Hifu คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง หลังทำเห็นผลทันทีหรือไม่?
โปรแกรม Hifu นวัตกรรมใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ลงลึกถึงชั้นผิว SMAS โดยไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ไฮฟู่กลายมาเป็นวิธียกกระชับที่ได้รับความนิยมในวงการความงามยุคใหม่
ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องก็คือ Hifu หรือ High-Intensity Focused Ultrasound เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ที่กลายเป็นทางเลือกยอดฮิตของใครหลายคนที่ต้องการดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องพักฟื้น ด้วยผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ พร้อมความปลอดภัยและไม่เจ็บตัว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดโปรแกรม Hifu ถึงกลายมาเป็นหนึ่งในทรีตเมนต์ตัวท็อปของวงการความงามในปัจจุบัน
เรามาทำความรู้จักกับนวัตกรรมยกกระชับหน้าแบบ Hifu คืออะไร? Hifu เหมาะกับใครบ้าง? โปรแกรมทำ Hifu เจ็บไหม? และไฮฟู่มีกี่แบบ เพื่อตอบข้อสงสัยให้กับใครหลายคนที่กำลังลังเลที่จะทำหัตถการนี้ดีหรือไม่
ทำความรู้จักกับ Hifu คืออะไร การทำ Hifu ช่วยอะไรบ้าง?
Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงแบบเฉพาะจุด ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ทำลายผิวด้านบน Hifu ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวตึงกระชับและดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
การทำโปรแกรม Hifu เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย หรือเริ่มมีริ้วรอยก่อนวัย โดยประโยชน์ของการทำ Hifu สามารถช่วยในเรื่องต่างๆ ดังนี้
- ยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้า แก้ม และลำคอ
- ลดเหนียงหรือคางสองชั้น
- ช่วยให้รูปหน้าดูเรียวและชัดขึ้น
- ลดริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก และมุมปาก
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเต่งตึงและสดใสขึ้น
- ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน กระชับรูขุมขน
โปรแกรม Hifu ราคาเท่าไหร่นั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณช็อตที่ใช้ เครื่องที่เลือก และคลินิกที่ให้บริการ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อประเมินจำนวนช็อตที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ และมั่นใจว่าได้รับผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและคุ้มค่า แต่โดยทั่วไปจะการทําไฮฟู่มีราคา ดังนี้
- Hifu 100-200 ช็อต เริ่มต้นประมาณ 2,000 – 5,000 บาท
- Hifu 300-600 ช็อต ประมาณ 6,000 – 15,000 บาท
- Hifu เต็มหน้า ราคาเฉลี่ย 9,000 – 25,000 บาท
- Hifu แบบพรีเมียม (ใช้เครื่องแบรนด์ชั้นนำ) เริ่มต้นที่ 20,000 บาทขึ้นไป
หลักการทำงานของ Hifu ยกกระชับได้อย่างไร
Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) ทำงานโดยการปล่อยคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงแบบเฉพาะจุด ลงไปใต้ผิวหนังอย่างแม่นยำ โดยไม่ทำร้ายผิวชั้นบน คลื่นพลังงานนี้จะถูกโฟกัสไปยังจุดเล็กๆ ใต้ผิวหนัง เกิดเป็นความร้อนประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
โดยเมื่อพลังงานจาก Hifu ลงลึกถึงชั้นผิว SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อส่วนลึกที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า จะทำให้เนื้อเยื่อหดตัวทันที ผิวจึงดูกระชับขึ้นหลังทำเสร็จ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวตึง เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้นในระยะยาว
ในการทำโปรแกรม Hifu แต่ละครั้งสามารถลงลึกได้หลายระดับตามหัวที่ใช้ โดยทั่วไปจะแบ่งเป็น หัว Hifu 1.5 mm จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวตื้น (epidermis และ dermis) ส่วนหัว Hifu 3.0 mm จะลงถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (subcutaneous tissue) และหัว Hifu 4.5 mm จะลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการยกกระชับ
เครื่อง Hifu มีกี่แบบ?
Hifu ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยียกกระชับที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งในปัจจุบันเครื่องไฮฟู่ มีหลายประเภทที่แตกต่างกันตามจุดประสงค์และการใช้งาน มาดูกันว่าแต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง
แบ่งตามชนิดหัวยิง
หัวของเครื่อง Hifu จะมีความแตกต่างกันตามระดับความลึกของชั้นผิวที่ต้องการรักษา ซึ่งมีผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ของการยกกระชับ โดยทั่วไปจะมี 3 ระดับความลึก ได้แก่
- หัว 1.5 mm: สำหรับผิวชั้นตื้น ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและทำให้ผิวเรียบเนียน
- หัว 3.0 mm: ใช้ในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เหมาะกับการลดความหย่อนคล้อย
หัว 4.5 mm: ลงลึกถึงชั้น SMAS จุดสำคัญในการยกกระชับใบหน้าแบบลึก
บางเครื่อง Hifu ยังมีหัวพิเศษเพิ่มเติม เช่น หัว 6.0 mm – 13 mm สำหรับใช้ในบริเวณลำตัว เช่น ต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง
แบ่งตามระดับพลังงาน
เครื่อง Hifu แต่ละรุ่นสามารถปล่อยพลังงานได้ในระดับที่ต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อความรู้สึกขณะทำ และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ซึ่งในแต่ระดับพลังงานที่ใช้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพผิวแต่ละคน
- พลังงานต่ำ มีความเจ็บน้อย เหมาะกับคนที่ผิวบางหรือต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป
- พลังงานปานกลาง ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น โดยยังคงความสบายระหว่างทำ
- พลังงานสูง สามารถเห็นผลรวดเร็ว ชัดเจน แต่อาจรู้สึกเจ็บหรือระบมหลังทำมากกว่า
แบ่งตายี่ห้อเครื่อง Hifu
เครื่อง Hifu ในท้องตลาดมีหลายยี่ห้อ แต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นและเทคโนโลยีเฉพาะตัว เช่น
- Ulthera: มาตรฐานระดับโลก มี US FDA รับรอง สามารถมองเห็นชั้นผิวด้วยหน้าจอขณะยิง
- Doublo Gold: เครื่องแบรนด์เกาหลี ใช้กันในคลินิกหลายแห่ง ให้ผลใกล้เคียงกับ Ulthera
- Ultraformer III: ให้พลังงานสม่ำเสมอ ยิงต่อเนื่องได้รวดเร็ว เจ็บน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำบ่อย
- Sygmalift: เป็น Hifu แบบ Micro & Macro Focused ช่วยทั้งยกกระชับและลดไขมัน เหมาะกับผู้ที่มีเหนียงหรือต้องการหน้าเรียว
- เครื่อง Hifu รุ่นทั่วไป: เช่น เครื่องจากจีนหรือเกาหลีที่ไม่มีแบรนด์ชัดเจน ราคาถูกกว่าแต่ผลลัพธ์และความแม่นยำอาจน้อยกว่าเครื่องแบรนด์พรีเมียม
โปรแกรม Hifu สามารถทำบริเวณไหนได้บ้าง
ในปัจจุบันโปรแกรม Hifu ถือเป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมสูง เพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถทำได้หลายบริเวณของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า คอ หรือแม้แต่ส่วนลำตัว มาดูกันว่าบริเวณใดบ้างที่สามารถทำ Hifu ได้ พร้อมผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ในแต่ละจุด
- กรอบหน้าหรือแนวขากรรไกร ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยยกกระชับให้กรอบหน้าชัดขึ้น ลดความหย่อนคล้อยของผิวข้างแก้ม ใบหน้าดูเรียวเป็นธรรมชาติ
แก้ม ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้แก้มที่หย่อนคล้อยดูยกกระชับขึ้น ลดไขมันแก้ม ผิวหน้าเรียบตึงขึ้น - เหนียงหรือใต้คาง ผลลัพธ์ที่ได้ช่วยลดคางสองชั้น เหนียงหาย กรอบหน้าชัดขึ้นโดยไม่ต้องดูดไขมัน
- หน้าผากหรือหว่างคิ้ว ผลลัพธ์ที่ได้คิ้วยกขึ้น ลดริ้วรอยรอยย่นบริเวณหน้าผาก ใบหน้าดูสดใส ไม่ดูเหนื่อยล้า
- หางตาหรือใต้ตา ผลลัพธ์ที่ได้หางตายกขึ้น ลดรอยตีนกา ริ้วรอยรอบดวงตาดูลดลง ช่วยให้ดวงตาดูสดใส
- มุมปากหรือร่องแก้ม ผลลัพธ์ที่ได้ช่วยยกมุมปากให้ดูยิ้มขึ้น ลดความลึกของร่องแก้ม หน้าดูอ่อนเยาว์
- ลำคอหรือคางล่าง ผลลัพธ์ที่ได้ช่วยกระชับผิวที่หย่อนบริเวณคอ ลดริ้วรอยและรอยย่น ทำให้ลำคอเรียบเนียนมากขึ้น
- หน้าท้องหรือต้นแขนหรือต้นขา ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้หัว Hifu พิเศษ (6.0 – 13 mm) ในการลดไขมันและยกกระชับผิวบริเวณลำตัว เช่น ลดความหย่อนคล้อยหน้าท้องหลังคลอด กระชับต้นแขน ต้นขาให้ดูเฟิร์มขึ้น
การดูแลตนเองหลังทำโปรแกรม Hifu ง่าย ๆ
หลังทำโปรแกรม Hifu แม้จะไม่ต้องพักฟื้นเหมือนการศัลยกรรม แต่การดูแลผิวอย่างถูกวิธีก็มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ผลลัพธ์ยกกระชับอยู่ได้นานและเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น มาดูวิธีดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรม Hifu ที่ควรใส่ใจมีอะไรบ้าง
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้า แกะ เกา หรือกดแรง ๆ บริเวณที่ทำ Hifu อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดการทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์ผิวอื่น ๆ ในบริเวณเดียวกันภายใน 1-2 สัปดาห์
- หมั่นทาครีมบำรุงและครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปกป้องผิวจากแสง UV
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อนจัด เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือการอาบน้ำอุ่นจัด เป็นเวลาอย่างน้อย 2-3 วัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ และงดการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ช่วงแรก เพื่อให้ผิวฟื้นฟูได้ดีขึ้น
โปรแกรม Hifu หัตถการยกกระชับหน้าที่โด่งดัง
ในยุคที่ใครๆ ก็อยากมีใบหน้ากระชับโดยที่ไม่ต้องเจ็บตัวและใช้เวลาพักฟื้นนาน การทำโปรแกรม Hifu ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ความสามารถในการลงลึกถึงชั้น SMAS สามารถเลือกทำเฉพาะจุด หรือทำทั่วใบหน้าและลำตัวตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินบริเวณที่เหมาะสมและเลือกเครื่อง Hifu ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเห็นผลชัดเจน
















