ข้อดีของ HArmonyCa ดีอย่างไร? ก่อนฉีดควรระวังอะไร?
ข้อดีของ HArmonyCa ดีอย่างไร? ก่อนฉีดควรระวังอะไร?
ในยุคที่มลภาวะและการใช้ชีวิตที่เร่งรีบส่งผลต่อผิวหน้า การดูแลผิวจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะกับปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามเวลา HArmonyCa เป็นสารเติมเต็มใหม่ที่สามารถยกกระชับผิวและกระตุ้นคอลลาเจนได้ในขั้นตอนเดียว ผลลัพธ์ยาวนานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว รมย์รวินท์คลินิกพร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ HArmonyCa ว่าทำไมถึงเป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณา
ข้อดีของ HArmonyCa
- ยกกระชับผิวหน้า: โปรแกรมฉีด HArmonyCa มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid (HA) ที่ช่วยเติมเต็มและยกกระชับผิวทันทีที่ฉีด ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและลดความหย่อนคล้อย.
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: ด้วยส่วนประกอบของ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและกระชับขึ้น.
- ผลลัพธ์ทันทีและระยะยาว: สาร HA ยกกระชับผิวทันทีขณะฉีด ขณะที่ CaHA กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนต่อเนื่อง ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน แม้สาร HA จะสลายไปแล้ว.
- ได้รับมาตรฐานระดับสากล: โปรแกรมฉีด HArmonyCa ได้รับการรับรองจาก US FDA และ TH FDA ทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยและคุณภาพของสาร.
- คงผลลัพธ์ยาวนาน: ผลลัพธ์จากโปรแกรม HArmonyCa คงอยู่ได้ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังฉีด ลดความถี่ในการฉีดซ้ำ.
- ไม่ต้องพักฟื้น: หลังฉีดสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันที แนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก 2-3 วันหลังฉีด.
- ลดความเจ็บปวดขณะฉีด: HArmonyCa มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ช่วยลดความรู้สึกเจ็บขณะฉีด ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายตัวมากขึ้น
ข้อควรระวังของ HArmonyCa
- ฉีดโดยแพทย์: โปรแกรมฉีด HArmonyCa ควรทำโดยแพทย์ที่มีความรู้nและประสบการณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง เช่น ก้อนนูนหรือสารกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ.
- ไม่เหมาะกับบางบริเวณ: โปรแกรมอาจไม่เหมาะกับบางพื้นที่ เช่น ใต้ตา ริมฝีปาก หรือหน้าผาก เนื่องจากการเคลื่อนไหวบ่อยอาจทำให้เกิดก้อนแข็งใต้ผิวหนัง.
- อาจเกิดอาการบวมช้ำ: แม้ว่าจะไม่ต้องพักฟื้นหลังฉีด แต่บางกรณีอาจพบอาการบวมแดงหรือตึงมากกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป เนื่องจากส่วนประกอบของ CaHA ซึ่งเป็นอาการปกติที่หายได้เองภายใน 2-3 วัน.
HArmonyCa คืออะไร?
HArmonyCa เป็นเทคโนโลยี Hybrid Filler ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Allergan จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการทำงานแบบ Dual Effect คือช่วยยกกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในขั้นตอนเดียว โดยผสานส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) อย่างลงตัว เมื่อทั้งสองส่วนประกอบทำงานร่วมกัน ผลลัพธ์จะมีความยั่งยืน ทั้งการยกกระชับผิวทันที และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว นอกจากนี้ยังมี Lidocaine (ยาชา) ช่วยลดความรู้สึกเจ็บปวดขณะฉีด ทำให้รู้สึกสบายมากขึ้นระหว่างการทำหัตถการ
HArmonyCa มีจุดเด่นเรื่องอะไร?
โปรแกรมฉีด HArmonyCa เป็น Hybrid Filler ที่รวมคุณสมบัติพิเศษในการยกกระชับผิวและกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว โดยมีส่วนประกอบสำคัญสองชนิด ได้แก่ Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ซึ่งทำให้โปรแกรมนี้มีจุดเด่น 4 ประการ ดังนี้:
- เพิ่มความแข็งแรง ด้วย Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ที่ช่วยเสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรง กระชับ ลดความหย่อนคล้อยอย่างมีประสิทธิภาพ.
- เพิ่มความยืดหยุ่น Hyaluronic Acid (HA) ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น อิ่มฟู ดูมีวอลลุ่ม และดูเป็นธรรมชาติ.
- กระจายตัวได้ดี โปรแกรมฉีด HArmonyCa กระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผลลัพธ์เรียบเนียน และกลมกลืนกับผิว.
- อุ้มน้ำสูง Hyaluronic Acid (HA) ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวได้ดี ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ชุ่มชื้น และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย.
HArmonyCa ใช้ฉีดบริเวณใด?
- บริเวณโหนกแก้ม (Zygomatic arch)
- บริเวณขากรรไกรล่าง (Jaw ramus)
- บริเวณกราม (Jaw angle)
HArmonyCa เหมาะกับใคร?
โปรแกรมฉีด HArmonyCa เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากการสูญเสียปริมาตรและคอลลาเจนในผิวชั้นลึก
- ผู้ที่มีริ้วรอยและร่องลึก ต้องการฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้คมชัดและมีมิติมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่มีผิวหน้าขาดวอลลุ่ม ดูแก่กว่าวัย
- ผู้ที่มีผิวหน้าแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวและกระตุ้นคอลลาเจนในขั้นตอนเดียว
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน ไม่ต้องการฉีดซ้ำบ่อย
HArmonyCa ไม่เหมาะกับใคร?
โปรแกรมฉีด HArmonyCa ไม่เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบใน HArmonyCa (Hyaluronic Acid หรือ Calcium Hydroxyapatite)
- ผู้ที่แพ้ยาชา (Lidocaine)
- ผู้ที่เคยมีแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ที่มีโรคเลือดออกง่ายหรือกำลังใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- คุณแม่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีผิวหนังติดเชื้อ สิว หรืออักเสบในบริเวณที่ฉีด
HArmonyCa ช่วยเรื่องอะไร?
- ยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย
- กระตุ้นคอลลาเจนตามธรรมชาติ
- เสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรง
- ลดริ้วรอย ร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
- เพิ่มความยืดหยุ่นและความหนาแน่นให้ผิว
- เติมเต็มใบหน้า เพิ่มวอลลุ่ม
- ทำให้ใบหน้าดูอิ่มฟูและลดความตอบ
- ปรับกรอบหน้าให้คมชัด
- ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระจ่างใส
HArmonyCa ต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร?
HArmonyCa แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปตรงที่ผสมผสาน Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ซึ่งช่วยยกกระชับผิวและกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว ในขณะที่ฟิลเลอร์ทั่วไปใช้ HA เพียงอย่างเดียว เพื่อเติมเต็มผิวและปรับรูปหน้า ผลลัพธ์ของ HArmonyCa จะยาวนานกว่า โดยคงอยู่ 12-18 เดือน ส่วนฟิลเลอร์ทั่วไปมีอายุการใช้งาน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว
HArmonyCa เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจน แต่ฟิลเลอร์ทั่วไปอาจเหมาะสำหรับการเติมเต็มหรือปรับรูปหน้าเฉพาะจุด
HArmonyCa ต่างจาก Radiesse อย่างไร?
HArmonyCa และ Radiesse แตกต่างกันในส่วนประกอบและผลลัพธ์หลังฉีด โดย HArmonyCa เป็น Hybrid Filler ผสม Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ซึ่งช่วยยกกระชับผิวทันทีและกระตุ้นคอลลาเจนระยะยาว ส่วน Radiesse มีเพียง CaHA ที่เน้นกระตุ้นคอลลาเจนลึกและให้ผลลัพธ์ยาวนานกว่า (24 เดือน) ขณะที่ HArmonyCa อยู่ได้ 12–18 เดือน เลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับปัญหาผิว และปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรพิจารณาก่อนฉีด HArmonyCa
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน: ต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุข
- เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์: แพทย์ควรได้รับการฝึกอบรมและมีประสบการณ์ในการทำโปรแกรม HArmonyCa
- ใช้โปรแกรมแท้: ตรวจสอบโปรแกรมฉีด HArmonyCa ว่ามีเลขทะเบียน อย. และเลข Lot. ถูกต้อง
- ดูรีวิวจากผู้ใช้จริง: ตรวจสอบรีวิวจากผู้ที่เคยทำโปรแกรมเพื่อดูผลลัพธ์และความชำนาญของแพทย์
HArmonyCa เป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมในการยกกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ด้วยคุณสมบัติ 2 in 1 ที่ให้ผลลัพธ์ยาวนานและไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีด ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและลดความหย่อนคล้อยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องฉีดซ้ำบ่อย ๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจเพื่อผลลัพธ์ที่ดี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ รมย์รวินท์ทุกสาขา

















