ฉีดโบยกหางตาดีไหม? เคล็ดลับสู่ดวงตาสดใส ลดริ้วรอยรอบดวงตา
ฉีดโบยกหางตาดีไหม? เคล็ดลับสู่ดวงตาสดใส ลดริ้วรอยรอบดวงตา
ฉีดโบยกหางตา คืออะไร?
การฉีดโบยกหางตา เป็นเทคนิคที่ใช้สารโบท็อกซ์ (Botulinum Toxin) ฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อบริเวณหางตา เพื่อช่วย ลดริ้วรอยตีนกา และ ยกกระชับหางตา ให้ดูสดใสขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกหรือใบหน้าดูมีอายุจากริ้วรอยรอบดวงตา การฉีดโบจะช่วย คลายกล้ามเนื้อบริเวณหางตา ทำให้ผิวตึงขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นนาน
สาเหตุของหางตาตกและริ้วรอยรอบดวงตา
- อายุที่เพิ่มขึ้น
- เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวหนังจะสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความกระชับและยืดหยุ่น
- ผิวหนังรอบดวงตาบางลง ทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของหางตาได้ง่าย
- กล้ามเนื้อรอบดวงตาทำงานหนักขึ้นจากการแสดงสีหน้า ส่งผลให้เกิดริ้วรอยตีนกา
- โครงสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ
- กระดูกเบ้าตาและกระดูกโหนกคิ้วที่มีลักษณะต่ำหรือเว้า อาจทำให้เกิดลักษณะของหางตาตก
- กล้ามเนื้อที่ควบคุมเปลือกตาบนและล่างเสื่อมสภาพหรืออ่อนแรง ทำให้ดวงตาดูตก ไม่สดใส
- หากกล้ามเนื้อดวงตาทำงานไม่สมดุล อาจส่งผลให้ดวงตามีลักษณะหางตาตกชัดเจนขึ้น
- ไขมันสะสม
- เมื่ออายุมากขึ้น ชั้นไขมันใต้ตาจะลดลง แต่ในบางคนอาจมีไขมันสะสมในบริเวณรอบดวงตา ทำให้เกิดถุงใต้ตาและดึงให้หนังตาหย่อนคล้อย
- ไขมันที่เคลื่อนตัวลงต่ำอาจทำให้ดวงตาดูอ่อนล้าและหางตาตก
- กรรมพันธุ์
- ลักษณะทางพันธุกรรมมีผลอย่างมากต่อรูปทรงของดวงตาและลักษณะผิวรอบดวงตา
- ในบางครอบครัว อาจมีแนวโน้มที่หนังตาจะตกหรือมีริ้วรอยรอบดวงตาเร็วกว่าปกติ
- คนเอเชียโดยเฉพาะมีแนวโน้มที่จะมีเปลือกตาหนา และหางตาตกเร็วกว่าคนเชื้อชาติอื่น
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต
- การขยี้ตาบ่อย ๆ – ทำให้ผิวหนังรอบดวงตาเกิดการระคายเคืองและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- การนอนหลับไม่เพียงพอ – ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดบริเวณรอบดวงตาทำงานไม่เต็มที่ ทำให้ตาบวมและริ้วรอยเด่นชัดขึ้น
- การได้รับแสงแดดโดยไม่มีการป้องกัน – รังสียูวีทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ – เร่งให้ผิวเสื่อมสภาพ ทำให้ริ้วรอยรอบดวงตาเด่นชัดขึ้น
- ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
- โรคบางชนิดที่ส่งผลต่อระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน หรือ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis) อาจทำให้เกิดภาวะหางตาตก
- ภาวะ Bell’s Palsy หรือโรคอัมพาตใบหน้าชั่วคราว อาจทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าทำงานผิดปกติ ส่งผลให้หางตาตกข้างเดียว
- โรคภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังบริเวณรอบดวงตา อาจทำให้ผิวหนังรอบดวงตาอ่อนแอและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
ฉีดโบยกหางตาช่วยอะไรได้บ้าง?
การฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum Toxin) บริเวณหางตาเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับบริเวณรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด มาดูกันว่าการฉีดโบยกหางตาสามารถช่วยอะไรได้บ้าง
- ลดริ้วรอยรอบดวงตาและหางตา
ลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น ริ้วรอยตีนกา ที่เกิดขึ้นจากการยิ้มหรือขมวดคิ้วบ่อย ๆ ทำให้ผิวรอบดวงตาเรียบเนียนขึ้น ลดความเหี่ยวย่นที่ทำให้หน้าดูมีอายุ ป้องกันการเกิดริ้วรอยเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยพับ
- ช่วยยกกระชับหางตาที่ตก
หางตาตกเป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า การฉีดโบท็อกซ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ดึงหางตาลง ทำให้ดวงตาดูกลมโต สดใสขึ้น ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ตาดูแข็งหรือตึงเกินไป ช่วยปรับสมดุลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และเป็นมิตรมากขึ้น
- ทำให้ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้น
ดวงตาเป็นจุดที่ส่งผลต่อความสดใสของใบหน้า หากหางตาตกหรือมีริ้วรอยมาก อาจทำให้ดูมีอายุเกินจริง การยกหางตาด้วยโบท็อกซ์ช่วยให้ดวงตาดูเปิดกว้างขึ้น ส่งผลให้หน้าดูอ่อนกว่าวัย ใบหน้าดูสดชื่นขึ้นโดยไม่ต้องศัลยกรรม
- ช่วยปรับรูปทรงใบหน้าให้ดูสมส่วน
หางตาที่ตกมาก อาจทำให้ใบหน้าดูเศร้า หรือดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา การฉีดโบท็อกซ์ช่วยปรับสมดุลของดวงตากับส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า ให้ดูสมดุลและเข้ากับสัดส่วนของแต่ละบุคคล
- เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน
เริ่มเห็นผล ภายใน 3-7 วัน และเห็นผลชัดเจนที่สุดใน 7-14 วัน หลังฉีด ไม่ต้องรอเวลานานในการฟื้นฟู หรือรอให้ร่างกายสมานตัวเหมือนการผ่าตัด
- ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น
เป็นหัตถการที่ใช้ เข็มขนาดเล็ก ฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อเท่านั้น ไม่ต้องใช้วิธีศัลยกรรม ไม่มีแผลเป็น ไม่มีรอยแผลที่ต้องรักษา และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ โอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือหนังตาตกจะน้อยมาก
- ช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ดูดีขึ้น
ตามศาสตร์โหงวเฮ้ง ดวงตาที่สดใส หางตาไม่ตก ถือเป็นสัญลักษณ์ของ พลังชีวิต ความสดใส และความมั่นใจ หางตาตกมาก อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นและบุคลิกภาพ การยกหางตาให้ดูเปิดขึ้นช่วยเสริมบุคลิกให้ดูมั่นใจและอ่อนเยาว์ ส่งเสริมด้านการงานและมนุษยสัมพันธ์ เพราะช่วยให้ใบหน้าดูเป็นมิตรและเปิดเผยมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.romrawin.com/eyelid-lift-bo/
ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดโบยกหางตา?
- ผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป เริ่มมีริ้วรอยรอบดวงตา
- ผู้ที่มีชั้นตาหลบใน หรือหางตาตก
- ผู้ที่มีหนังตาหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ
- ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยตีนกา และปรับโครงหน้าสดใสขึ้น
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัด
ใครที่ไม่ควรฉีดโบยกหางตา?
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ผู้ที่มีอาการแพ้สารโบท็อกซ์
- ผู้ที่มีแผลติดเชื้อบริเวณรอบดวงตา
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ถาวร (โบท็อกซ์จะสลายไปตามธรรมชาติ)
ข้อดีและข้อเสียของการฉีดโบยกหางตา
ข้อดี
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น
- ผลลัพธ์รวดเร็ว เห็นผลใน 3-7 วัน
- ช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตา และปรับรูปหน้าสดใสขึ้น
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
- ปลอดภัยสูง หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อเสีย
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องฉีดซ้ำทุก 4-6 เดือน
- อาจมี อาการบวม แดง หรือฟกช้ำ ชั่วคราวหลังฉีด
- หากฉีดมากเกินไป อาจทำให้ หางตาตกแทนที่จะยกขึ้น
- อาจเกิดอาการดื้อโบท็อกซ์ หากใช้บ่อยเกินไป
การเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์สำหรับฉีดโบยกหางตา
- Allergan (อเมริกา) ความบริสุทธิ์สูง เห็นผลแม่นยำ โอกาสดื้อยาน้อย
- Dysport (อังกฤษ) กระจายตัวกว้าง เหมาะกับการลดริ้วรอยบริเวณกว้าง
- Xeomin (เยอรมัน) ไม่มีสารเติมแต่ง ลดโอกาสดื้อยา
- Nabota (เกาหลี) ได้รับการรับรองจาก FDA อเมริกา ออกฤทธิ์ไว
- Aestox (เกาหลี) โบท็อกซ์เกาหลีที่มีความบริสุทธิ์สูงและออกฤทธิ์เร็ว
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบยกหางตา
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัวและยาที่กำลังรับประทาน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดอาหารเสริมประเภทวิตามินอี น้ำมันปลา และยาต้านการแข็งตัวของเลือด
ขั้นตอนการฉีดโบยกหางตา
- แพทย์ตรวจประเมินปัญหา และกำหนดปริมาณที่เหมาะสม
- ทำความสะอาดผิวบริเวณรอบดวงตา
- แปะยาชา เพื่อลดความเจ็บ
- ฉีดโบท็อกซ์เข้าสู่กล้ามเนื้อบริเวณหางตา
- ประคบเย็น ลดอาการบวม
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบยกหางตา
- งดสัมผัสหรือกดจุดฉีด 4 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงการซาวน่า หรือความร้อนสูง 3 วัน
- งดออกกำลังกายหนัก 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางหรือครีมบำรุงที่มี AHA, BHA
- บริหารกล้ามเนื้อรอบดวงตา โดยกระพริบหรือยกคิ้วเบา ๆ
สรุป
การฉีดโบยกหางตาเป็นวิธีที่ปลอดภัยและเห็นผลรวดเร็วสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยรอบดวงตาและยกกระชับหางตาโดยไม่ต้องผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้โบท็อกซ์ของแท้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
อ้างอิงจาก: https://www.romrawin.com/eyelid-lift-bo/
https://www.romrawin.com/

















