัน จากนั้นฟิลเลอร์จะเข้าที่ และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่มีข้อควรปฏิบัติเพิ่มเติม ดังนี้
- ห้ามบีบ นวด แกะ เกา บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด และกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.
- งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดเช่น RF thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
- เลี่ยงการเข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด ดื่มแอลกอฮอล์
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ 1.5-2 ลิตร/วัน เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป เข้าที่เร็ว
Q&A ฟิลเลอร์
การฉีด Filler ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล
โดยทั่วไปฟิลเลอร์จะเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่จะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นกับยี่ห้อที่เลือกใช้และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ รวมไปถึงสภาพผิวของแต่ละคน
ฉีดฟิลเลอร์ไม่เห็นผลเพราะอะไร?
หลังฉีดฟิลเลอร์ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ไม่เห็นผล เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ฉีดกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ วิเคราะห์ปัญหาได้ไม่ตรงจุด เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับการจัดการปัญหา ก็ทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ออกมาไม่เห็นผล หรือได้ไม่ตรงตามที่คาดหวังได้
ถ้าฟิลเลอร์สลายหมด จะทำให้หน้าแก่กว่าเดิมไหม?
อันนี้ไม่เป็นความจริงเลย เนื่องจากฟิลเลอร์จะทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดและรอบ ๆ มีความชุ่มชื้น มีน้ำมาหล่อเลี้ยงมากขึ้น ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินบริเวณนั้นถูกสร้างขึ้นมาด้วย ต่อให้ฟิลเลอร์สลายหมดคอลลาเจนและอีลาสตินของร่างกายก็ยังคงอยู่ ช่วยชะลออายุของผิวได้
ต้องรอให้ฟิลเลอร์เดิมสลายหมดก่อนไหม ถึงจะฉีดเพิ่มได้?
การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนสามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องรอให้ฟิลเลอร์ที่เคยฉีดไปแล้วสลายหมดก่อน
หลังฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว เปลี่ยนยี่ห้อที่ฉีดได้ไหม?
หลังฟิลเลอร์สลายไปหมดแล้ว อยากเติมเพิ่มอีก ไม่จำเป็นต้องฉีดยี่ห้อเดิมไปตลอด สามารถเปลี่ยนยี่ห้อได้ เนื่องจากฟิลเลอร์หลาย ๆ รุ่นมีคุณสมบัติและราคาที่ใกล้เคียงกัน แต่ทั้งนี้จะต้องดูจากปัญหาและสภาพผิวเป็นหลัก
ไม่กล้าฉีดฟิลเลอร์กลัวไหลไปยังส่วนอื่นของใบหน้า เป็นได้จริงหรือไม่?
ฉีดฟิลเลอร์แล้วไหล ย้อย ไม่เป็นทรง จะเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ไม่ใช่ HA และไม่สลายตามธรรมชาติ เมื่ออยู่ในร่างกายนาน เช่น ที่มีการโฆษณาว่าฟิลเลอร์อยู่ได้นานเกิน 5 ปี ก็อาจมีการเคลื่อนตำแหน่งไปยังจุดอื่นบนใบหน้าได้
หรือในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์กับแพทน์ที่ไม่มีประสบการณ์ เลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม เพราะฟิลเลอร์นอกจากจะมีหลายยี่ห้อ หลายรุ่นแล้ว ก็ยังมีขนาดโมเลกุลที่ต่างกัน เช่น ฟิลเลอร์เนื้ออ่อน ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ซึ่งถ้าเนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับผิวบริเวณที่ฉีด ก็อาจเกิดปัญหาฟิลเลอร์ไหลได้
หากเข้าใกล้กับความร้อนจะทำให้ ฟิลเลอร์ละลาย จริงหรือไม่?
ความร้อนมีผลต่อการสลายของฟิลเลอร์จริง แต่ต้องพิจารณาเป็นกรณีไปว่าบริเวณที่สัมผัสความร้อนโดยตรงนั้นคือส่วนไหน เช่น ฉีดฟิลเลอร์ปาก และนิยมรับประทานของร้อนเป็นประจำ ก็อาจมีส่วนทำให้ฟิลเลอร์บริเวณปากสลายไปได้เร็วกว่าอายุของฟิลเลอร์จริง ส่วนสำหรับจุดอื่น ๆ บนใบหน้า ความร้อนทั่วไปจะไม่ค่อยมีผล เนื่องจากไม่มีส่วนใดที่ได้รับการสัมผัสกับความความร้อนโดยตรงเป็นเวลานาน
สรุป
ฟิลเลอร์ สามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม หน้าผาก ขมับ แก้มส้ม ปาก เติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ย้อนวัยให้หน้าเด็กได้จริง โดยแต่ละจุดจะใช้ฟิลเลอร์จำนวน CC ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิว โดยฟิลเลอร์ที่นิยมที่คลินิกเสริมความงามชั้นนำเลือกใช้ จะมี 3 ยี่ห้อด้วยกัน คือ ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 11,000-18,000 บาท/CC ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่าลืมตรวจสอบตาม Checklist ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี? จะได้เลือกคลินิกได้ไม่ผิดหวัง มั่นใจได้ทั้งผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย