Radiesse Plus ปรับกรอบหน้าชัด เพิ่มมิติให้ใบหน้า
Radiesse Plus ปรับกรอบหน้าชัด เพิ่มมิติให้ใบหน้า
Radiesse Plus คือหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมด้านการฟื้นฟูผิวและยกกระชับใบหน้า ที่ให้ผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติและยาวนาน ด้วยเทคโนโลยีสารเติมเต็มประเภท Biostimulator ซึ่งประกอบด้วย CaHA ในรูปแบบเนื้อเจลที่มีความเข้มข้นสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า เติมเต็มร่องลึก หรือคืนความกระชับให้ผิวในระดับโครงสร้าง โดยสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด และให้ผลยาวนานสูงสุดถึง 2 ปี Radiesse Plus จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความงามและการฟื้นฟูผิวในระยะยาวอย่างแท้จริง
Radiesse Plus คืออะไร?
Radiesse Plus หรือ Reset Plus ไม่ใช่ฟิลเลอร์ทั่วไป เพราะไม่ได้ผลิตจากกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) แต่ใช้สาร Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งอยู่ในรูปของไมโครสเฟียร์เจล มีคุณสมบัติทั้งในด้านการเพิ่มปริมาตรของชั้นกระดูก (คล้ายฟิลเลอร์เนื้อแข็ง) และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง จึงช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าให้มีมิติคมชัด ยกกระชับ และฟื้นฟูผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย. อีกทั้งยังมีการใช้งานในวงการแพทย์ความงามทั่วโลกมานานกว่า 9 ปี พร้อมงานวิจัยรองรับกว่า 220 ฉบับ นอกจากนี้ยังเป็นสารฉีดชนิดแรกของโลกที่ได้รับการรับรองจาก US FDA สำหรับการฉีดเพื่อปรับรูปกรามและกรอบหน้า โดยสามารถฉีดได้ทั้งในชั้นผิวหนังลึกหรือใต้ผิวหนัง ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไข
Radiesse Plus มีองค์ประกอบอะไร?
Radiesse Plus ประกอบด้วยสาร Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งอยู่ในรูปของไมโครสเฟียร์แขวนลอยใน CMC Gel และมีการผสม Lidocaine 0.3% เพื่อลดความเจ็บขณะฉีด ตัวเนื้อเจลมีความหนืดและยืดหยุ่นสูง ทำให้ตัวยามีความคงตัว ไม่เคลื่อนที่หลังฉีด ช่วยให้แพทย์สามารถปรับรูปหน้า ยกกระชับ หรือเสริมโครงสร้างในจุดที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ Radiesse Plus จึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการปรับรูปหน้าให้ดูคมชัด มีมิติ และสวยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งการแต่งหน้า
Radiesse Plus ใช้ฉีดบริเวณไหน?
Radiesse Plus สามารถใช้ฉีดเพื่อปรับรูปหน้าและยกกระชับในหลายตำแหน่งสำคัญ ได้แก่ กรอบหน้า, โหนกแก้ม, แนวกราม, แนวขากรรไกร, คาง และใช้เพื่อ ปรับโครงสร้างใบหน้าโดยรวม ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติคมชัด และยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ
Radiesse Plus มีข้อดีอย่างไร?
Radiesse Plus มีจุดเด่นหลายด้านที่ทำให้เป็นทางเลือกยอดนิยมในการปรับรูปหน้า ไม่ว่าจะเป็น การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน, ยกกระชับใบหน้าได้ทันที, และ ปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูมีมิติคมชัด โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด อีกทั้งยังมีการผสม ยาชา Lidocaine เพื่อลดความเจ็บขณะฉีด ทำให้รู้สึกสบายระหว่างทำ หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12–18 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และช่วยให้ใบหน้าดูสวยมีมิติแม้ในวันที่ไม่แต่งหน้า ทั้งยังสามารถตั้งทรงได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำตามต้องการ
Radiesse Plus มีข้อเสียอย่างไร?
แม้ Radiesse Plus จะโดดเด่นในการยกกระชับและปรับโครงหน้า แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ไม่เหมาะสำหรับการฉีดในชั้นผิวตื้นเพื่อฟื้นฟูงานผิว และ ไม่สามารถใช้เพิ่มวอลลุ่มในบริเวณที่ต้องการความอิ่มฟูแบบฟิลเลอร์ทั่วไป ได้ จึงเหมาะสำหรับการฉีดในชั้นลึกเพื่อเสริมโครงสร้างและยกกระชับมากกว่า
Radiesse Plus เหมาะกับใคร?
Radiesse Plus เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ เพิ่มมิติและความคมชัดให้กับใบหน้า, โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการ ปรับโครงสร้างใบหน้า, เสริมกรอบหน้าให้ชัด, หรือ มีแนวกรามที่ดูคมขึ้น นอกจากนี้ยังเหมาะกับ ผู้ชายที่ต้องการเสริมความคมเข้มและความแมนของใบหน้า รวมถึงผู้ที่ต้องการ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณกรอบหน้า เพื่อให้ใบหน้าดูเฟิร์ม กระชับ และมีมิติมากยิ่งขึ้น
Radiesse Plus ไม่เหมาะกับใคร?
Radiesse Plus ไม่เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี, สตรีมีครรภ์ หรือ อยู่ระหว่างให้นมบุตร รวมถึงผู้ที่มี ประวัติแพ้สารประกอบในตัวยา, แพ้อย่างรุนแรง, หรือมี ภาวะเลือดออกง่ายและหยุดยาก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับการรักษา
Radiesse Plus มีข้อควรระวังอย่างไร?
ก่อนการฉีด Radiesse Plus ควรระวังในผู้ที่มี การติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่ฉีด, สิวอักเสบ หรือ สิวหัวช้าง ในพื้นที่ที่จะฉีด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการฉีด นอกจากนี้ ผู้ที่มี ประวัติของโรคเริม หรือ แผลคีลอยด์, รวมถึงผู้ที่มีความจำเป็นต้องทำ X-rays หรือ CT Scans ควรแจ้งแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนรับการรักษา การแจ้งข้อมูลทั้งหมดให้แพทย์ทราบจะช่วยในการตัดสินใจและประเมินความปลอดภัยในการรักษา
เตรียมตัวก่อนฉีด Radiesse Plus
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และความเหมาะสมกับปัญหาของคุณ
- ตรวจสอบข้อมูลคลินิกที่เลือกใช้บริการ
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาและเตรียมตัวสำหรับการรักษา
- งดการทำหัตถการอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดแผลในใบหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเตรียมผิวจากภายใน
- งดการใช้ยาละลายลิ่มเลือด
- งดยาใด ๆ ที่อาจทำให้เลือดแข็งตัว เพื่อลดความเสี่ยงเลือดออกหรือรอยช้ำ
ขั้นตอนการฉีด Radiesse Plus
- ผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดใบหน้าและจัดเก็บผมให้เรียบร้อย
- หากต้องการลดความเจ็บปวด สามารถทายาชาทิ้งไว้ 30-40 นาที
- เช็ดยาชาออกจากบริเวณที่ทา
- แพทย์ทำการฉีด Radiesse Plus
- ผู้ช่วยพยาบาลใช้สำลีกดเพื่อห้ามเลือด และเสร็จสิ้นขั้นตอนการรักษา
ดูแลตัวเองหลังฉีด Radiesse Plus
- หลีกเลี่ยงการจับ ลูบ แตะ แกะ หรือเกาผิวหน้าในบริเวณที่ฉีด
- งดการแต่งหน้าหลังการฉีดเป็นเวลา 12 ชั่วโมง
อาการข้างเคียงหลังฉีด Radiesse Plus
- อาจมีอาการบวมเล็กน้อยหลังการฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติและจะหายได้เองภายใน 72 ชั่วโมง
- อาจรู้สึกถึงก้อนบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะค่อยๆ ลดลงภายใน 2-4 สัปดาห์
- หากมีรอยช้ำ บวม หรือเขียว สามารถประคบเย็นในวันแรก และประคบอุ่นในวันถัดไป
- สามารถทาหรือรับประทานยาเพื่อลดอาการช้ำได้หลังจากการฉีด
- หากพบอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์
Radiesse Plus ต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร?
Radiesse Plus มีส่วนประกอบหลักเป็น CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ซึ่งมีลักษณะเนื้อแข็งและสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวได้ ช่วยเพิ่มปริมาตรใต้ผิวหนังและปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูคมชัดและมีมิติ พร้อมทั้งปรับคุณภาพผิวในระยะยาว
ต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปที่ใช้ HA (Hyaluronic Acid) ซึ่งทำหน้าที่อุ้มน้ำและเติมเต็มให้ผิวดูชุ่มชื้น แต่ไม่ได้ช่วยในการปรับโครงสร้างหรือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งที่สุดยังมีความแข็งน้อยกว่า Radiesse Plus ซึ่งทำให้ Radiesse Plus เหมาะสำหรับการยกกระชับและเพิ่มมิติได้ดีกว่า
Radiesse Plus ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวดูยกกระชับ และปรับกรอบหน้าให้มีมิติได้ทันทีหลังการฉีด พร้อมทั้งปรับโครงสร้างใบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้จะคงอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและสภาพผิวของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวในระยะยาว ทำให้ผิวดูเต่งตึงและมีความอ่อนเยาว์มากขึ้น






