ระบบไฟฟ้า 3 เฟสคืออะไร ช่วยประหยัดไฟได้จริงหรือไม่?
หลายคนอาจทราบกันดีอยู่แล้วว่าไฟ 3 เฟส เป็นระบบไฟฟ้าที่มีการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากบ้านเรือนทั่วไปที่ใช้ระบบไฟฟ้าแบบ 1 เฟส แต่บางคนอาจยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าระบบไฟฟ้า 3 เฟสแตกต่างจากระบบไฟ 1 เฟสอย่างไร ไฟ 3 เฟสมีกี่สาย มีหลักการทำงานอย่างไร แล้วนำไปใช้งานกับที่อื่นนอกเหนือจากโรงงานได้หรือไม่? บทความนี้รวบรวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับไฟสามเฟสมาฝากทุกคนแล้ว!
ระบบไฟฟ้า 3 เฟส คืออะไร?
ไฟ 3 เฟส คือ ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย ได้แก่ สายไฟหลักหรือสายไลน์ที่มีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ตลอดเวลาจำนวน 3 เส้น และสายนิวทรอลที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านจำนวน 1 เส้น ส่วนแรงดันไฟฟ้า 3 เฟสระหว่างสายไลน์ด้วยกันเองจะอยู่ที่ 380-400 โวลต์ ส่วนแรงดันไฟฟ้าระหว่างสายไลน์และสายนิวทรอลจะอยู่ที่ 230-250 โวลต์ และมีความถี่ 50 เฮิรตซ์ (Hz)
ไฟ 3 เฟส เหมาะกับการใช้งานไฟฟ้าที่ต้องใช้กระแสไฟและแรงดันไฟฟ้าสูง เช่น พวกเครื่องจักรขนาดใหญ่ อุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมาก ที่มีการเปิดใช้งานเป็นระยะเวลานาน ๆ ซึ่งระบบไฟฟ้า 3 เฟสนี้จะสามารถกระจายกระแสไฟได้มากกว่าระบบไฟฟ้าปกติหรือไฟฟ้า 1 เฟส เพราะมีแรงดันไฟฟ้าตั้งแต่ 230-400 โวลต์นั่นเอง
ใครบ้างที่ควรใช้งานระบบไฟฟ้า 3 เฟส
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าไฟ 3 เฟส เหมาะกับการใช้งานกำลังไฟฟ้าสูง เช่น เครื่องจักรขนาดใหญ่ อุปกรณ์ก่อสร้างต่าง ๆ รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าปริมาณมากที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงเหมาะกับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม, คลังสินค้า, อาคารพาณิชย์ ออฟฟิศ หรืออาคารสำนักงานต่าง ๆ รวมไปถึงห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และโรงพยาบาลด้วย
นอกจากนี้ไฟฟ้า 3 เฟส ยังนำมาใช้งานกับบ้านขนาดใหญ่ได้ด้วยเช่นกัน แต่จะใช้ต่อไฟสามเฟสต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านโดยตรงไม่ได้ จำเป็นต้องแบ่งไฟฟ้าออกเป็นชุด ชุดละ 1 เฟสเสียก่อน แล้วค่อยกระจายไปตามจุดต่าง ๆ ที่มีการใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน จึงจะสามารถใช้งานได้ตามปกตินั่นเอง
หลักการทำงานของระบบไฟฟ้า 3 เฟสที่ควรรู้
ระบบไฟ 3 เฟส 4 สาย ทำงานโดยการผลิตกระแสไฟฟ้าสลับผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีขดลวดทองแดง 3 วงจร ที่วางในระยะห่างเท่ากัน 120 องศา และมีสนามแม่เหล็กหมุนอยู่ตรงกลาง เมื่อขั้วเหนือของสนามแม่เหล็กเข้าใกล้ขดลวด จะเกิดการเหนี่ยวนำไฟฟ้าในแต่ละวงจร และจ่ายกระแสไฟฟ้าสลับ 3 เฟสออกมาตามลำดับ
ไฟฟ้า 3 เฟส มีข้อดีอย่างไรบ้าง?
ระบบไฟ 3 เฟส นอกจากจะเหมาะกับใช้งานในพื้นที่หรืออาคารขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ไฟฟ้าปริมาณมาก ยังมีข้อดีอีกหลายข้อ ดังต่อไปนี้
1. ช่วยให้มีไฟฟ้าใช้มากกว่าระบบไฟฟ้า 1 เฟส
ระบบไฟฟ้า 3 เฟส มีสายไลน์มากถึง 3 เส้น และยังมีแรงดันไฟฟ้าสูงตั้งแต่ 230–400 โวลต์ ดังนั้นจึงจ่ายกระแสไฟได้มากกว่าระบบไฟในบ้านทั่วไป ให้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้มีไฟฟ้าใช้มากขึ้นตามไปด้วย
2. ช่วยประหยัดไฟได้
แน่นอนว่าไฟ 3 เฟสมีสายไลน์ 3 สาย ทำให้กระจายกระแสไฟได้มากกว่าไฟ 1 เฟสถึง 3 เท่า ทำให้ใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อผลิตกระแสไฟน้อยลง จึงช่วยประหยัดไฟได้ดียิ่งขึ้น
3. ช่วยให้ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง
วงจรไฟ 3 เฟส กระจายกระแสไฟฟ้าได้อย่างสมดุลมากขึ้น เมื่อต้องใช้งานกับเครื่องจักรขนาดใหญ่หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าปริมาณมาก ๆ จะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้
4. ช่วยให้เครื่องจักรทำงานได้คล่องตัว
เครื่องจักรหรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ต้องต้องการกำลังไฟสูง การใช้ไฟสามเฟสที่จ่ายกระแสไฟสมดุลและเพียงพอ ช่วยให้เครื่องจักรทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
5. ช่วยลดปัญหาไฟฟ้าติดขัดได้
ระบบไฟฟ้า 3 เฟสจ่ายไฟได้สม่ำเสมอและเสถียรมากกว่าไฟฟ้า 1 เฟส จึงช่วยลดปัญหาไฟฟ้าติดขัดจากการที่ระบบไฟจ่ายพลังงานไฟฟ้าไม่เพียงพอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป ไฟฟ้า 3 เฟส ระบบไฟฟ้าสำคัญในโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารขนาดใหญ่
ระบบไฟ 3 เฟส เป็นระบบไฟฟ้าที่ประกอบด้วยสายไลน์ถึง 3 เส้น ทั้งยังมีแรงดันไฟฟ้า 230–400 โวลต์ ซึ่งมากกว่าระบบไฟ 1 เฟสที่ใช้กันทั่วไปในครัวเรือน ทำให้จ่ายกระแสไฟฟ้าปริมาณมากได้เสถียรมากกว่า จึงนิยมนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมหรืออาคารขนาดใหญ่ ที่ใช้งานเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ระบบไฟฟ้า 3 เฟสอาจมีขั้นตอนการติดตั้งที่ค่อนข้างยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หากต้องการติดตั้งระบบไฟ ก็ควรใช้บริการจากช่างมืออาชีพ เพื่อให้ได้ระบบงานที่พึงพอใจ มีความคุ้มค่า และมีความปลอดภัยได้มาตรฐาน