Thermage FLX คืออะไร? มีดีอย่างไร เมื่อเทียบกับวิธียกกระชับผิวแบบเดิม
Thermage คือ อีกหนึ่งเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในยุคนี้ เพราะสามารถช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน (Collagen) และยกกระชับผิว โดยเทอมาจจะอาศัยหลักการของคลื่น Monopolar RF (หรือ คลื่นวิทยุ) ทำการยิงลงไปในชั้นผิวหนัง ซึ่งลึกไปถึงชั้นไขมัน ผลที่ได้ก็คือผิวที่แน่นและกระชับมากยิ่งขึ้น อันเป็นผลลัพธ์ที่เราจะได้รับในระยะยาว
จะรู้ได้อย่างไรว่า เราเหมาะกับการทำเทอร์มาจ หรือเปล่า?
เทอร์มาจเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอายุเยอะ ซึ่งมักพบกับปัญหาผิวขาดคอลลาเจน จนเกิดเป็นริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่น หนังห้อยย้อยบริเวณคาง และคนเอเชียที่มักมีเหนียงกันค่อนข้างมาก คางจะดูห้อยย้อยจากไขมันที่มากองอยู่บริเวณด้านล่างของใบหน้า ทำให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ขาดความตึงกระชับ
Thermage (เทอมาจ) ทำงานอย่างไร?
สาเหตุที่ thermage สามารถช่วยสลายไขมันส่วนเกิน กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ เนื่องจากกระบวนการทำงานของเครื่องเทอมาจ จะส่งผ่านพลังงานความร้อนจำพวกคลื่นวิทยุที่มีความถี่สูง ตรงลึกลงไปจากผิวชั้นบน จนถึงชั้นไขมัน ซึ่งพลังงานความร้อนที่ถูกสร้างขึ้นใต้ผิวหนังนั้นจะลึกกว่าและทั่วถึงมากกว่าการทำอัลเทอร่า (Ulthera) และส่งผลให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจน ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง
ใบหน้าของเราจึงเรียวขึ้น เพราะการลด volume ของใบหน้าเป็นประโยชน์หลักอันน่าสนใจอย่างยิ่งของการทำเทอร์มาจ หนุ่มสาวที่ไม่ชอบหน้าอูม รวมถึงใครที่มีปัญหาใบหน้าไขมันสะสมอยู่มากจึงนิยมทำ thermage กันค่ะ
รีวิว เปรียบเทียบให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Thermage
(ก่อน-หลังทำ Thermage) บริเวณใบหน้าและลำคอ ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ
ทำ Thermage FLX แล้วดีจริงไหม? มาดูข้อดีของเทอร์มาจกันเถอะ!
- หลังทำก็สามารถกลับไปทำงานและใช้ชีวิตได้เหมือนปรกติ โดยไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น และไม่เกิดแผลจากการทำเทอร์มาจ
- ในการทำแต่ละครั้งใช้เวลาแค่เพียง 40 นาทีเท่านั้น
- ในเดือนที่ 2 เป็นต้นไปจะเห็นได้ถึงผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งหลังทำทันทีก็จะเห็นได้ว่าผิวหน้า/คาง/เหนียง ดูกระชับตึงขึ้นกว่าเดิม
- ผลลัพธ์ที่ได้มีความคุ้มค่าเพราะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ถ้าเรารักษาสุขภาพผิว รวมถึงบำรุงผิวพรรณอย่างสม่ำเสมอ
อยากทำ Thermage เลือกคลินิกที่ไหนดี?
- เลือกใช้เครื่อง Thermage ที่ผ่านการรับรองว่าได้มาตรฐาน และเป็นเครื่องแท้เท่านั้น
- เนื่องจากแต่ละคนอาจมีปัญหาผิวหน้า คอ เหนียงที่ต่างกันไป คุณหมอจะเป็นผู้เลือกเครื่องมือที่เหมาะสมได้ดีที่สุด การทำเทอร์มาจจึงต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น
- ประสบการณ์ ความชำนาญ รวมถึงฝีมือของคุณหมอคือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยในการพิจารณาเลือกว่าจะทำกับหมอท่านไหน
อยากทราบข้อแตกต่างระหว่าง ทำ Thermage FLX กับการทำ Hifu ว่าต่างกันยังไง?
บางคนยังสับสนอยู่ว่าเครื่องมือกระชับผิวอย่างเทอร์มาจ เทียบกับ ไฮฟู่ แล้ว 2 ตัวนี้ต่างกันอย่างไร คำตอบก็คือ ต่างกันตรงที่ชั้นผิวที่ทำการยิงลงไปค่ะ
เทอร์มาจ โดดเด่นในเรื่องการช่วยให้ผิวเนียนขึ้น อ่อนเยาว์ลง และผิวแน่นขึ้น เพราะ thermage จะออกฤทธิ์ในบริเวณชั้นไขมัน รวมไปถึงชั้นผิวทุก ๆ ชั้นที่อยู่ใต้ผิวหนังเรา
ส่วน hifu พลังงานที่ส่งไปยังชั้นผิวจะยังไม่ครอบคลุมเท่าเทอร์มาจ ทั้งนี้เพราะไฮฟู่เน้นส่งพลังงานไปยังผิวชั้นลึก มุ่งในเรื่องการยกกระชับหน้าโดยตรงค่ะ
Thermage ที่จะยิงทุกอณูในชั้นผิวตั้งแต่ 0-4.3 mm ส่วน hifu จะมีหัวหลายระดับความลึก คือ 2, 3 ไปจนถึง 4.5 mm
นอกจากนี้ การกระชับผิวที่เคยห้อยย้อยบริเวณใต้ลำคอ เหนียง แก้มที่มีไขมันสะสมอยู่มากจนหน้าดูอ้วน ถ่ายรูปออกมาไม่สวย การทำเทอร์มาจจะช่วยเก็บผิวหนังห้อย เพิ่มความตึงกระชับบริเวณเหล่านี้ได้ดีกว่าการทำ hifu คนไข้จะพบว่าหลังทำทันทีผิวหนังจะดูแน่นยิ่งขึ้น อันเป็นผลจากการเข้าไปกระชับโครงสร้างของคอลลาเจน
แต่อย่าลืมว่า การทำเทอร์มาจเป็นการส่งพลังงานเข้าไปยังทุก ๆ ชั้นผิว ความเจ็บที่เกิดขึ้นย่อมมากกว่าการทำ hifu ถ้าอยากเห็นผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายในการทำ thermage ส่วนคนที่ทนรับมือกับความเจ็บระหว่างทำในระดับหนึ่งไม่ได้ จนต้องปรับลดพลังงานให้ต่ำลง ผลที่ได้ก็จะลดน้อยลงด้วยเช่นกันค่ะ
การทำเทอร์มาจ ราคาแพงหรือไม่?
Promotion คุ้มสุด ๆ กับ Thermage FLX (รุ่นใหม่ล่าสุด)
ราคาของการทำThermage เมื่อเปรียบเทียบกับความตึงกระชับที่ได้กลับคืนมา ก็จะเห็นว่าคุ้มค่ามากค่ะ โดยแต่ละคลินิกอาจจะตั้งราคาค่าทำเทอร์มาจไว้แตกต่างกันไปบ้าง ถ้าจะให้ดีเราควรเปรียบเทียบราคาที่เหมาะสมก่อนเข้าไปปรึกษายังคลินิกที่ให้ความสนใจค่ะ
ถ้าเป็นเครื่องรุ่น CPT ที่เป็นรุ่นเก่าจะเจ็บมากกว่าเครื่องรุ่นใหม่อย่าง Thermage FLX ค่ะ เครื่องเทอร์มาจ FLX รุ่นใหม่นี้จะช่วยคำนวณการปล่อยพลังงานได้แม่นยำยิ่งขึ้นในแต่ละจุดบนใบหน้า ระยะเวลาที่ใช้ในการทำก็น้อยลงด้วยเช่นกัน
- Thermage (แก้ม + เหนียง) : 450 shot ราคาประมาณ 35,000.-
- Thermage (ทั่วหน้า) : 900 shot ราคาประมาณ 65,000.-
- Thermage (2 หัว) : 900 shot ราคาประมาณ 120,000.-
- Thermage (4 หัว) : 900 shot ราคาประมาณ 230,000.-
ใครที่กำลังสนใจการทำ Thermage เพื่อจัดการปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ลดไขมันส่วนเกินตามแก้ม ใบหน้า และคางที่สะสมมานาน ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ ใช้เครื่องมือของแท้ เพื่อใบหน้าที่ยกกระชับอย่างเห็นผล คุ้มค่า และปลอดภัยค่ะ