วิธีปิดหนี้บัตรเครดิต ให้ครบทุกใบ ปิดหนี้เสีย พร้อมทริคเก็บเงิน
เมื่อการปิดหนี้บัตรเครดิต กลายเป็นปัญหาที่หนักสำหรับคุณ ไม่รู้จะทำอย่างไร ลองมาอ่านบทความนี้ ที่แนะนำทริคเก็บเงินให้อยู่ และบอกถึงวิธีปิดหนี้เสียไม่รู้จบให้คุณ
หนี้บัตรเครดิต เป็นภาระที่ทำให้หลายคนต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินแบบไม่รู้จบ โดยเฉพาะผู้ที่มีหนี้หลายใบและต้องการปิดหนี้บัตรเครดิตให้เร็วที่สุด ซึ่งจุดเริ่มต้นของการเป็นหนี้อาจเริ่มต้นจากการที่ไม่ได้วางแผนทางการเงิน หรือรูดบัตรเพื่อซื้อสินค้าและบริการตามใจชอบ รวมถึงการจ่ายขั้นต่ำเป็นประจำทุกเดือน แต่ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้จะหมดไป เพราะเรามี วิธีปิดบัตรเครดิตหลายใบ โดยไม่ให้กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันมาฝาก และจะพาคุณไปทำความรู้จักกับเทคนิคการ รวมยอดปิดหนี้บัตรเครดิต แบบง่าย ๆ ที่จะช่วยทำให้คุณปิดหนี้เสียได้เร็วและกลับมามีอิสรภาพทางการเงินอีกครั้ง
หนี้บัตรเครดิต เกิดจากอะไร?
หนี้บัตรเครดิต คือการที่ผู้ถือบัตรใช้วงเงินของบัตรเครดิตจากสถาบันการเงิน หรือธนาคาร นำมารูดซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ซึ่งในระหว่างการผ่อนชำระอาจเกิดปัญหาทางการเงินทำให้ไม่สามารถชำระคืนได้เต็มจำนวน หรือไม่อาจปิดหนี้บัตรเครดิตได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ปัญหานี้อาจดูรุนแรงสำหรับผู้ที่ ติดหนี้ธนาคาร หรือสถาบันการเงินแล้วไม่จ่าย และถ้าปล่อยให้มียอดหนี้คงค้างนานเกินไป ก็จะส่งผลกระทบต่อคะแนนเครดิต ทำให้การขอสินเชื่อหรือทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคตเป็นไปได้ยากมากขึ้น
3 ทริคปิดหนี้บัตรเครดิต จบปัญหาหนี้ที่ไม่สร้างประโยชน์
ถ้าหากคุณรู้สึกว่าการมี หนี้บัตรเครดิต เป็นภาระที่หนักเกินไป และกำลังมองหาวิธีรวมยอดเพื่อปิดหนี้บัตรเครดิต เรามี 3 เทคนิคดี ๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถปิดหนี้บัตรเครดิตได้เร็วและอย่างมีประสิทธิภาพมาฝาก
หยุดสร้างหนี้
ก่อนจะเริ่มปิดหนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ หยุดก่อหนี้เพิ่ม หลายคนพยายามใช้บัตรเครดิตหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ เพื่อจ่ายหนี้ของใบอื่น ซึ่งเป็นวิธีที่อันตราย เพราะนอกจากหนี้เดิมจะไม่ลดลงแล้ว ยังได้หนี้ใหม่เพิ่มขึ้นเป็นของแถมอีกด้วย ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือ
- งดใช้บัตรเครดิตชั่วคราว หรืออย่างน้อยก็ควรจำกัดการใช้เฉพาะกรณีฉุกเฉินจริง ๆ
- เลิกใช้บัตรเครดิตเพื่อจ่ายหนี้ใบอื่น เพราะจะยิ่งทำให้ปัญหาหนี้พอกพูน
- วางแผน เก็บเงินให้อยู่ เพื่อใช้ปิดหนี้ในอนาคต
ตรวจสอบยอดแต่ละบัตร
เมื่อหยุดสร้างหนี้ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ ตรวจสอบยอดหนี้ของบัตรเครดิตทุกใบ โดยต้องรู้ว่าแต่ละใบมีหนี้อยู่เท่าไร ดอกเบี้ยเท่าไร และมียอดค้างชำระเท่าไร วิธีการคือ
- รวบรวมข้อมูลบัตรเครดิตทั้งหมด แล้วจดรายการหนี้ให้ครบ
- จัดลำดับว่าควรปิดบัตรเครดิตใบไหนก่อน
- ปรับโครงสร้างหนี้ผ่านสถาบันการเงินอย่าง refinn ในกรณีที่ต้องการรวมยอดปิดหนี้บัตรเครดิต
- เช็กโปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำที่อาจช่วยทำให้ปิดหนี้ได้เร็วขึ้น
ทยอยใช้หนี้
เมื่อได้ข้อมูลครบแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญที่สุด คือการวางแผนและทยอยจ่ายหนี้ให้หมด ซึ่งมีหลายวิธีที่ช่วยให้การจ่ายหนี้เป็นไปได้ง่ายขึ้นดังนี้
- จ่ายมากกว่าขั้นต่ำให้ได้ทุกเดือน เพราะการจ่ายแค่ขั้นต่ำจะทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
- ใช้วิธี Snowball คือการจ่ายจากยอดเล็กไปหาใหญ่ หรือ Avalanche จ่ายจากดอกเบี้ยสูงไปหาต่ำ เพื่อให้หนี้หมดเร็วขึ้น
ติดหนี้บัตรเครดิต ไม่จ่าย จะเกิดอะไรขึ้น?
หนี้บัตรเครดิต เป็นภาระที่ต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ เพราะหากปล่อยให้ค้างโดยไม่ทำการปิดหนี้บัตรเครดิต อาจนำไปสู่ปัญหาทางการเงินที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนคิดว่าการไม่จ่ายเพียงเดือนสองเดือนอาจไม่เป็นไร แต่ในความเป็นจริง ผลกระทบจากการไม่ปิดหนี้เสียนั้นรุนแรงกว่าที่คิด
- เมื่อเกิดการค้างชำระ ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยสูงสุดตามกฎหมายกำหนด และอาจมีค่าปรับเพิ่มเติม ทำให้ยอดหนี้พอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว
- การไม่จ่ายหนี้จะส่งผลเสียต่อประวัติทางการเงิน ทำให้เครดิตบูโรติดลบ และการขอสินเชื่อหรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ ในอนาคตเป็นไปได้ยาก
หากปล่อยให้มียอดหนี้ค้างนานเกินไป สถาบันการเงินอาจส่งเรื่องให้บริษัทติดตามหนี้ เพื่อโทรทวงถาม หรือในกรณีรุนแรงอาจถูกฟ้องร้องทางกฎหมาย
ข้อเสียของการติดหนี้บัตรเครดิต
บัตรเครดิต เป็นเครื่องมือทางการเงินรูปแบบหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการใช้จ่าย แต่หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง การเป็นหนี้บัตรเครดิตจะกลายเป็นกับดักที่ทำให้ชีวิตต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินมากมาย หลายคนอาจคิดว่าการจ่ายขั้นต่ำทุกเดือนและไม่รีบปิดหนี้บัตรเครดิตจะยังช่วยให้สามารถใช้บัตรต่อไปได้ แต่ในความจริงแล้ว นั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม และมีข้อเสียหลายเรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้ ดังนี้
- ดอกเบี้ยสูง ทำให้หนี้พอกพูน
บัตรเครดิตมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่น หากจ่ายขั้นต่ำหรือค้างชำระ ดอกเบี้ยจะทบต้นทบดอก ทำให้มียอดหนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- เสียเครดิตทางการเงิน
เมื่อจ่ายหนี้ล่าช้าหรือติดหนี้ธนาคารแล้วไม่จ่าย ประวัติการเงินจะถูกรายงานข้อมูลไปยังเครดิตบูโร ทำให้คุณมีคะแนนเครดิตเสีย ส่งผลให้ขอสินเชื่อหรือทำธุรกรรมทางการเงินยากขึ้นในอนาคต
- ถูกทวงหนี้และอาจถูกฟ้องร้อง
เมื่อหนี้ค้างชำระเป็นเวลานาน ธนาคารหรือบริษัทติดตามหนี้อาจเริ่มติดต่อลูกหนี้เพื่อทวงถาม ซึ่งอาจสร้างความเครียดให้กับผู้ที่ติดหนี้ และหากยังไม่สามารถชำระได้ อาจนำไปสู่การถูกฟ้องร้องทางกฎหมาย
- กระทบคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิต
การมีหนี้สินที่เพิ่มขึ้นทุกเดือนโดยไม่มีทางออก อาจทำให้เกิดความเครียดและส่งผลต่อสภาพจิตใจ รวมถึงอาจกระทบต่อความสัมพันธ์กับครอบครัวและคนรอบข้าง
สรุป
แม้ว่าการ ปิดหนี้บัตรเครดิต อาจดูเป็นเรื่องยาก แต่หากมีวินัยทางการเงินและรู้จักวิธีออมเงินอย่างเหมาะสม ก็สามารถช่วยให้คุณหลุดพ้นจากภาระหนี้ที่ทำให้กังวลใจลงได้ ทั้งนี้สิ่งสำคัญ คือ การวางแผนใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และคำนึงถึงผลกระทบของการเป็นหนี้บัตรเครดิต ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยที่สูง หรือการมีประวัติเสียทางการเงิน หากใช้บัตรเครดิตอย่างมีสติ และไม่ใช้เกินความสามารถในการชำระคืน บัตรเครดิตจะกลายเป็นตัวช่วยทางการเงินที่ดีมากกว่าจะเป็นภาระหนี้สินในระยะยาว

















