ทำความรู้จักประกันรถยนต์ชั้น 1 คืออะไร? คุ้มครองอะไรบ้าง?
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เบี้ยประกันคุ้มค่า คุ้มครองครบ จบในกรมธรรม์เดียว ปกป้องรถของคุณจากทุกความเสี่ยง ทั้งชน คลาดเคลื่อน ไฟไหม้ น้ำท่วม และอื่น ๆ อีกมากมาย
ขับรถบนท้องถนนในปัจจุบันเต็มไปด้วยความเสี่ยงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุจากการชน การเกิดไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติต่าง ๆ การมีประกันรถยนต์จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยดูแลและปกป้องรถให้ปลอดภัย ในบรรดาประกันรถยนต์หลายประเภท ประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็นระดับความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด ให้ความคุ้มครองสูงสุดทั้งต่อรถ และต่อบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ
ประกันรถยนต์ชั้น 1 คืออะไร?
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็นระดับความคุ้มครองที่สูงที่สุดในบรรดาประกันรถยนต์ทั้งหมด เป็นเหมือนเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งสำหรับรถ โดยประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถ หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้นกับรถ
ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็นระดับความคุ้มครองที่สูงสุดและครอบคลุมที่สุดในบรรดาประกันรถยนต์ทั้งหมด เปรียบเสมือนเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งคอยปกป้องรถ และบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง เช่น
ความคุ้มครองต่ออุบัติเหตุ
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุดในบรรดาประกันรถยนต์ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของความคุ้มครองต่ออุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากความผิดพลาดของผู้ขับขี่เอง หรือเกิดจากปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะเข้ามาดูแลและชดใช้ค่าเสียหายให้ โดยชนรถกัน ซึ่งคุ้มครองทั้งรถผู้ทำประกันและรถคู่กรณี
หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจนถึงขั้นเป็นคดีอาญา เช่น มีผู้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต และผู้ขับขี่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว กรณีต้องขึ้นศาล บริษัทประกันภัยจะเข้ามาดำเนินการขอประกันตัวผู้ขับขี่ ตามทุนประกันที่ระบุเพื่อออกมาสู้คดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
ความคุ้มครองต่อภัยธรรมชาติ
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่ได้ให้ความคุ้มครองเพียงแค่ความเสียหายจากอุบัติเหตุเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติต่าง ๆ อีกด้วย ทำให้มั่นใจได้ว่ารถจะได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดใด ๆ ได้แก่
- น้ำท่วม โดยไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมฉับพลัน หรือน้ำท่วมขังระยะยาว ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถ เช่น เครื่องยนต์เสียหาย ตัวถังเป็นสนิม
- ไฟไหม้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ที่เกิดจากฟ้าผ่า หรือสาเหตุอื่น ๆ ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะคุ้มครองค่าซ่อมแซม หรือค่าชดเชยในกรณีที่รถเสียหายทั้งหมด
- ภัยธรรมชาติอื่น ๆ โดยความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติอื่น ๆ ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่น พายุ แผ่นดินไหว สึนามิ หรือภูเขาไฟระเบิด เป็นต้น
ความคุ้มครองต่อการโจรกรรม
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่เพียงแต่คุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุและภัยธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถถูกโจรกรรมอีกด้วย ทำให้อุ่นใจได้มากขึ้นเมื่อจอดรถทิ้งไว้ตามที่ต่าง ๆ โดยค่าชดเชยมูลค่ารถ จะคุ้มครองเรื่องรถหายหรือรถถูกโจรกรรมไป บริษัทประกันภัยจะชดเชยค่าเสียหายให้ตามมูลค่าของรถที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยมักจะคำนวณจากอายุของรถและสภาพรถ ณ วันเกิดเหตุ
ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่ได้ให้ความคุ้มครองเพียงแค่ความเสียหายต่อตัวรถเท่านั้น แต่ยังให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถคันที่ทำประกันอีกด้วย ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถอุ่นใจได้มากขึ้น โดยจะช่วยค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ทำประกันและคู่กรณี จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่จำเป็น เช่น ค่าโรงพยาบาล ค่าแพทย์ ค่ายา และค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์
ความคุ้มครองค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่ได้ให้ความคุ้มครองเพียงแค่ตัวรถของผู้ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่ยังครอบคลุมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถของผู้ขับขี่อีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากก่อให้เกิดอุบัติเหตุและทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเหล่านั้นเอง หากไม่มีประกันรถยนต์ ได้แก่
- ความเสียหายต่อรถยนต์ของบุคคลภายนอก โดยหากชนรถคันอื่น ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะชดใช้ค่าซ่อมแซมรถที่ชน
- ความเสียหายต่อทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น รั้วบ้าน อาคาร สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ หรือแม้แต่ทรัพย์สินส่วนตัวที่อยู่ในรถของบุคคลภายนอก โดยช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย ในส่วนค่าเสียหายเรื่องทรัพย์สิน ที่ผู้ทำประกันต้องจ่ายให้คู่กรณี
ความคุ้มครองค่าเสียหายต่อชีวิต
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่ได้ให้ความคุ้มครองเพียงแค่ตัวรถและทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น อุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอีกด้วย ซึ่งเป็นความคุ้มครองที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยบรรเทาความสูญเสียทางการเงินให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต
โดยค่าชดเชยกรณีเสียชีวิต จะคุ้มครองนอกเหนือพ.ร.บ. ในกรณีทุพพลภาพหรือถึงแก่ชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถคันที่ทำประกัน บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้รับผลประโยชน์ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งอาจเป็นคู่สมรส บิดามารดา บุตร หรือผู้ที่ผู้เอาประกันได้ระบุไว้
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับใคร
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด และต้องการความอุ่นใจในการขับขี่รถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มต่อไปนี้
- ผู้ที่ซื้อรถผ่านไฟแนนซ์ : ธนาคารหรือบริษัทไฟแนนซ์จะบังคับให้ทำประกันรถชั้น 1 เนื่องจากเป็นการคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด ทำให้มั่นใจได้ว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับรถ ธนาคารจะได้รับการชดเชย
- ผู้ที่ออกรถใหม่ป้ายแดง : ซึ่งรถใหม่ป้ายแดงมักจะมีมูลค่าสูง การทำประกันชั้น 1 จะช่วยคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถคันโปรดได้อย่างเต็มที่
- ผู้ที่เป็นมือใหม่ในการขับขี่ : โดยผู้ขับขี่มือใหม่ยังไม่ชำนาญในการควบคุมรถ อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะช่วยลดความกังวลใจเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
- ผู้ที่มั่นใจในการขับขี่ แต่กังวลเกี่ยวกับอุบัติเหตุไม่คาดฝันอื่นๆ : ไม่มีใครสามารถคาดเดาเหตุการณ์บนท้องถนนได้ทั้งหมด การทำประกันรถชั้น 1 จะช่วยให้อุ่นใจได้มากขึ้น
- ผู้ที่จอดรถในค่อนข้างเสี่ยง : โดยหากต้องจอดรถตามข้างถนน หรือที่จอดรถที่ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัย อาจมีความเสี่ยงที่รถจะถูกชน หรือถูกขโมยได้ การทำประกันชั้น 1 จะช่วยคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นได้
ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี
การเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้นสำคัญมาก เพราะการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดีเป็นการตัดสินใจที่ส่งผลต่อความอุ่นใจและความคุ้มครองในระยะยาว ดังนั้นก่อนตัดสินใจ ควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ให้รอบคอบ ได้แก่
- ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัย
- ความคุ้มครอง
- เบี้ยประกัน
- เงื่อนไขการรับประกัน
- ความเห็นของผู้ใช้งาน
- ช่องทางการติดต่อ
สรุปเกี่ยวกับประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประเภทประกันที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุดสำหรับรถยนต์ โดยครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ ความเสียหายต่อบุคคลภายนอก และความเสียหายต่อทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดอื่น ๆ