เริ่มโปรเจกต์ออกแบบภายในต้องรู้อะไรบ้าง?
เริ่มโปรเจกต์ออกแบบภายในต้องรู้อะไรบ้าง? คู่มือสำหรับเจ้าของโครงการที่อยากให้ทุกขั้นตอน “เป๊ะ” ตั้งแต่เริ่ม
ในยุคที่ภาพลักษณ์ขององค์กรและประสบการณ์ของผู้ใช้งานมีผลต่อความสำเร็จในธุรกิจ “การออกแบบภายใน” กลายเป็นมากกว่าความสวยงาม แต่คือการสร้างคุณค่าให้พื้นที่ใช้งานอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศ อาคารสำนักงาน คลินิก หรือโรงพยาบาล การ เริ่มโปรเจกต์ออกแบบภายในต้องรู้อะไรบ้าง จึงเป็นคำถามสำคัญที่เจ้าของกิจการควรตั้งแต่ก่อนลงมือ
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกประเด็นที่จำเป็น ตั้งแต่แนวคิด วางงบ การเลือกทีมดีไซน์ ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพหน้างาน เพื่อให้ทุกขั้นตอนของโปรเจกต์ “ราบรื่น ไม่ล่าช้า และตรงงบ” อย่างมืออาชีพ
ทำไมการเตรียมตัวก่อนเริ่มโปรเจกต์ออกแบบภายในถึงสำคัญ?
โปรเจกต์ออกแบบภายในไม่ใช่แค่เรื่องของสไตล์หรือสีสัน แต่คือการวางระบบการใช้งานที่ตอบโจทย์คนในพื้นที่จริงๆ หากข้ามขั้นตอนสำคัญตั้งแต่แรก เช่น ไม่กำหนดเป้าหมาย, ไม่รู้ฟังก์ชันที่ต้องการ หรือไม่มีแปลนพื้นที่ที่ชัดเจน ก็มีโอกาสสูงที่งานจะล่าช้า งบประมาณบานปลาย หรือผลงานไม่ตอบโจทย์
สเต็ปสำคัญก่อนเริ่มโปรเจกต์ออกแบบภายใน
1. กำหนดเป้าหมายของพื้นที่
ก่อนอื่นต้องตอบให้ได้ว่า พื้นที่นี้ออกแบบเพื่อ “อะไร” เช่น:
-
ออฟฟิศใหม่เพื่อสร้างภาพลักษณ์มืออาชีพ
-
คลินิกที่ต้องการบรรยากาศอบอุ่นไว้ใจได้
-
โถงต้อนรับที่ดึงดูดลูกค้าให้รู้สึก “ว้าว” ตั้งแต่ก้าวแรก
การรู้จุดมุ่งหมายจะช่วยให้ดีไซน์เนอร์เข้าใจทิศทางของโปรเจกต์และเลือกวัสดุ-ฟังก์ชันให้สอดคล้อง
2. วิเคราะห์พื้นที่หน้างาน
แนะนำให้เจ้าของพื้นที่จัดเตรียม:
-
ผังแปลนอาคาร (CAD หรือ PDF)
-
ขนาดพื้นที่ (ตร.ม.)
-
ภาพถ่ายหน้างานในมุมต่างๆ
-
รายการพื้นที่ที่ต้องการตกแต่ง เช่น โซนต้อนรับ ห้องทำงาน ห้องประชุม ห้องน้ำ ฯลฯ
ดีไซน์เนอร์จะใช้ข้อมูลนี้ในการวางแผนพื้นที่ (Space Planning) อย่างแม่นยำตั้งแต่ต้น
3. ตั้งงบประมาณเบื้องต้น
งบประมาณเป็นหัวใจสำคัญ เพราะมีผลต่อวัสดุที่เลือก, จำนวนฟังก์ชัน และรูปแบบการออกแบบ โดยทั่วไปสามารถแยกงบได้เป็น 3 ส่วนหลัก:
-
ค่าออกแบบ (Design Fee): คิดตามตร.ม. หรือเหมาจ่ายตามขนาดโปรเจกต์
-
ค่างานก่อสร้างตกแต่ง (Construction Cost): เช่น ฝ้า ผนัง พื้น งานระบบไฟ
-
ค่างาน loose furniture / built-in / decor: เช่น โต๊ะ เก้าอี้ งานบิ้วท์
การแจ้งงบที่ชัดเจนจะช่วยให้ทีมออกแบบนำเสนอแผนงานที่ “ทำได้จริง” ไม่ใช่แค่สวยแต่เกินงบ
4. เลือกบริษัทออกแบบภายในที่มีประสบการณ์
สิ่งที่ควรพิจารณา:
-
มี ผลงานจริง ที่ใกล้เคียงกับประเภทพื้นที่ของคุณ
-
มี กระบวนการทำงานชัดเจน เช่น Present Concept, Moodboard, Layout, 3D Rendering, BOQ
-
ให้คำปรึกษาเรื่อง งานระบบ (แอร์, ไฟ, network, CCTV ฯลฯ) ได้อย่างครบวงจร
-
มีทีม ควบคุมงานก่อสร้าง หรือสามารถร่วมงานกับผู้รับเหมาได้อย่างราบรื่น
กระบวนการทำงานของบริษัทออกแบบภายใน (โดยสังเขป)
-
Kick-off Meeting
ร่วมประชุมกับเจ้าของพื้นที่เพื่อเข้าใจความต้องการและสรุปขอบเขตงาน -
สำรวจหน้างานและวัดพื้นที่จริง
เพื่อให้แน่ใจว่าการออกแบบตรงกับขนาดจริง ลดปัญหาในการติดตั้งภายหลัง -
เสนอ Mood & Concept
นำเสนอแนวทางการออกแบบเบื้องต้น พร้อม Moodboard และแนวคิดที่ตอบโจทย์ลูกค้า -
ออกแบบ Layout & 3D
แสดงแผนผังการใช้งานและภาพจำลองสามมิติ (3D) ให้เห็นภาพจริงก่อนสร้าง -
เสนอ BOQ และ Timeline
ทำรายการวัสดุ พร้อมราคาประเมินทั้งหมด และระยะเวลาดำเนินการ -
เริ่มก่อสร้างและควบคุมงาน
ทีมออกแบบควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างให้ตรงกับแบบและเสร็จทันกำหนด
ข้อควรระวังสำหรับเจ้าของโครงการ
-
อย่ารีบสั่งงานก่อสร้างโดยยังไม่เคลียร์แบบ 3D และ BOQ
-
อย่าละเลยการตรวจสอบวัสดุจริงก่อนอนุมัติ
-
ควรทำสัญญาชัดเจนกับทั้งนักออกแบบและผู้รับเหมา
-
ควรกำหนดจุดอนุมัติเป็นงวด เช่น Final 3D, BOQ, ก่อนเริ่มงานก่อสร้าง
สรุป: วางแผนดี = โปรเจกต์จบไว งบไม่บาน และผลงานโดนใจ
หากคุณกำลังจะเริ่มโปรเจกต์แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรเริ่มตรงไหน ขอแนะนำให้พูดคุยกับทีมออกแบบภายในมืออาชีพตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะพวกเขาสามารถช่วยคุณ “วางแผน คุมงบ และทำให้ทุกดีไซน์เกิดขึ้นได้จริง”




















