Sculptra กระตุ้นคอลลาเจน คืนความอิ่มฟูให้ผิว คืออะไร?
Sculptra กระตุ้นคอลลาเจน คืนความอิ่มฟูให้ผิว คืออะไร?
Sculptra เป็นการรักษาที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลก เนื่องจากช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีคุณภาพจากภายในสู่ภายนอก โปรแกรมนี้มีจุดเด่นที่การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิว
เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนในผิวจะลดลง ทำให้ผิวดูหย่อนคล้อยและขาดความสดใส การรักษาด้วย Sculptra จึงช่วยเติมเต็มการบำรุงจากภายใน เพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีความเป็นธรรมชาติอย่างยาวนาน
Sculptra คืออะไร?
Sculptra คือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง (Collagen Biostimulator) ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกตั้งแต่ปี 1999 และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากกว่า 40 ประเทศ รวมถึงได้รับการรับรองจาก FDA อีกด้วย
Sculptra ประกอบด้วยสาร Poly-L-Lactic (PLLA) ซึ่งเป็นสารเดียวกับเส้นไหมที่ใช้ในการเย็บแผล จึงปลอดภัยและไม่ตกค้างในร่างกาย โดยสารนี้จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในบริเวณที่คอลลาเจนเสื่อมสลายตามวัย ช่วยให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น และเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ
Sculptra ยังช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส รูขุมขนกระชับ และฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ของผิวโดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง ด้วยประสิทธิภาพที่ได้รับการสนับสนุนจากงานวิจัยมากกว่า 50 งานและการทดลองในกลุ่มตัวอย่างกว่า 1,000 ราย
คอลลาเจนจำเป็นต่อร่างกายอย่างไร?
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สำคัญและมีบทบาทหลักในโครงสร้างของร่างกาย โดยเป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนังและเนื้อเยื่ออื่นๆ เช่น กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เส้นเอ็น และข้อต่อ คอลลาเจนในผิวหนังของมนุษย์มีสัดส่วนสูงถึง 80% - 90% และสามารถพบได้ในหลายชนิด โดยที่มี 5 ชนิดหลักที่สำคัญดังนี้:
- Collagen Type 1: คอลลาเจนที่มีความยืดหยุ่นและความแข็งแรงสูง พบในผิวหนังและเส้นเอ็น
- Collagen Type 2: คอลลาเจนที่มีเส้นใยหลวมกว่าชนิดที่ 1 พบในกระดูกและข้อต่อ
- Collagen Type 3: คอลลาเจนที่มีความแข็งแรงน้อยกว่าชนิดที่ 1 พบในผิวหนังและหลอดเลือด
- Collagen Type 4: คอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะ พบในเนื้อเยื่อที่หุ้มกล้ามเนื้อ ไขมัน และเยื่อบุผิว
- Collagen Type 5: คอลลาเจนที่คล้ายกับชนิดที่ 1 พบในเส้นผม เนื้อเยื่อของทารก และผิวเซลล์
Sculptra ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง โดยการเพิ่มปริมาณคอลลาเจนชนิดที่สำคัญในผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้นตามธรรมชาติ
Sculptra สำคัญต่อเซลล์ไฟโบรลาสต์อย่างไร?
Sculptra มีความสำคัญต่อการกระตุ้นการทำงานของ เซลล์ Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีบทบาทหลักในการสร้าง คอลลาเจน และ อิลาสติน ภายใต้ผิวหนัง คอลลาเจนและอิลาสตินมีหน้าที่รักษาความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น และความกระชับของผิวหนัง ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงและแข็งแรงขึ้น แต่เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์ Fibroblast จะลดลง ส่งผลให้การสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินลดลงไปด้วย ทำให้ผิวหนังเริ่มมีความหย่อนคล้อย
Sculptra ทำหน้าที่กระตุ้นให้เซลล์ Fibroblast สร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวกลับมามีความยืดหยุ่น กระชับ และดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
Sculptra มีกระบวนการทำงานอย่างไร?
หลังจากที่ Sculptra Collagen Biostimulator ถูกฉีดเข้าสู่ผิว ผิวจะดูเต่งตึงและกระชับขึ้นทันที เนื่องจาก Sculptra ผสมกับ Sterile water ก่อนฉีด ซึ่งทำให้เกิดการเติมเต็มชั่วคราว เมื่อประมาณ 2-3 วันหลังจากฉีด น้ำที่ผสมไปกับ Sculptra จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ผิวดูยุบลงและกลับสู่สภาพเดิมในช่วงแรก
แต่ในขณะเดียวกัน Sculptra เริ่มกระจายตัวไปทั่วผิวหนัง และทำงานโดยกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เซลล์ Macrophages จะเข้ามาล้อมรอบอนุภาคของ Sculptra จากนั้นจะส่งสัญญาณไปยัง Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนและอิลาสติน เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ที่มีคุณภาพดีขึ้น ทำให้ผิวหนังแข็งแรง กระชับ และหนาแน่นขึ้น
หลังจากนั้น Sculptra จะค่อยๆ สลายตัวออกจากร่างกาย แต่จะทิ้งไว้ซึ่งคอลลาเจนและอิลาสตินที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ ทำให้ผิวกระชับและยกกระชับมากขึ้น ช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวอย่างยาวนาน โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 25 เดือน
Sculptra มีจุดเด่นอย่างไร?
ความพิเศษของ Sculptra คือการเป็น Collagen Biostimulator ตัวแรกที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังตามธรรมชาติได้สูงถึง 66.5% โดยจะเป็นคอลลาเจนชนิด Type 1 ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับผิว ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีด Sculptra จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลา 3 เดือน คอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นนั้นเป็นคอลลาเจนจากร่างกายของเราเอง ซึ่งปลอดภัยและไม่ทำให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อผิวหนัง
Sculptra ใช้ปริมาณเท่าไหร่ในการฉีด?
ในการฉีด Sculptra ปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับอายุและความหลวมของผิวหนังแต่ละคน โดยทั่วไปแล้วแพทย์แนะนำให้ใช้ 1 ขวดของ Sculptra ต่อการรักษาในผู้ที่มีอายุประมาณ 10 ปี แต่จำนวนจริงอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผิวและคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปริมาณยาและวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
Sculptra เหมาะกับใคร?
Sculptra เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยตามวัย หรือผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน โดยเฉพาะผู้ที่อายุเพิ่มขึ้นและการผลิตคอลลาเจนลดลง นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการผิวกระชับ อ่อนเยาว์ แข็งแรง และต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานโดยไม่ต้องฉีดบ่อยๆ
Sculptra ไม่เหมาะกับใคร?
Sculptra ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติผิวหนังเกิดคีลอยด์, ผิวแพ้รุนแรง (Anaphylaxis), มีการติดเชื้อหรืออักเสบที่ผิว, หรืออยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
Sculptra ช่วยเรื่องอะไร?
- เติมเต็มใบหน้าที่ดูผอมตอบให้ดูอิ่มและมีน้ำมีนวล
- ริ้วรอยและร่องลึกจะตื้นขึ้น
- แก้มที่แบนจะเต็มขึ้น ทำให้โหนกแก้มดูละมุน
- ผิวดูผ่องและอิ่มเอิบ
- รูขุมขนเล็กลง ช่วยลดการเกิดสิว
- สภาพผิวดีขึ้น ริ้วรอยและจุดด่างดำลดลง
- ผิวมีความหนาแน่นและกระชับ
- ผิวดูสว่างกระจ่างใสมากขึ้น
Sculptra ใช้ฉีดบริเวณไหน?
Sculptra สามารถทำได้ที่บริเวณ:
- ขมับ
- หน้าแก้ม
- แก้มล่าง
- แนวกราม
Sculptra ไม่ควรฉีดบริเวณไหน?
Sculptra ไม่ควรทำที่บริเวณ:
- ใต้ตา
- ทีโซน
- ร่องแก้ม
- ร่องน้ำหมาก
วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra
- งดหัตถการใบหน้าอื่น ๆ ล่วงหน้า 2–4 สัปดาห์
- หยุดยาแก้ปวด เช่น แอสไพริน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดวิตามินหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันตับปลา แปะก๊วย 2 สัปดาห์
- งดแอลกอฮอล์ 1–3 วันก่อนทำ
- หากมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- ควรอยู่ในสภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีไข้หรืออาการเจ็บป่วย
ขั้นตอนการฉีด Sculptra
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิว
- ทำความสะอาดใบหน้า
- ทายาชา 30–40 นาที
- เช็ดยาชา เตรียมผิว
- แพทย์ฉีด Sculptra อย่างแม่นยำ
- เช็ดห้ามเลือด
- ประคบเย็นและแปะพลาสเตอร์รอยเข็ม
วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด Sculptra
- นวดหน้า “Triple 5” (5 วัน วันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที) ตามคำแนะนำแพทย์
- หลีกเลี่ยงแดดจัดและแสงยูวีจนกว่าอาการบวมแดงจะหาย
- งดหัตถการอื่น ๆ อย่างน้อย 2–4 สัปดาห์
- งดแต่งหน้าช่วงที่ผิวยังบวม
- หลีกเลี่ยงซาวน่าหรืออบไอน้ำ 24 ชม.
- หากเจ็บหรือบวม ใช้เจลเย็นประคบบริเวณที่ฉีดได้
Sculptra เป็นโปรแกรมดูแลผิวยอดนิยมในยุคที่งานผิวหรือ skin quality ได้รับความสนใจอย่างมาก หลายคลินิกความงามจึงเลือกให้บริการโปรแกรมนี้ สิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจรักษาคือ ควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน สะอาด ไม่เป็นอันตราย และมีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามตามต้องการ









