ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี เลือกฉีดแบบไหนให้เหมาะกับใบหน้า
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการเสริมความงามที่ช่วยเติมเต็มและปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและรุ่นมีคุณสมบัติต่างกัน สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี บทความนี้จะพาไปรู้จักฟิลเลอร์แบรนด์ชั้นนำที่ได้รับความนิยม และการเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะกับใบหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจคุณ
ฟิลเลอร์คืออะไร? ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ใช้สำหรับเติมร่องลึก หรือปรับรูปหน้า
โดยฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น มีคุณสมบัติแตกต่างกันไปตามส่วนประกอบและเทคโนโลยีการผลิต สำหรับใครทีีอยากรู้ว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี หรือ เหมาะกับจุดที่ต้องการฉีดไหม สามารถพิจารณาคุณสมบัติของฟิลเลอร์ได้ ดังนี้
คุณสมบัติต่างๆ ของฟิลเลอร์
- การคงรูป (Plasticity): ฟิลเลอร์เนื้อแข็งเหมาะจุดที่รองรับแรงกด เช่น คางขมับ ส่วนฟิลเลอร์เนื้อนิ่มเหมาะจุดที่เคลื่อนไหวบ่อย เช่น ร่องแก้ม ปาก ผิวชั้นตื้น
- ขนาดโมเลกุล (Particle Size): ฟิลเลอร์โมเลกุลใหญ่ มีความแน่น เหมาะกับการปั้นทรง เช่น คาง ฟิลเลอร์โมเลกุลเล็กเหมาะจุดผิวบอบบาง หรือผิวชั้นตื้น เช่น ใต้ตา ริมฝีปาก
- ค่าความอุ้มน้ำ (Water holding): ฟิลเลอร์เป็นโมเลกุลที่มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ดี ยิ่งฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนมีค่าความอุ้มน้ำสูง ยิ่งทำให้ฟิลเลอร์ดูดซับน้ำได้ดีและทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มีความอิ่มฟู เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้บริเวณที่ฉีดดูอิ่มฟู ชุ่มชื้นขึ้น
- การกระจายตัว (Tissue Integration): ฟิลเลอร์ที่กระจายตัวได้ดีจะสามารถเกลี่ยให้กลืนกับผิวได้ง่าย ไม่จับตัวกลายเป็นก้อน เหมาะกับบริเวณที่มีผิวบาง และเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดริ้วรอย เติมเต็มรูขุมขน ปรับผิวให้เรียบเนียน
- ความยืดหยุ่น (Elasticity): ฟิลเลอร์ที่มีค่าความยืดหยุ่นสูงสามารถทนต่อแรงบิดได้ดี สำหรับฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นมากๆ จึงเหมาะกับการฉีดบริเวณจุดที่ผิวหรือกล้ามเนื้อมีการขยับบ่อยๆ เช่น ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฯลฯ
- จำนวนการเชื่อมพันธะ (Crosslink): ยิ่งฟิลเลอร์มีการเชื่อมพันธะมากเท่าไหร่ จะยิ่งให้ความคงทน และการยึดเกาะไปกับผิวได้ดี เหมาะกับการพยุงผิว หรือปรับรูปหน้า เช่น คาง
ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะกับแต่ละจุดบนใบหน้า
ฟิลเลอร์ในท้องตลาดมีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ โดยการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของบริเวณที่จะฉีด คุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ รวมถึงราคาที่ผู้รับบริการพึงพอใจ หากยังไม่รู้ว่าฟิลเลอร์มีกี่ยี่ห้อหรือควรเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ลองเลือกจากฟิลเลอร์ตัวท็อปที่สรุปมาให้เข้าใจง่ายๆ ตามนี้ได้เลย
ฟิลเลอร์ Juvederm
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm ผลิตโดย Allergan Aesthetics สหรัฐอเมริกา ใช้เทคโนโลยี Vycross™ และ Hylacross™ เพื่อให้ความยืดหยุ่น เข้ากับผิว และลดการบวมหลังฉีด ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย มีจุดเด่นเรื่องความนิ่ม เรียบเนียน และผลลัพธ์ที่ยาวนาน
Juvederm แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งมี 3 รุ่นที่ได้รับความนิยม ได้แก่
Juvederm Volbella: เนื้อเจลละเอียด สามารถฉีดได้หลายบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นฉีดปากให้อวบอิ่ม หรีอเติมเต็มร่องรอยบนใบหน้า
Juvederm Volift: เนื้อเจลนิ่ม ยืดหยุ่น เนื้อละเอียด เหมาะเติมยริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ริมฝีปาก หรือเติมให้ผิวเรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติ
Juvederm Voluma: เนื้อแน่น ปั้นทรงง่าย เหมาะกับการฉีดโครงหน้าปั้นหน้า เช่น ขมับ คาง แก้มตอบ
อายุการใช้งาน: 10-12 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด
ฟิลเลอร์ Restylane
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane เป็นตัวที่ได้รับความนิยม เพราะเริ่มผลิตและวางขายมาอย่างยาวนาน ผลิตโดย Galderma ประเทศสวีเดน ใช้ 2 เทคโนโลยี NASHA™ และ OBT™ ได้รับการรับรองจาก US FDA, EDQM และ อย.ไทย
รุ่น NASHA™: เป็นไฮยารูลอนิกแอซิดที่มีความคงตัวสูง ปั้นทรงง่าย เหมาะสำหรับการเติมกรอบหน้าหรือคาง เนื้อแน่นและอยู่ทรง รุ่นที่ได้รับความนิยม เช่น Restylane classic, Restylane Vital, Restylane Lyft และ Restylane Vital Light
รุ่น OBT™: ฟิลเลอร์เป็นเนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่น ได้รับความนิยมแพร่หลาย เหมาะสำหรับริมฝีปากหรือบริเวณที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ รุ่นที่ใช้เทคโนโลยีนี้ ได้แก่ Restylane Kysse (ยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่ได้รับความนิยมสูงสุด), Restylane Volyme, Restylane Defyne และ Restylane Refyn
อายุการใช้งาน: 10-12 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด
ฟิลเลอร์ Neuramis
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis ผลิตในเกาหลีใต้ ใช้เทคโนโลยี SHAPE™ ช่วยให้ฟิลเลอร์ยืดหยุ่นและคงตัวสูง ผ่านมาตรฐาน KFDA, U.S. FDA และ EDQM โดยมี 3 รุ่นที่ผ่าน อย.ไทย ได้แก่
Neuramis Deep (กล่องดำ): รุ่นแรกที่ผ่าน อย.ไทย เนื้อเจลหนืดปานกลาง อิ่มฟู ขึ้นรูปง่าย ไม่มีส่วนผสมยาชา เหมาะเติมร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ขมับ แก้มตอบ ผลลัพธ์นาน 6-8 เดือน
Neuramis Deep Lidocaine: เนื้อคล้ายรุ่น Deep แต่ผสมยาชา ช่วยลดเจ็บขณะฉีด ผลลัพธ์นาน 6-8 เดือน
Neuramis Volume Lidocaine (กล่องทอง): เนื้อเจลหนืดและคงตัวสูงสุดในกลุ่ม มียาชาผสม เหมาะเติมโครงหน้า เช่น คาง ขมับ ร่องแก้ม ปรับทรงง่าย ผลลัพธ์นาน 6-8 เดือน
สังเกตฟิลเลอร์แท้-ปลอมได้อย่างไร
นอกจากการเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อที่เหมาะสม การตรวจสอบความปลอดภัยของฟิลเลอร์ก็สำคัญมาก เนื่องจากในตลาดปัจจุบันมีฟิลเลอร์ปลอมแฝงขายอยู่ ซึ่งฟิลเลอร์ปลอมมักทำจากซิลิโคนเหลว อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง เช่น ใบหน้าผิดรูป การอักเสบ หรืออาการแพ้ที่ยากต่อการรักษา โดยมีวิธีตรวจสอบฟิลเลอร์แท้แบบง่าย ๆ ดังนี้
- เช็กเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
- เช็กเลข lot สินค้าให้ตรงกันในทุกจุด โดยมี 4 จุดสังเกต คือ
- เลข lot ที่กล่อง
- เลข lot ที่ซอง
- เลข lot ที่สติกเกอร์
- เลข lot ที่หลอด
- โทรเช็คเลข lot และรายชื่อคลินิกที่รับซื้อฟิลเลอร์จากบริษัทอย่างถูกต้อง ได้ที่บริษัทจัดจำหน่ายฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อได้โดยตรง เช่น Allergan, Galderma เป็นต้น
- ฟิลเลอร์บางยี่ห้อ สามารถตรวจสอบความแท้ด้วยการสแกน QR CODE ผ่านแอป EzTracker
สรุปฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด?
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าควรเลือก Filler ยี่ห้อไหนดี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนเข้ารับบริการ ทั้งการตรวจสอบข้อมูลความปลอดภัยของทั้งฟิลเลอร์ สถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ผู้ให้บริการที่มีใบประกอบวิชาชีพและประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์
ไม่มีฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่การเลือกฟิลเลอร์ที่ตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการของแต่ละคนคือวิธีที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่พอใจและไม่เสี่ยงอันตราย