หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
รวมข่าว บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทำไมเราถึงควรใช้ hyaluronic acid ในการบำรุงผิวหน้า???

กระทู้รอขึ้นแสดง
ทำให้ธุรกิจของคุณค้นหาเจอบน Google
เหมาะสำหรับกระทู้ธุรกิจ โฆษณา ประชาสัมพันธ์ SEO
สนับสนุนค่าเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ 300 บาท เพื่อขึ้นแสดงกระทู้นี้
(กรณีที่มี link อยู่ในกระทู้ จะเปลี่ยนเป็น Do Follow หลังจากชำระเงิน จำนวน 1 link)
ระยะเวลาแสดงกระทู้ขั้นต่ำ 1 ปี โดยสามารถแก้ไขกระทู้ได้
(หลังครบ 1 ปีแล้ว ทางเว็บจะไม่ลบกระทู้ออก นอกจากเหตุสุดวิสัย)
สแกน QR Code เพื่อชำระเงิน
(ผ่านแอพพลิเคชั่นธนาคารต่างๆ)
หลังชำระค่าโฆษณาแล้วทางเว็บจะขึ้นกระทู้ให้ภายใน 24 ชั่วโมง
ทางเว็บไม่สามารถรับโฆษณาที่ผิดกฏหมาย, การพนัน, ขายตรง, ฯ
โพสท์โดย Pea Sky

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับไฮยากันก่อน

ไฮยาลูรอน หรือ กรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นได้เอง

จากการศึกษาพบว่า 50% ของกรดไฮยาลูโรนิกที่ร่างกายสังเคราะห์จะพบอยู่ที่ผิวหนัง ทั้งในชั้นหนังแท้ (dermis) และหนังกำพร้า (epidermis)

คุณสมบัติเด่นของไฮยานี้ เป็นสารอุ้มน้ำ ช่วยให้ผิวหนังสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ ส่งผลให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นและเต่งตึง ทำให้ผิวเรียบเนียน ผิวไม่แห้ง ผิวมีความยืดหยุ่นและช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย

แต่...

 

ตัวไฮยาในผิวเราจะลดลงทุกๆ ปี ซึ่งกรดไฮยาลูโรนิกที่ผิวหนังจะมีอายุประมาณ 24 ชั่วโมง และในแต่ละวันจะมีกรดไฮยาลูโรนิกประมาณ 1 ใน 3 ของร่างกายที่ถูกทำลายและถูกสังเคราะห์ขึ้นใหม่ โดยปกติแล้วร่างกายของผู้ที่มีน้ำหนักตัว 70 กิโลกรัมจะมีกรดไฮยาลูโรนิกประมาณ 15 กรัม เมื่ออายุมากขึ้นอัตราการสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิกจะค่อย ๆ ลดลง จนเมื่อถึงอายุประมาณ 50-60 ปี การสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิกจะน้อยกว่าช่วงที่เป็นวัยรุ่นถึงสองเท่าตัว จึงส่งผลให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย หมองโทรมและไม่กระชับ บวกกับผิวหน้าที่ขาดการดูแลอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะยิ่งทำให้ปัญหาริ้วรอยดูแลได้ยาก

 

ด้วยเหตุนี้แหละเราจึงต้องให้ความสำคัญกับไฮยาไง

 

อ่ะงั้นเรามาทำความรู้จักว่าตัวไฮยาเนี้ยมันทำงานยังไงกับผิวของเรากัน เพื่อให้เราเห็นถึงความสำคัญของมันกัน

 

ไฮยาเป็นโมเลกุลที่ซับซ้อนคล้ายสายโซ่ยาว มีหน่วยเล็กๆ หลายหน่วยเชื่อมต่อกันจนกลายเป็นสารประกอบโมเลกุลขนาดใหญ่ และมีมวลโมเลกุลมากเรียกว่า พอลิเมอร์ (Polymer) สายโซ่จำนวนมากนี้ทำให้สารเคมีเกาะติดกันได้ ด้วยสาเหตุนี้สารไฮยาลูรอนจึงสามารถกักเก็บน้ำได้ถึงครึ่งแกลลอน ทำให้เป็นพอลิเมอร์ที่ดีที่สุดสำหรับการดูดซับน้ำนั้นเอง

 

นอกจากนี้แล้วตัวไฮยา เป็นสารประกอบสำคัญในระหว่างเซลล์ (intercellular substance) ก็คือว่าในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเนี้ยกรดไฮยาลูรอนจะทำหน้าที่โอบอุ้มน้ำ โดยพบว่า กรดไฮยาลูโรนิค 2% จะสามารถเก็บน้ำได้ถึง 98% หรือประมาณน้ำ 1 ลิตร จะถูกตรึงในโครงสร้างเกลียวของไฮยาลูโรนิค 1 กรัม อีกทั้งยังทำหน้าที่ยึดเกาะกับโปรตีน และไกลโคสามิโนไกลแคนอื่นๆ เพื่อช่วยรักษาโครงสร้างของเนื้อเยื่อให้มีความยืดหยุ่น

 

ด้วยเหตุนี้แหละที่ไฮยาถือเป็นสารสำคัญชนิดหนึ่งที่ช่วยทำให้เพิ่มความชุ่มชื้น เติมเต็มริ้วรอยบนใบหน้า ลดการอักเสบของผิวหนัง และช่วยยับยั้งความสามารถของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ไฮยายังช่วยควบคุมการซ่อมแซมเนื้อเยื่ออีกด้วย

 

อ้าวในเมื่อไฮยาในผิวของเรามันลดลงทุกๆปี แล้วเราจะนำไฮยามาเติมเข้าสู่ผิวเราได้จากอะไรกัน???

 

ตัวไฮยาเนี้ยแต่เดิมนั้นได้มาจากสัตว์ เช่น ไก่ ซึ่งทำให้เกิดผลข้างเคียงเมื่อนำมาใช้รักษาในคน เช่น เกิดการแพ้ บวมแดง ก่อนจะนำมาใช้สำหรับการรักษาจะต้องทำการทดสอบภูมิแพ้ที่ผิวหนังก่อน 

แต่ต่อมาจึงมีการสังเคราะห์สารไฮยาขึ้นโดยกระบวนการสังเคราะห์สารชีวโมเลกุล จากสารโมเลกุลเล็ก หรือเรียกว่า Biosynthesis โดยแบคทีเรีย Streptococcus จะถูกนำมาสังเคราะห์เป็นกรดไฮยาลูโรนิก และมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับกรดไฮยาลูโรนิกที่สังเคราะห์จากสัตว์จึงสามารถเข้ากับร่างกายของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี

 

แล้วไฮยาที่ถูกสร้างเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายเราเนี้ย มันอันตรายไหมน้าาา

 

ตัวสารไฮยาที่ถูกสร้างเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายเนี้ย มันค่อนข้างมีความปลอดภัย สามารถย่อยสลายเองได้ตามธรรมชาติ แต่ทั้งนี้ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นการฉีดเข้าสู่ผิวหนัง หรือการทาบนผิว รวมถึงการรับประทานสารกรดไฮยาลูโรนิกในรูปแบบอาหารเสริม และควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

 เอ๋! แล้วผิวหน้าเราต้องการไฮยาที่มีขนาดโมเลกุลไหนบ้างน่ะ

 

• กรดไฮยาลูโรนิคที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก จะเหมาะกับการรักษาริ้วรอยตื้นๆ และคงอยู่ในร่างกายได้นานประมาณ 6 เดือน

• กรดไฮยาลูโรนิคที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จะใช้สำหรับการเพิ่มปริมาตรของใบหน้า และการรักษาของริ้วรอย หรือร่องขนาดลึก ซึ่งคงอยู่ในร่างกายได้นาน 6-12 เดือน

 

อย่างไรก็ตาม กรดไฮยาลูโรนิกนั้นสามารถถูกทำลายได้ง่ายด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้น หรือหลั่งโดยแบคทีเรียบางชนิด เช่น Staphylococcus aureus, Streptococcus pyogenes et pneumoniae และ Clostridium perfringens นอกจากนั้นยังสามารถถูกทำลายได้ด้วยสารอนุมูลอิสระต่าง ๆ ทั้งที่เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น รังสียูวี, สารเคมี, และฝุ่นควัน และปัจจัยภายใน เช่น การสูบบุหรี่ และความเครียด เป็นต้น การหลีกเลี่ยงมลภาวะต่าง ๆ หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องแสงแดดจึงเป็นการช่วยยืดอายุการทำงานของกรดไฮยาลูโรนิกที่ชั้นผิวหนังให้รักษาความหยืดหยุ่นชุ่มชื้น และคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้นานยิ่งขึ้น

 

เครดิตภาพจาก pixabay โดย nearshit17

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Pea Sky's profile


โพสท์โดย: Pea Sky
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
อะไรจะเกิดขึ้น หากปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูงนางเอกดังสุดเศร้า กับการสูญเสียครั้งใหญ่ โพสต์อาลัยรักสุดหัวใจดวงประจำสัปดาห์ 25 พ.ย.-1 ธ.ค. 67 by ภูริดา พยากรณ์'ไทเลอร์ ติณณภพ' ลูกชาย 'ธานินทร์' ดาวเด่นยุค 80 สู่พระเอกยุคใหม่""น้องธาช่า" ลูกสาว "กิ๊ก สุวัจนี" แจ้งเกิดเต็มตัว! ประเดิมละครเรื่องแรกกับบทบาทสุดปังแอฟ ทักษอร และ นนกุล คู่รักสุดอบอุ่น รับบทช่างภาพคู่ เฝ้ากองเชียร์ น้องปีใหม่ โชว์ความสามารถบนเวทีดวงรายสัปดาห์ วันที่ 25 พ.ย. - 1 ธ.ค. 2567 by อ.กิ่ง นาคราชดวงรายสัปดาห์ 24 - 30 พ.ย. by ครูเป็นหนึ่ง6 วิธีเติมพลังใจในวันศุกร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับวันหยุดสุดสัปดาห์"ผู้บริหารมาม่าไขปริศนา ยอดขายพุ่งเพราะเศรษฐกิจแย่ หรือแค่คิดไปเอง?"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ผู้บริหารมาม่าไขปริศนา ยอดขายพุ่งเพราะเศรษฐกิจแย่ หรือแค่คิดไปเอง?"หมอเหรียญทองกำลังมองหาสถานที่เช่าสำหรับตั้งซูเปอร์คลินิก เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีบัตรทองจากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะครูสงสัยทำไม นร.ชายใส่กระโปรง..รู้เหตุผลแล้วบอกเลย ใจนายแมนมากนายกยิ้มร่า ทักษิณรอดศาล
กระทู้อื่นๆในบอร์ด โฆษณา ประชาสัมพันธ์
ร้านหม่าล่ายอดนิยม คอนเฟิร์มความอร่อย ที่บอกเลยว่าต้องลองเตรียมบ้านให้พร้อมสำหรับคริสต์มาส ด้วยของขวัญสุดพิเศษในสไตล์ยุโรปเตรียมความพร้อมก่อนสร้างเว็บไซต์ เลือกบริการรับทำเว็บไซต์อย่างไรให้คุ้มค่าและตอบโจทย์ธุรกิจโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์, ด่างคลี, วัตถุเจือปนอาหาร, Potassium Hydroxide, KOH, Food Additive, E525
ตั้งกระทู้ใหม่