รู้จักขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องให้ดี เที่ยวได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระน้ำหนักเกิน นำกระเป๋าขึ้นเครื่องกับโหลดใต้เครื่องมีเรื่องอะไรที่ต้องรู้บ้าง บทความนี้มีคำตอบ
การเดินทางท่องเที่ยว คือ การเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้น แต่ก่อนจะออกเดินทางสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการเตรียมสัมภาระให้พร้อม โดยเฉพาะกระเป๋าที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เพราะนอกจากจะต้องใส่ของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นแล้ว ยังต้องคำนึงถึงข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักและขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องอีกด้วย แล้วกระเป๋าขึ้นเครื่องขนาดไม่ควรเกินเท่าไหร่ สิ่งของอะไรบ้างที่ห้ามใส่กระเป๋าลากขึ้นเครื่อง บทความนี้ มีคำตอบ เพื่อให้สามารถออกเดินทางได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระอีกต่อไป
นำกระเป๋าขึ้นเครื่องบินด้วยวิธีไหนได้บ้าง
ในการเดินทางด้วยเครื่องบิน กระเป๋าเดินทางถือว่าเป็นสัมภาระชิ้นสำคัญที่ผู้โดยสารทุกคนควรตรวจสอบข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน ว่ามีข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดสัมภาระขึ้นเครื่องอย่างไรบ้าง โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็นขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องและขนาดกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง ดังนี้
1. กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)
กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง หรือ กระเป๋าติดตัว (Carry On baggage) คือ กระเป๋าใบไม่ใหญ่มากที่สามารถนำขึ้นเครื่องบินไปกับตัวได้ทันที โดยไม่ต้องโหลดใต้ท้องเครื่อง ประเป๋าแบบถือขึ้นเครื่องจะมีข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักและขนาดกระเป๋าถือขึ้นเครื่องที่ต้องปฏิบัติตาม ดังนี้
- ขนาดกระเป๋าที่ขึ้นเครื่องได้ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 56 x 36 x 23 เซนติเมตร
- น้ำหนักรวมของกระเป๋าลากขึ้นเครื่องมักจะไม่เกิน 7 กิโลกรัม
- ส่วนใหญ่จะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ แต่บางสายการบินอาจอนุญาตให้ถือกระเป๋าขึ้นเครื่อง 2 ใบ โดยมีขนาดและน้ำหนักรวมที่กำหนด
2. กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)
กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง หรือ กระเป๋าใต้ท้องเครื่อง (Checked baggage) คือ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่เอาไปให้สายการบินนำไปจัดเก็บไว้ใต้ท้องเครื่องบิน ซึ่งแตกต่างจากกระเป๋าถือขึ้นเครื่องตรงที่มักจะมีขนาดและน้ำหนักที่มากกว่า โดยเกณฑ์และข้อจำกัดของขนาดกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง คือ
- แต่ละสายการบินจะมีกำหนดจำนวนกระเป๋าที่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ฟรีแตกต่างกันไป อาจเป็น 1 ใบ 2 ใบ หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับประเภทของตั๋วและเส้นทางบิน
- น้ำหนักรวมของกระเป๋า โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 20 - 30 กิโลกรัมต่อใบ
- โดยทั่วไป ขนาดกระเป๋าโหลดใต้เครื่องจะไม่มีการกำหนดขนาดที่ตายตัว แต่ควรตรวจสอบขนาดที่เคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน เพื่อป้องกันปัญหาในการขนส่ง
ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องของแต่ละสายการบิน
ด้วยขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง และสัมภาระที่นำขึ้นเครื่องได้ ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องนำติดตัว ดังนั้น จึงควรตรวจสอบข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่เอาขึ้นเครื่องได้ในแต่ละสายการบินให้ดี ยกตัวอย่างเช่น
- การบินไทย (Thai Airways) ขนาดไม่เกิน 56 x 45 x 25 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
- การบินไทยสมายล์ (Thai Smile) ขนาดไม่เกิน 56 x 36 x 23 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
- แอร์เอเชีย (AirAsia) ขนาดไม่เกิน 56 x 36 x 23 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
- นกแอร์ (Nok Air) ขนาดไม่เกิน 56 x 36 x 23 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
- ไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air) ขนาดไม่เกิน 30 x 40 x 20 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
- การบินไทยวีเอ็ทเจ็ท (VietJet Air) ขนาดไม่เกิน 56 x 36 x 23 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
- สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) ขนาดไม่เกิน 56 x 35 x 25 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
- คาเธ่ย์แปซิฟิก (Cathay Pacific) ขนาดไม่เกิน 56 x 36 x 23 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
- เอทิฮัดแอร์เวย์ (Etihad Airways) ขนาดไม่เกิน 56 x 36 x 23 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
- เอมิเรตส์ (Emirates) ขนาดไม่เกิน 55 x 38 x 20 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
- เจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airlines) ขนาดไม่เกิน 55 x 40 x 25 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม
*ขนาดกระเป๋าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบกับสนามบินโดยตรงทุกครั้ง
ข้อจำกัดในการนำกระเป๋าขึ้นเครื่อง
การเดินทางโดยเครื่องบินนั้น มีความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง ดังนั้น ทุกสายการบินจึงมีข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องและข้อห้ามต่าง ๆ โดยทั่วไปสิ่งของที่ห้ามนำใส่กระเป๋าลากขึ้นเครื่องจะมีดังนี้
- ของเหลว เจล และสเปรย์ ต้องบรรจุในภาชนะบรรจุขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และบรรจุในถุงซิปล็อกใสขนาดไม่เกิน 1 ลิตร
- วัตถุมีคม เช่น มีด กรรไกร ใบมีดโกน เล็บมือ เล็บเท้า เครื่องมือช่าง
- อาวุธและวัตถุระเบิด เช่น ปืน กระสุน อาวุธไฟฟ้า วัตถุระเบิด ดอกไม้ไฟ
- วัตถุไวไฟ เช่น ทินเนอร์ น้ำมันเบนซิน ก๊าซหุงต้ม
- แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ต้องมีฉลากระบุข้อมูลอย่างชัดเจน ความจุไม่เกิน 20,000 mAh ต้องพกพาติดตัวขึ้นเครื่องเท่านั้น ห้ามโหลดใต้ท้องเครื่อง
- อาหารที่มีกลิ่นแรง เนื่องจากอาจรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น เช่น ทุเรียน ปลาร้า
ถ้าขนาดกระเป๋าเครื่องบินเกินกำหนด ต้องทำยังไง
หากขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องเกินขนาดที่สายการบินกำหนดไว้สำหรับการถือขึ้นเครื่อง จะต้องทำตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
- วัดขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง เพื่อยืนยันว่า ตรงตามข้อกำหนดหรือไม่ หรือเกินขนาดกระเป๋าเดินทาง ขึ้นเครื่องที่กำหนด
- แนวทางที่สามารถปฏิบัติได้ คือ
- หากไม่สามารถลดขนาดกระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ อาจต้องโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่อง โดยอาจต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
- บางสายการบินอนุญาตให้ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มได้ โดยชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมตามที่สายการบินกำหนด แต่ถ้าหากไซส์กระเป๋าขึ้นเครื่องเกินกว่าที่อนุญาต อาจจะต้องโหลดกระเป๋าเป็นสัมภาระพิเศษ
ดังนั้น ก่อนเดินทาง สามารถป้องกันปัญหาขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องเกินกำหนดได้ด้วยการตรวจสอบนโยบายของสายการบินเกี่ยวกับขนาดสัมภาระขึ้นเครื่อง รวมถึงการชั่งน้ำหนักและวัดขนาดกระเป๋าก่อนเดินทาง เพื่อให้แน่ใจว่า กระเป๋าขึ้นเครื่องขนาดตรงตามข้อกำหนด
รู้จักขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง ให้ทริปนี้ ไม่โดนเท!
ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องเป็นเรื่องที่จะต้องตรวจสอบนโยบายของสายการบินให้เรียบร้อย เพราะสัมภาระส่วนใหญ่ในกระเป๋าลากขึ้นเครื่องมักจะเป็นสิ่งของมีค่าและใช้ในการเดินทาง ดังนั้น โดยทั่วไป กระเป๋า Carry On เหล่านี้ จะต้องมีขนาดไม่เกิน 56 x 45 x 25 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม และไม่มีสิ่งของต้องห้าม เพื่อความปลอดภัยและสามารถเดินทางได้อย่างราบรื่น