แนะนำ 10 โอซาก้า ที่เที่ยว ที่กิน ที่ชอป ปี 2025 ที่ไม่ควรพลาด!

โอซาก้าที่เที่ยวยอดฮิตในหมู่นักเดินทางทั่วโลก รายล้อมไปด้วยสีสัน พร้อมแหล่งของกินและชอปปิงมากมาย พาคุณไปรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครจะไปโอซาก้าไม่ควรพลาด!

เพื่อนๆ นักเดินทางทุกคน! ที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในญี่ปุ่น ที่เต็มไปด้วยสีสัน ความสนุกสนาน อาหารอร่อย และวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ บอกเลยว่า "โอซาก้า" คือจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด! เพราะเมืองโอซาก้า ที่เที่ยวมีมากมายทั่วทุกแหล่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นสายชอป สายกิน สายถ่ายรูป หรือสายวัฒนธรรม โอซาก้าก็มีทุกสิ่งให้คุณได้สัมผัสและประทับใจ

แต่ก่อนที่จะออกเดินทางไปเที่ยวโอซาก้าสนุกสุดเหวี่ยง อย่าลืมสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทริปของคุณราบรื่นและไร้กังวล นั่นก็คือ ประกันภัยการเดินทาง ที่จะช่วยดูแลทุกทริปของคุณ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาเปิดประสบการณ์สุดพิเศษไปกับสถานที่ท่องเที่ยวในโอซาก้ากันเลย!

---

รวม 10 ที่เที่ยวเด็ด โอซาก้ายอดฮิตปี 2025

โอซาก้าเมืองที่มีที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย ตั้งแต่วัดเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานไปจนถึงสถานที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว พาไปรู้จัก 10 ที่เที่ยวโอซาก้า 2025 และกิจกรรมน่าสนใจในโอซาก้าที่คุณไม่ควรพลาด!

1. ปราสาทโอซาก้า

ปราสาทโอซาก้าเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า และถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเยือน ภายในปราสาทมีพิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติศาสตร์ของโอซาก้า และจุดชมวิวบนชั้นสูงสุดที่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้แบบ 360 องศา และปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยอาซูจิ-โมโมยามะ โดย โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ ผู้มีบทบาทสำคัญในการรวมประเทศญี่ปุ่น

• ที่ตั้ง: 1-1 Osakajo, Chuo Ward, Osaka, Japan
• เวลาทำการ: 9:00 - 17:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16:30 น.)
• ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 600 เยน / เด็กเข้าฟรี
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Osaka Loop Line ลงที่สถานี Osakajokoen หรือ Morinomiya
• ช่วงเวลาที่แนะนำ: ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - เมษายน) เพราะดอกซากุระบานเต็มสวนโดยรอบปราสาท

2. ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)

โดทงโบริเป็นย่านบันเทิงและอาหารที่คึกคักที่สุดในโอซาก้า ที่เที่ยวที่เต็มไปด้วยร้านอาหารชื่อดัง ป้ายไฟนีออนสีสันสดใส และบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา โดยอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ ได้แก่ ทาโกยากิ โอโคโนมิยากิ และราเม็ง นอกจากนี้ยังมีร้านปูยักษ์ Kani Doraku ที่มีป้ายปูขยับได้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์คือป้ายไฟกูลิโกะที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้าไปแล้ว

• ที่ตั้ง: Dotonbori, Chuo Ward, Osaka, Japan
• เวลาทำการ: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง (ร้านค้าและร้านอาหารอาจมีเวลาปิดแตกต่างกัน)
• ค่าเข้าชม: ฟรี (เสียค่าใช้จ่ายสำหรับร้านค้าและร้านอาหาร)
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line ลงที่สถานี Namba หรือ Shinsaibashi และเดินต่อประมาณ 5 นาที
• กิจกรรมแนะนำ: ล่องเรือชมวิวแม่น้ำโดทงโบริในช่วงเย็นเพื่อสัมผัสบรรยากาศที่แตกต่าง
• ช่วงเวลาที่แนะนำ: ช่วงค่ำ เพราะแสงไฟจากป้ายโฆษณาจะทำให้ย่านนี้มีความสวยงามมากเป็นพิเศษ

3. ชินไซบาชิ (Shinsaibashi)

ชินไซบาชิเป็นย่านชอปปิงหลักของโอซาก้าที่เที่ยวที่เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม ร้านขายของที่ระลึก และห้างสรรพสินค้าที่มีแบรนด์สุดหรู อย่าง Gucci, Louis Vuitton ที่ราคาถูกกว่าที่ไทย ไปจนถึงร้านค้าราคาประหยัดอย่าง Uniqlo, GU และ Don Quijote โดยที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินช้อปปิ้งได้ตลอดแนวถนนที่มีหลังคาคลุมยาวกว่า 600 เมตร ทำให้สามารถเดินซื้อของได้สะดวกแม้ในวันที่ฝนตก

• ที่ตั้ง: Shinsaibashisuji, Chuo Ward, Osaka, Japan
• เวลาทำการ: ส่วนใหญ่เปิด 10:00 - 21:00 น. (แต่ละร้านค้าอาจมีเวลาเปิด-ปิดต่างกัน)
• ค่าเข้าชม: ฟรี (เสียค่าใช้จ่ายเมื่อซื้อสินค้า)
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line ลงที่สถานี Shinsaibashi และเดินออกทางออก 5 หรือ 6
• กิจกรรมแนะนำ: ลองชิมขนมญี่ปุ่นและซื้อของฝากแบบพิเศษที่หาซื้อได้เฉพาะในโอซาก้า
• ช่วงเวลาที่แนะนำ: ช่วงบ่ายถึงเย็น เพราะสามารถเดินเล่นและแวะพักที่คาเฟ่เก๋ๆ ได้

4. ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan)

ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (USJ) เป็นสวนสนุกระดับโลกที่ตั้งอยู่ในโอซาก้า หนึ่งในที่เที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับโซนต่าง ๆ ที่มีธีมจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดชื่อดัง เช่น มินเนียน, จูราสสิคพาร์ค และ สไปเดอร์แมน นอกจากนี้ยังมีโซนยอดฮิตที่พลาดไม่ได้โซน อย่างโซน The Wizarding World of Harry Potter, Super Nintendo World, โซนฮาโลวีนสุดหลอน (เฉพาะช่วงเทศกาล)

• ที่ตั้ง: 2 Chome-1-33 Sakurajima, Konohana Ward, Osaka, Japan
• เวลาทำการ: 09:00 - 21:00 (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
• ค่าเข้าชม: เริ่มต้นที่ประมาณ 8,400 เยน (ราคาขึ้นอยู่กับประเภทบัตร)
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟสาย JR Yumesaki Line ลงที่สถานี Universal City
• กิจกรรมแนะนำ: นั่งรถไฟเหาะ Hollywood Dream – The Ride, ชิมเบียร์เนยจาก Harry Potter, ถ่ายรูปกับตัวละครดัง
• ช่วงเวลาที่แนะนำ: ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากอากาศเย็นสบายและเหมาะแก่การเดินเล่น

5. ย่านชินเซไก (Shinsekai)

ย่านชินเซไกเป็นย่านเก่าแก่ของโอซาก้าที่เที่ยวที่มีบรรยากาศย้อนยุคสไตล์เรโทร นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกลิ่นอายของญี่ปุ่นในอดีต พร้อมทั้งชิมอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่ออย่าง "คุชิคัตสึ" (ของทอดเสียบไม้) และเดินเล่นชมวิวจากหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower)

• ที่ตั้ง: Nishinari Ward, Osaka, Japan
• เวลาทำการ: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง (ร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยวอาจมีเวลาปิด-เปิดแตกต่างกัน)
• ค่าเข้าชม: ฟรี (ค่าขึ้นหอคอย Tsutenkaku ประมาณ 900 เยน)
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดิน Osaka Metro สาย Midosuji Line ลงที่สถานี Dobutsuen-mae
• กิจกรรมแนะนำ: ขึ้นชมวิวเมืองโอซาก้าจากหอคอย Tsutenkaku, ลิ้มลองคุชิคัตสึจากร้านดัง, ถ่ายรูปกับป้ายไฟนีออนสวยงาม
• ช่วงเวลาที่แนะนำ: ช่วงเย็นถึงค่ำ เพราะไฟนีออนและบรรยากาศคึกคักของร้านค้าและร้านอาหาร

6. ศาลเจ้าสุมิโยชิไทชะ (Sumiyoshi Taisha Shrine)

ศาลเจ้าสุมิโยชิไทชะเป็นหนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีสถาปัตยกรรมแบบ "สุมิโยชิ-ซึคุริ" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของศาลเจ้าในญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวมักจะมาเยี่ยมชมเพื่อสักการะขอพรให้เดินทางปลอดภัยและมีโชคลาภ อีกหนึ่งไฮไลท์เลยก็คือ สะพานโค้งไทโกะบาชิ (Taiko-bashi) ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมบรรยากาศเงียบสงบ

• ที่ตั้ง: 2-9-89 Sumiyoshi, Sumiyoshi Ward, Osaka, Japan
• เวลาทำการ: 06:00 - 17:00
• ค่าเข้าชม: ฟรี
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟ Nankai Line ลงที่สถานี Sumiyoshitaisha แล้วเดินต่อประมาณ 3 นาที
• กิจกรรมแนะนำ: ถ่ายรูปสะพาน Taiko-bashi, ทำพิธีขอพร, เดินเล่นในสวนรอบศาลเจ้า
• ช่วงเวลาที่แนะนำ: ช่วงปีใหม่ (เทศกาลฮัตสึโมเดะ) และช่วงซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ

7. ตลาดคุโรมง (Kuromon Market)

ตลาดคุโรมงเป็นตลาดสดที่ได้รับฉายาว่า "ครัวของโอซาก้า" เพราะเต็มไปด้วยความครึกครื้นจากร้านค้าท้องถิ่น ร้านอาหารทะเลสด ๆ ผลไม้คุณภาพดี และอาหารท้องถิ่นมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองอาหารขึ้นชื่อ เช่น ซูชิ, ทาโกะยากิ, และเนื้อวากิวระดับพรีเมียม

• ที่ตั้ง: 2 Chome Nipponbashi, Chuo Ward, Osaka, Japan
• เวลาทำการ: 09:00 - 18:00 (เวลาอาจแตกต่างกันไปตามร้านค้า)
• ค่าเข้าชม: ฟรี
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดิน Osaka Metro สาย Sennichimae Line ลงที่สถานี Nipponbashi แล้วเดินต่อประมาณ 2 นาที
• กิจกรรมแนะนำ: ชิมปลาหมึกย่าง, ลิ้มลองซูชิสด, ซื้อผลไม้ตามฤดูกาล
• ช่วงเวลาที่แนะนำ: ช่วงเช้าถึงเที่ยง เพราะอาหารสดใหม่และคนยังไม่แน่นเกินไป

8. หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower)

หอคอยซึเทนคาคุเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของโอซาก้าที่เที่ยวที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี ภายในมีรูปปั้นเทพบิลลิเคน (Billiken) ซึ่งเชื่อกันว่าจะนำโชคดีมาให้หากลูบเท้า ตั้งอยู่ในย่านชินเซไกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเมืองเก่าและอาหารท้องถิ่น หอคอยแห่งนี้มีความสูงประมาณ 103 เมตรและเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวเมืองจากจุดชมวิวที่ความสูง 91 เมตร

• ที่ตั้ง: Shinsekai, Naniwa Ward, Osaka, Japan
• เวลาทำการ: 10:00 - 20:00 น. (อาจมีการเปลี่ยนแปลงในบางช่วงเวลา)
• ค่าเข้าชม: ประมาณ 900 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 400 เยนสำหรับเด็ก
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Sakaisuji ลงสถานี Ebisucho แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
• กิจกรรมแนะนำ: ชมวิวเมืองโอซาก้าจากจุดชมวิว, เสี่ยงทายที่ศาลเจ้าบิลลิเคน, เดินเล่นและชิมอาหารท้องถิ่นในย่านชินเซไก เช่น คุชิคัตสึ (ของทอดเสียบไม้)
• ช่วงเวลาที่แนะนำ: ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง อากาศเย็นสบายเหมาะแก่การเดินเล่น และในเวลากลางคืน เนื่องจากจะได้เห็นแสงสีของเมืองโอซาก้าในมุมมองที่สวยงาม

9. วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji)

วัดชิเทนโนจิเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 593 โดยเจ้าชายโชโทกุ เป็นวัดแรกในญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นตามแนวคิดของศาสนาพุทธ ภายในมีพระพุทธรูปโบราณและภาพจิตรกรรมที่ทรงคุณค่า นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธในญี่ปุ่น ที่รักษาสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี ภายในมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม เช่น เจดีย์ห้าชั้นและอาคารไม้เก่าแก่ ที่ควรค่าแก่การเข้าชม

• ที่ตั้ง: Tennoji Ward, Osaka, Japan
• เวลาทำการ: 08:30 - 16:30 น. (อาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
• ค่าเข้าชม: ประมาณ 300 เยนสำหรับวัดหลัก และ 500 เยนสำหรับสวนโกคุรากุจูโด้
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tanimachi ลงสถานี Shitennoji-mae Yuhigaoka แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
• กิจกรรมแนะนำ: เดินชมสถาปัตยกรรมโบราณ, ไหว้พระและขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล, เยี่ยมชมตลาดนัดที่จัดขึ้นทุกวันที่ 21 ของเดือน
• ช่วงเวลาที่แนะนำ: ช่วงต้นเดือนเมษายน เนื่องจากดอกซากุระในบริเวณวัดจะบานสวยงาม และในวันที่ 21 ของทุกเดือน เพราะจะมีตลาดนัดสินค้าท้องถิ่นและของเก่าจัดขึ้น

10. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนิฟุเรรุ (Nifrel Aquazoo)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนิฟุเรรุแหล่งเรียนรู้ที่ผสมผสานระหว่างสัตว์น้ำ สัตว์บก และงานศิลปะ ตั้งอยู่ภายใน EXPOCITY โดยมีแนวคิด "การสัมผัสธรรมชาติผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า" ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จุดเด่นของที่นี่คือ มีสัตว์น้ำหายาก เช่น ปลาฉลามเสือดาว แมงกะพรุนเรืองแสง และมีโซนที่ให้สัตว์เดินเล่นอย่างอิสระ เช่น นกฟลามิงโกและตัวนาก

• ที่ตั้ง: EXPOCITY, Suita, Osaka, Japan
• เวลาทำการ: 10:00 - 20:00 น. (อาจเปลี่ยนแปลงในบางช่วงเวลา)
• ค่าเข้าชม: ประมาณ 2,000 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 1,000 เยนสำหรับเด็ก
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Osaka Monorail ลงสถานี Banpaku-Kinen-Koen แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
• กิจกรรมแนะนำ: สัมผัสสัตว์น้ำและสัตว์บกอย่างใกล้ชิด, ชมนิทรรศการศิลปะภายในพิพิธภัณฑ์, เยี่ยมชม EXPOCITY ซึ่งมีทั้งห้างสรรพสินค้าและสวนสนุก
• ช่วงเวลาที่แนะนำ: ช่วงฤดูร้อน เนื่องจากเป็นกิจกรรมในร่มและมีบรรยากาศเย็นสบาย ควรหลีกเลี่ยงวันธรรมดาเพราะนักท่องเที่ยวหนาแน่น

---

เที่ยวโอซาก้าให้สบายใจ อย่าลืมทำประกันเดินทาง

โอซาก้า ที่เที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวสายชิม สายช้อป หรือสายวัฒนธรรม ต่างก็ต้องหลงใหลไปกับมนต์เสน่ห์ของเมืองนี้ นอกจากการเตรียมแพลนเที่ยวให้พร้อมแล้ว การมีประกันเดินทางก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ เพื่อความอุ่นใจหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น อุบัติเหตุ การเจ็บป่วย หรือสัมภาระสูญหาย ประกันเดินทางจะช่วยให้คุณสามารถท่องเที่ยวได้อย่างไร้กังวล

โอซาก้าเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน หากคุณกำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นโอซาก้า อย่าลืมลิสต์โอซาก้าที่เที่ยวยอดฮิตตลาดกาลนี้ พร้อมแล้วเตรียมตัวไปสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจกันได้เลย!