ฟิลเลอร์คาง คืออะไร? ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นจริงไหม?
ฟิลเลอร์คาง คืออะไร? ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นจริงไหม?
สำหรับใครที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด หรืออยากปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์คางคือทางเลือกที่ทั้งปลอดภัย เห็นผลไว และไม่ต้องพักฟื้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่ว่าจะเป็นข้อดี วิธีเตรียมตัว หรือคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์คาง คืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์คาง คือ การใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA) ซึ่งเป็นสารอุ้มน้ำที่ปลอดภัยและสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ฉีดเข้าไปบริเวณคางเพื่อช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น เสริมแนวคางให้มีมิติ และแก้ปัญหารูปหน้าที่ดูสั้น ตัด หรือบุ๋ม
ข้อดีของวิธีนี้คือ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ จึงเหมาะกับผู้ที่อยากปรับรูปหน้าแบบเร่งด่วนแต่ไม่ต้องการผ่าตัดเสริมคางถาวร
ฟิลเลอร์คางช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- เติมเต็มคางที่สั้น ตัด หรือบุ๋ม ให้มีความยาวที่สมดุลมากขึ้น
- ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและมีกรอบหน้าชัด โดยเฉพาะในคนหน้ากลม หรือมีโหนกแก้มเด่น
- แก้คางเบี้ยว คางไม่สมมาตร ให้ดูเรียบและสมดุล
- ช่วยเสริมโหงวเฮ้งใบหน้า ให้ดูมีสง่าราศี และความมั่นใจมากขึ้นตามความเชื่อ
- ปรับความยาวของคางได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด
ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับใคร?
- ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด หรือคางบุ๋ม
- ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับผู้คนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้สมดุล
- ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับผู้คนที่ไม่อยากผ่าตัดหรือไม่มีเวลาพักฟื้น
- ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับผู้คนที่อยากลองปรับรูปคางก่อนตัดสินใจผ่าตัดถาวร
- ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับผู้คนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง
ฟิลเลอร์คาง ไม่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีคางสั้นหรือถอยมากเกินไป จนต้องการปรับมากกว่า 1 เซนติเมตร
- ผู้ที่มีพังผืดจากการผ่าตัด หรือเนื้อคางบางมาก
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ถาวร (เหมาะกับการผ่าตัดมากกว่า)
- ผู้ที่แพ้สาร HA หรือยาชา
- ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกง่าย หรือใช้ยาละลายลิ่มเลือด
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีสิวอักเสบ หรือผิวหนังอักเสบบริเวณคาง
จุดเด่นของการฉีดฟิลเลอร์คาง
- เห็นผลทันทีหลังทำ
- ปรับทรงคางได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องศัลยกรรม
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ฟิลเลอร์สามารถสลายได้เองภายใน 12–24 เดือน
- หากไม่พอใจในผลลัพธ์ สามารถฉีดสลายได้
ความแตกต่างระหว่าง ฟิลเลอร์คาง กับ การผ่าตัดคาง
การเสริมคางมีให้เลือกทั้งแบบฉีดฟิลเลอร์และผ่าตัดเสริมซิลิโคน ซึ่งแต่ละวิธีมีจุดเด่นต่างกัน และเหมาะกับความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ดังนี้
ฟิลเลอร์คาง
- ฟิลเลอร์คางเป็นวิธี ไม่ถาวรใช้สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ที่ปลอดภัย และสามารถสลายเองได้
- ฟิลเลอร์คางเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปคางเล็กน้อย หรือแก้ปัญหาคางสั้น คางตัดในระดับไม่มาก
- ฟิลเลอร์คางไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลทันทีหลังทำ
- ฟิลเลอร์คางสามารถเติมเพิ่มหรือสลายฟิลเลอร์ได้ หากไม่พอใจกับผลลัพธ์
- ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นาน 12–24 เดือน แล้วจึงต้องเติมซ้ำ
การผ่าตัดคาง
- เป็นการ เสริมซิลิโคนแบบถาวร เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปทรงคางอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการยาวเพิ่มมากกว่า 1 เซนติเมตร
- ต้องทำการผ่าตัด มีแผล และ ต้องดูแลแผลหลังผ่าตัด อย่างระมัดระวัง
- เห็นผลหลังแผลหายสนิท ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์
- แก้ไขได้ยากหากไม่พอใจกับทรง อาจต้องผ่าตัดใหม่
- ผลลัพธ์ถาวร อยู่ได้นานหลายปีหรือตลอดชีวิต
อ่านเพิ่มเติม : https://www.romrawin.com/chin-filler/
ยี่ห้อฟิลเลอร์คางที่แนะนำ
- Restylane Perlane Lyft – เนื้อแน่น คงตัวสูง เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ธรรมชาติ
- Juvederm Voluma / Volux – ฟิลเลอร์จากสหรัฐฯ มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง อยู่ได้นานถึง 18 เดือน
- Belotero Intense / Volume – ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ เนื้อแน่น เกลี่ยง่าย ปั้นทรงชัด
- Definisse Core – ฟิลเลอร์จากอิตาลี เนื้อแข็ง เหมาะกับการปรับแนวกระดูกและแก้คางสั้น
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง
- งดยา วิตามิน และอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- งดแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
- งดกิจกรรมที่กระตุ้นการไหลเวียนเลือด เช่น คาร์ดิโอ
- ไม่ควรแต่งหน้าหรือทายาบริเวณคางก่อนทำ
- ศึกษาข้อมูลคลินิกและฟิลเลอร์ที่ใช้ให้ชัดเจน
- แจ้งโรคประจำตัวและยาที่ใช้อยู่กับแพทย์
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ เท้าคาง หรือนอนตะแคงใน 3 วันแรก
- ห้ามสัมผัส แกะ นวด หรือกดบริเวณคาง
- งดกิจกรรมร้อน เช่น ซาวน่า ปิ้งย่าง ออกกำลังกายหนัก
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์คงตัวได้นานขึ้น
- งดแอลกอฮอล์และบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างครบถ้วน
- หลีกเลี่ยงครีมหรือเครื่องสำอางบริเวณคางในคืนแรก
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์คาง
ฉีดฟิลเลอร์คางใช้กี่ CC?
โดยทั่วไป 1 CC เพียงพอสำหรับการปรับรูปทรงคางให้ดูยาวขึ้นเล็กน้อยหรือแก้คางบุ๋ม คางตัด แต่หากต้องการปรับทรงมากขึ้น หรือต้องการผลลัพธ์ที่เด่นชัดขึ้น อาจต้องใช้ 1.5–2 CC ขึ้นอยู่กับรูปคางเดิม และคำแนะนำของแพทย์ผู้ฉีด
หลังฉีดฟิลเลอร์คางบวมนานไหม?
อาการบวมถือเป็นปกติหลังฉีด อาจเกิดขึ้นในช่วง 3–5 วันแรก และจะค่อย ๆ ลดลง จากนั้นฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ภายใน 1–2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่สามารถประเมินผลลัพธ์ได้ชัดเจน
ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน?
ฟิลเลอร์คางสามารถอยู่ได้ประมาณ 12–24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ เช่น Restylane / Juvederm Voluma / Volux / Belotero Intense อยู่ได้เฉลี่ย 18 เดือนขึ้นไป การดูแลหลังฉีด เช่น งดกดคาง เท้าคาง และดื่มน้ำเยอะ ๆ จะช่วยยืดอายุฟิลเลอร์ได้ดี
ฟิลเลอร์คางสลายได้ไหม?
หากใช้ฟิลเลอร์แท้ ที่ผลิตจาก Hyaluronic Acid สามารถฉีดสลายได้ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase ในกรณีที่ไม่พอใจกับผลลัพธ์ หรือต้องการแก้ไขทรงคาง
ฉีดฟิลเลอร์คางเจ็บไหม?
มีความรู้สึกเจ็บบ้างในขณะฉีด เนื่องจากคางเป็นจุดที่มีเส้นประสาท แต่จะมีการแปะยาชาและประคบเย็น ก่อนทำ และฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะมียาชา Lidocaine ผสมอยู่ จึงช่วยลดความรู้สึกเจ็บได้มาก
ฉีดฟิลเลอร์คางสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม?
สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ เช่น ร้อยไหม เพื่อยกกระชับใบหน้า โบท็อกซ์ ลดกรามหรือเก็บกรอบหน้า เครื่องยกกระชับ เช่น Ultraformer MPT หรือ Thermage
โดยควรให้แพทย์วางแผนลำดับก่อน-หลังอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และลดโอกาสที่ฟิลเลอร์จะเคลื่อนหรือเสื่อมสภาพเร็วเกินไป
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มคนที่ต้องการปรับรูปหน้าอย่างปลอดภัย เห็นผลไว ไม่ต้องผ่าตัด และสามารถแก้ไขหรือเติมซ้ำได้ในอนาคต เมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญร่วมกับการเลือกฟิลเลอร์คุณภาพ ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติและมีความคงตัวสูง หากดูแลตัวเองตามคำแนะนำ ผลลัพธ์จะอยู่ได้ยาวนานและคุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อความมั่นใจในทุกมุมของใบหน้า















