แชร์ทริคเลือกแอร์ยังไง ให้ประหยัดไฟ และคุ้มค่าที่สุด
เมื่อพูดถึงการเลือกแอร์ (Air Condition) หรือเครื่องปรับอากาศสำหรับบ้าน หลายคนคงเคยสับสนกับตัวเลือกมากมายที่มีในท้องตลาด ทั้งแอร์ยี่ห้อดัง รุ่นประหยัดพลังงาน หรือฟังก์ชันอัจฉริยะที่เพิ่มเข้ามาในปัจจุบัน การเลือกแอร์ที่เหมาะสมไม่ใช่แค่เรื่องของราคาเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาถึงคุณภาพ การใช้งานระยะยาว และบริการหลังการขาย เพื่อให้ได้แอร์ติดบ้านที่ตอบโจทย์และคุ้มค่าที่สุด
โดยในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงวิธีเลือกแอร์ พร้อมคำแนะนำสำหรับคนที่กำลังมองหาคำตอบว่า "ซื้อแอร์ที่ไหนดี" และสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับราคาแอร์ในปัจจุบัน
1. เลือกซื้อแอร์ติดผนัง ใช้สำหรับบ้าน
แอร์ติดผนังเป็นแอร์ที่ได้รับความนิยมที่สุดสำหรับการใช้งานในบ้านทั่วไป เหมาะสำหรับห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือพื้นที่ขนาดเล็กถึงปานกลาง มีดีไซน์ทันสมัย ประหยัดพื้นที่ และสามารถติดตั้งได้ง่าย ส่วนใหญ่เป็นระบบ Inverter ที่ช่วยประหยัดไฟและทำงานเงียบกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมค่าไฟฟ้าในระยะยาว แอร์ติดผนังยังมีฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น ระบบกรองอากาศ และการเชื่อมต่อกับสมาร์9โฟน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและดีไซน์ที่เรียบง่าย
2. เลือกใช้แอร์แบบฝังติดเพดาน ในออฟฟิศ
แอร์แบบฝังติดเพดาน หรือที่เรียกกันว่า “Cassette Air” เหมาะสำหรับพื้นที่กว้าง เช่น ห้องประชุม ร้านอาหาร หรือออฟฟิศ เพราะสามารถกระจายลมได้รอบทิศทาง 360 องศา ทำให้ความเย็นกระจายทั่วถึงอย่างสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่เป็นระบบ Inverter ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานเมื่อใช้งานต่อเนื่องนาน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ใช้งานที่ดูโล่ง โปร่ง และไม่ต้องการให้แอร์เป็นจุดเด่นในห้อง อย่างไรก็ตาม การติดตั้งและการบำรุงรักษาอาจต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญ
3. เลือกติดแอร์แบบตั้งพื้น กับบ้านที่มีผนังบาง
แอร์แบบตั้งพื้นเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่สะดวกติดตั้งแอร์บนผนังหรือเพดาน เช่น ห้องที่มีผนังบาง พื้นที่ที่ต้องการการระบายอากาศเฉพาะจุด หรือบ้านที่มีการปรับปรุงบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่มีทั้งระบบ Inverter และ Non-Inverter ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อ แอร์แบบตั้งพื้นมีข้อดีคือสามารถทำความเย็นเฉพาะจุดได้อย่างรวดเร็ว แต่ดีไซน์อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเรียบง่ายในพื้นที่พักอาศัย เหมาะกับผู้ที่ต้องการแอร์ที่ติดตั้งและเคลื่อนย้ายได้ง่ายในบางกรณี
4. ใช้แอร์แบบตู้ตั้ง สำหรับพื้นที่กว้าง
แอร์แบบตู้ตั้งหรือแอร์แบบ Tower เหมาะสำหรับพื้นที่กว้าง เช่น หอประชุม โกดังสินค้า หรือพื้นที่สาธารณะ เพราะมีพลังการทำความเย็นที่สูงและสามารถปล่อยลมได้แรงกว่าแอร์ประเภทอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็น Non-Inverter เพราะเน้นประสิทธิภาพในระยะเวลาการใช้งานที่ต่อเนื่องนาน ข้อดีคือเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการการทำความเย็นรวดเร็วและทั่วถึง แถมยังเป็นแอร์พร้อมติดตั้งได้ทุกที่ แต่ข้อเสียคือใช้พลังงานมากกว่าแอร์แบบอื่น เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการทำความเย็นมากกว่าการประหยัดไฟ
5. หากย้ายที่อยู่บ่อย แอร์แบบเคลื่อนที่ ตอบโจทย์กว่า
แอร์แบบเคลื่อนที่เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน เช่น ห้องพักชั่วคราว คอนโด หรือพื้นที่ที่ไม่มีการติดตั้งแอร์ถาวร สามารถเคลื่อนย้ายไปตามห้องต่างๆ ได้สะดวก โดยส่วนใหญ่เป็นระบบ Non-Inverter และมีการใช้พลังงานที่มากกว่าแอร์แบบติดผนังหรือฝังเพดาน อย่างไรก็ตาม แอร์แบบเคลื่อนที่เหมาะสำหรับการใช้งานชั่วคราวหรือในพื้นที่เล็กๆ เช่น ห้องที่ไม่มีหน้าต่าง แต่อาจมีเสียงดังขณะทำงานและความเย็นอาจไม่เท่ากับแอร์แบบติดตั้งถาวร
ใช้งานแอร์ให้ถูกวิธีเพื่อความคุ้มค่า และยืดอายุการใช้งาน
การใช้งานแอร์อย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยลดค่าไฟฟ้า แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว หากคุณกำลังมองหาวิธีใช้ แอร์ อย่างเหมาะสม ลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้เพื่อประหยัดพลังงานและรักษาความเย็นในบ้านอย่างยั่งยืน
- ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม ปรับแอร์ให้อยู่ที่ 25-27 องศาเซลเซียสเพื่อความเย็นสบาย และลดการใช้พลังงาน อุณหภูมินี้จะช่วยประหยัดไฟได้ดีที่สุด
- เปิดแอร์เมื่อจำเป็น ใช้แอร์เฉพาะช่วงเวลาที่ต้องการจริงๆ เช่น เวลานอนหรือเวลาพักผ่อน เพื่อช่วยลดภาระการทำงานของเครื่อง และค่าไฟฟ้า
- ปิดประตูและหน้าต่างให้สนิท การใช้งานแอร์ให้คุ้มค่า ควรปิดพื้นที่ให้มิดชิดเพื่อป้องกันลมเย็นไหลออกนอกห้อง และลดการทำงานหนักของแอร์
- ทำความสะอาดแอร์เป็นประจำ ล้างแผ่นกรองอากาศทุก 1-2 สัปดาห์เพื่อลดฝุ่น และเชื้อโรค อีกทั้งยังช่วยให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- หลีกเลี่ยงการตั้งอุณหภูมิให้ต่ำเกินไป การตั้งแอร์ที่อุณหภูมิต่ำมากไม่ช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้น แต่กลับทำให้แอร์ทำงานหนัก และเสี่ยงต่อการเสียหาย
- เลือกโหมดประหยัดพลังงาน แอร์รุ่นใหม่ส่วนใหญ่มาพร้อมฟังก์ชันประหยัดพลังงาน (Eco Mode) ช่วยลดค่าไฟฟ้าในขณะที่ยังคงความเย็นไว้ได้ดี
- ใช้พัดลมร่วมกับแอร์ การเปิดพัดลมเพื่อกระจายความเย็นช่วยลดการใช้พลังงานของแอร์ และทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้น
- ปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง 30 นาที ช่วยลดค่าไฟและให้แอร์ได้พักการทำงานอย่างเหมาะสม
เลือกใช้แอร์ให้เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อความคุ้มค่าระยะยาว
เมื่อพูดถึง แอร์ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อหรือติดตั้ง สิ่งสำคัญคือการพิจารณาให้เหมาะสมกับความต้องการและพื้นที่ใช้งานของคุณ แอร์ที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องของดีไซน์ แต่ต้องตอบโจทย์ด้านการประหยัดพลังงาน ความคุ้มค่า และการใช้งานในระยะยาว
โดยการเลือกแอร์ควรเริ่มต้นจากการพิจารณาประเภทของแอร์ เช่น แอร์บ้าน ที่เหมาะกับห้องขนาดเล็กถึงปานกลาง หรือแอร์แบบฝังเพดานสำหรับพื้นที่กว้าง การเลือกระบบ Inverter ช่วยประหยัดพลังงานในระยะยาว ในขณะที่ Non-Inverter อาจเหมาะกับการใช้งานแบบชั่วคราว
หลังจากการติดตั้ง การใช้งาน แอร์ อย่างถูกวิธียิ่งเป็นเรื่องสำคัญ เช่น การตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม (25-27 องศาเซลเซียส) การล้างแผ่นกรองอากาศสม่ำเสมอ และการปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด การดูแลแอร์อย่างต่อเนื่องไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าไฟ แต่ยังยืดอายุการใช้งานอีกด้วย