10 เมืองสโลว์ไลฟ์ เหมาะกับไป Work From Anywhere
เทรนด์ Digital Nomad ที่สามารถให้คุณทำงานได้แบบ Remoted หรือ WFH (Work From Home) ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ตอนโควิด 19 ซึ่งการทำงานที่ไหนก็ได้ทุกที่บนโลกถือเป็นสวัสดิการที่มอบความอิสระ ช่วยลดความเครียด และประหยัดเวลาการเดินทางได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันนี้ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ทั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์พกพาสุดล้ำ และแอปพลิเคชันสื่อสารออนไลน์ ทำให้การทำงานแบบ Work From Anywhere เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย และถ้าหากคุณเบื่อที่ต้องทำงานที่บ้าน มาจองตั๋วเครื่องบินกับ Gother แล้วบินไปทำงานจาก 10 เมืองสโลว์ไลฟ์ดังต่อไปนี้กันดีกว่า
10 เมืองสโลว์ไลฟ์
1. บาหลี - อินโดนีเซีย (Bali - Indonesia)
บาหลีมีธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งชายหาด ป่าเขา และนาขั้นบันได ทำให้สภาพแวดล้อมในการทำงานน่าอยู่และช่วยลดความเครียด ในพื้นที่ยอดนิยมอย่างเช่นชางกู อุบุด และ เซมินยัก มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เร็วและเสถียร มีพื้นที่ทำงานร่วมกันหลายแห่งรองรับรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังมีค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำ และมีกิจกรรมนอกเวลางานให้ทำมากมาย ทั้งเที่ยวชมธรรมชาติ และชมวัฒนธรรมท้องถิ่น ถ้าหากให้แนะนำเมืองสโลว์ไลฟ์แนะนำบาหลี
2. ทบิลิซี - จอร์เจีย (Tbilisi - Georgia)
“ทบิลิซี” เป็นเมืองที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมสมัยใหม่ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวดิจิทัลโนแมดทั่วโลก มีคาเฟ่และพื้นที่ทำงานร่วมมากมายที่ให้บริการไวไฟฟรี บรรยากาศในเมืองมีความเป็นมิตร มีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมากมายให้ผ่อนคลาย มีกิจกรรมและเวิร์กช็อปต่าง ๆ ที่จัดขึ้นเป็นประจำสำหรับผู้ที่ทำงานระยะไกล สามารถพำนักได้นานถึง 1 ปีโดยไม่ต้องขอวีซ่า ถ้าหากมีเวลาหลายวัน ลองเช่ารถขับแพลนทริป Road Trip เที่ยวทั่วจอร์เจีย
3. ฮานอย - เวียดนาม (Hanoi - Vietnam)
หากมีงบประมาณไม่มาก “ฮานอย” (Hanoi) เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะค่าครองชีพไม่แพง ค่าเครื่องบิน และค่าที่พักคุ้มค่า ซึ่งฮานอย เมืองหลวงสุดคูลของเวียดนาม ดึงดูดเหล่าดิจิทัลโนแมดด้วยเสน่ห์ที่ลงตัวระหว่างความคลาสสิกและโมเดิร์น บรรยากาศชิล ๆ และวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์ ฮานอยมีร้านกาแฟและ Co-working spaces เก๋ ๆ พร้อมไวไฟฟรีให้นั่งทำงานยาว ๆ ฮานอยยังมีที่พักผ่อนหย่อนใจ เช่น ทะเลสาบคืนดาบ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมือง และย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยร้านค้าบรรยากาศสุดคึกคัก ฮานอยเป็นเมืองที่ตอบโจทย์การทำงานแบบ Work From Anywhere ได้อย่างลงตัว ทั้งบรรยากาศดี อาหารอร่อย และผู้คนเป็นมิตร
4. หลวงพระบาง - ลาว (Luang Phabang - Laos)
หลวงพระบาง เมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรม วัดวาอารามเก่าแก่ และบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความผ่อนคลายและวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ เมืองนี้มีคาเฟ่น่านั่ง โรงแรมบูติก และเกสต์เฮาส์บรรยากาศดี อีกทั้งยังมีพื้นที่ทำงานที่สะดวกสบาย พร้อมไวไฟฟรีสำหรับสาย Work from Anywhere การเดินเล่นชมเมือง วัดสวย ๆ และธรรมชาติรอบข้าง จะช่วยเติมพลังให้ทั้งการทำงานและการพักผ่อนได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคืออยู่ใกล้ไทย บินไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ลองเลือกหาตั๋วเครื่องบินไปหลวงพระบางราคาถูกได้ใน Gother
5. เฮลซิงกิ - ฟินแลนด์ (Helsinki - Finland)
เฮลซิงกิ (Helsinki) เมืองปลายทางระดับโลกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศเงียบสงบและการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายแต่มีสไตล์ ด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและ Wi-Fi ฟรี ในหลายพื้นที่ รวมถึงคาเฟ่และ Co-working Spaces ที่เปิดโอกาสให้นั่งทำงานได้นาน ๆ เมืองนี้ได้รับการยกย่องว่ามีคุณภาพชีวิตดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทำให้สามารถสร้างสมดุลระหว่างงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมพักผ่อนและซึมซับบรรยากาศเมืองใหญ่ไปพร้อมกัน
6. ลิสบอน - โปรตุเกส (Lisbon - Portugal)
หนึ่งในเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักเดินทางสาย Work From Anywhere ด้วยความสวยงามและสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางระหว่างวัฒนธรรมเก่ากับวิถีชีวิตสมัยใหม่ มีสังคมที่เปิดกว้างและคุณภาพชีวิตที่สมดุล พร้อมบรรยากาศที่เป็นมิตรต่อ Digital Nomads นอกจากนี้ ลิสบอนยังขึ้นชื่อเรื่อง คาเฟ่และ Co-working Spaces ที่ตอบโจทย์คนทำงานแบบยืดหยุ่น รวมถึงวัฒนธรรมกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ และอาหารรสเลิศที่ราคาเข้าถึงได้ง่าย ทำให้ที่นี่เป็นตัวเลือกที่ลงตัวกว่าสำหรับคนที่ต้องการพำนักในยุโรปด้วยค่าครองชีพที่ไม่สูง
7. ลูบลิยานา - สโลวีเนีย (Ljubljana - Slovenia)
ลูบลิยานา (Ljubljana) เมืองหลวงของสโลวีเนีย เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมในหมู่นักทำงานออนไลน์ เมืองนี้มีเสน่ห์จากบรรยากาศสีเขียว ที่เต็มไปด้วยสวนสาธารณะ และสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่าง สไตล์บาโรกและอาร์ตนูโว ทำให้เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์และน่าอยู่ มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง พร้อมกับ คาเฟ่และ Co-working Spaces มากมายที่เป็นมิตรกับคนทำงานระยะไกล อีกทั้งยังมีค่าครองชีพที่ไม่แพงเกินไป เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสถานที่ทำงานที่เงียบสงบแต่ยังคงมีสีสันและชีวิตชีวา
8. ปราก - เซ็ก (Prague - Czech)
กรุงปราก เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก เป็นเมืองที่ผสมผสานความเก่าแก่และความทันสมัยได้อย่างลงตัว โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับการทำงานออนไลน์ ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานแบบ Work From Anywhere และใช้ชีวิตอย่างยืดหยุ่น ค่าครองชีพอยู่ในระดับที่เหมาะสม วิถีชีวิตผ่อนคลาย และบรรยากาศเอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์ ผู้คนสามารถใช้เวลาว่างสำรวจเมือง แวะร้านกาแฟ ร้านหนังสือ หรือพักผ่อนในสวนสาธารณะ ทั้งหมดนี้ทำให้กรุงปรากเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับคนทำงานออนไลน์และนักเดินทางที่แสวงหาคุณภาพชีวิตที่ดี
9. บูดาเปสต์ - ฮังการี (Budapest - Hungary)
เมืองหลวงของฮังการี ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ปารีสแห่งตะวันออก” เนื่องจากเสน่ห์อันคลาสสิกที่ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมงดงามแบบยุโรปตะวันออก แม้จะไม่ได้หรูหราเท่าปารีส แต่เมืองนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของคนทำงานออนไลน์ที่มีสังคมและพื้นที่ทำงานร่วมกันมากมาย อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และค่าครองชีพที่เข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตแบบ Work from Anywhere และการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์อย่างลงตัว
10. บูคาเรสต์ - โรมาเนีย (Bucharest - Romania)
แม้จะเป็นประเทศนอกสายตา แต่ บูคาเรสต์ (Bucharest) ก็สวยไม่เป็นรองเมืองไหน ๆ เลย เนื่องจากสถาปัตยกรรมอันงดงามและประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของชาวดิจิทัลโนแมด ด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ค่าครองชีพที่เข้าถึงได้ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทุกมุมเมืองเต็มไปด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับยุคคอมมิวนิสต์และศิลปะแบบนีโอคลาสสิก บรรยากาศของที่นี่ผสมผสานความเก่าแก่และความทันสมัยได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางและคนทำงานออนไลน์
เคล็ดลับจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก
สำหรับคนที่กำลังมองหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก หรือโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ แนะนำลองเลือกเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินได้จากในแอป Gother ที่นอกจากจะจองง่าย สะดวก ยังมี Gother KLUB ให้คุณได้จองตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษกว่าใคร สามารถจองผ่านแอป เว็บไซต์ และในแอปเป๋าตัง
Work From Anywhere คือรูปแบบการทำงานที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถทำงานจากสถานที่ใดก็ได้ทั่วโลก โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังสำนักงาน ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และ Work-Life Balance อีกทั้งยังส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของทั้งองค์กรและพนักงาน














