อยากมีลูก ต้องเตรียมความพร้อมอย่างไร วิธีธรรมชาติได้ผลแน่นอนหรือไม่

หากอยากมีลูก จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน โดยสามารถเลือกได้ว่า จะใช้วิธีธรรมชาติหรือเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ สำหรับผู้มีบุตรยาก เพื่อให้ได้ลูกอย่างที่ตั้งใจ

หลาย ๆ ครอบครัวย่อมต้องการความสมบูรณ์ด้วยการมีลูกมาเติมเต็ม สำหรับผู้อยากมีลูกที่มีสุขภาพแข็งแรง ก็สามารถใช้วิธีธรรมชาติได้ แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ได้โชคดีเช่นนั้น เพราะมีข้อจำกัดบางประการ เช่น สุขภาพ อายุวัย หรือปัญหาอื่น ๆ แม้ว่า จะอยากมีลูก ก็ไม่สามารถทำได้ แล้วอยากมีลูกต้องทำอย่างไร โดยในปัจจุบัน สามารถแก้ไขปัญหาภาวะมีบุตรยากได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝากไข่, ICSI หรือ IVF โดยแต่ละวิธี คืออะไร หากต้องการวิธีมีลูกอย่างธรรมชาติ ต้องทำอย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ

---

การวางแผนการมีลูกสำคัญอย่างไรสำหรับคู่รักที่อยากมีลูก?

สำหรับผู้อยากมีลูก การวางแผนการมีลูกมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นกระบวนการเตรียมความพร้อมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และการเงิน เพื่อให้ลูกที่เกิดมาได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ เติบโตอย่างมีคุณภาพ และมีความสุข เช่น

• ร่างกายของแม่พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ ลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลดีต่อทารกในครรภ์ให้มีสุขภาพแข็งแรง
• คู่สามีภรรยามีเวลาปรับตัว เตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และความท้าทายที่เกิดขึ้นเมื่อมีลูก
• ความมั่นคงทางการเงิน เนื่องจากการเลี้ยงดูเด็กมีค่าใช้จ่ายสูง จึงต้องจัดสรรเงินออม เตรียมพร้อมรับมือกับภาระค่าใช้จ่าย
• สามารถวางแผนการศึกษา อนาคต และโอกาสในชีวิตของลูกได้อย่างเหมาะสม

ดังนั้น การวางแผนสำหรับผู้อยากมีลูกจะช่วยให้มีลูกได้ง่ายขึ้น เพราะช่วยให้รู้ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการตั้งครรภ์ เพิ่มโอกาสการปฏิสนธิสำเร็จ เป็นการเตรียมพร้อมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และการเงิน สร้างความมั่นใจในการตัดสินใจ มีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการช่วยให้คู่สามีภรรยาเข้าใจตรงกัน เกิดความสามัคคีในครอบครัว 

---

มีลูกช่วงไหนดี วันไข่ตกนาทีทองสำหรับคนอยากมีลูก

อีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญของการวางแผนสำหรับผู้อยากมีลูก คือ ช่วงไข่ตก โดยช่วงไข่ตก คือ ช่วงเวลาที่ไข่ที่สมบูรณ์ที่สุดหลุดออกมาจากรังไข่ มักเกิดขึ้นประมาณ 14 วันก่อนมีประจำเดือนรอบถัดไป ไข่จะอยู่ในท่อนำไข่ รอการผสมกับอสุจิประมาณ 12 - 24 ชั่วโมง ถือว่า เป็นช่วงที่ไข่มีความสมบูรณ์และพร้อมสำหรับการผสมกับอสุจิ อีกทั้งฮอร์โมนในร่างกายผู้หญิงเปลี่ยนแปลง กระตุ้นให้มีการหลั่งสารคัดหลั่งที่ช่วยให้อสุจิเคลื่อนที่ไปผสมกับไข่ได้ง่ายขึ้น

ดังนั้น ในการนับวันไข่ตกจึงสำคัญและจำเป็นเป็นอย่างมากสำหรับผู้อยากมีลูก โดยมีวิธีการนับ ดังนี้

1. นับจากรอบเดือน

• ผู้หญิงที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอ 28 วัน ไข่จะตกประมาณวันที่ 14
• ผู้หญิงที่มีรอบเดือนไม่สม่ำเสมอ ต้องจดบันทึกรอบเดือน 6 เดือน ย้อนหลัง หารอบเดือนที่สั้นที่สุดและยาวที่สุด จากนั้น ลบ 18 ออกจากรอบเดือนที่สั้นที่สุด และลบ 11 ออกจากรอบเดือนที่ยาวที่สุด ตัวเลขที่ได้คือ ช่วงวันที่เป็นไปได้สูงสุดที่ไข่จะตก

2. ใช้ชุดทดสอบการตกไข่ โดยการตรวจวัดระดับฮอร์โมน luteinizing hormone (LH) ในปัสสาวะ  ซึ่งผลลัพธ์จะแสดงว่ากำลังอยู่ในช่วงไข่ตก

3. สังเกตอาการของตนเอง เช่น ตกขาวมีลักษณะใส คล้ายไข่ขาว, รู้สึกเจ็บหรือตึงคัดเต้านม, อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

4. ใช้แอปพลิเคชั่นนับวันไข่ตก โดยใส่ข้อมูลรอบเดือน  แล้วแอปจะคำนวณวันไข่ตกโดยประมาณ

---

เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่น่าสนใจสำหรับคนอยากมีลูก

อยากมีลูกต้องทำไง สำหรับผู้มีสุขภาพแข็งแรง หากอยากมีลูกก็คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับบางคน ซึ่งมีข้อจำกัดบางประการ เช่น สุขภาพร่างกาย ฮอร์โมน ช่วงอายุ ซึ่งอาจจะทำให้มีลูกยาก ซึ่งในปัจจุบัน ได้มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถมีลูกได้แล้ว

1. การฝากไข่

การฝากไข่ (Egg Freezing) เป็นหนึ่งเทคโนโลยีเหมาะสำหรับคนอยากมีลูก โดยช่วยให้ผู้หญิงเก็บรักษาไข่ที่สมบูรณ์ไว้ใช้ในอนาคตได้ ซึ่งแพทย์จะทำการดูดไข่ที่เจริญเติบโตดีออกมาจากรังไข่ นำไปแช่แข็งด้วยวิธีพิเศษที่อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส เมื่ออยากมีลูก ให้นำไข่มาละลายและผสมกับอสุจิ เป็นการเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ในอนาคต เหมาะสำหรับผู้หญิงที่อยากท้องในอนาคต หรือเข้ารับการผ่าตัดรังไข่ หรือต้องการรักษาโรคบางชนิดที่มีผลต่อความสมบูรณ์ของไข่

2. ICSI

ICSI ย่อมาจาก Intracytoplasmic Sperm Injection เป็นอีกเทคโนโลยีสำหรับผู้อยากมีลูก โดยใช้เข็มขนาดเล็กฉีดอสุจิ 1 ตัวเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง ช่วยเพิ่มโอกาสการปฏิสนธิ เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยาก แต่อยากมีลูก ถือว่า เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ แต่มีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายสูง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับข้อมูลและคำแนะนำอย่างถูกต้องและเหมาะสม

3. IVF

เทคโนโลยีทางการแพทย์อย่าง IVF (In Vitro Fertilization) เป็นการปฏิสนธินอกร่างกาย ช่วยนำไข่ของฝ่ายหญิงมาผสมกับอสุจิของฝ่ายชายในห้องปฏิบัติการ เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิเอง โดยตัวอ่อนที่ได้จากการปฏิสนธิจะถูกเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ ก่อนจะย้ายตัวอ่อนที่เจริญเติบโตถึงระยะที่เหมาะสมไปฝังตัวในโพรงมดลูก เป็นอีกวิธีการมีลูกที่มีประสิทธิภาพสูง

---

เคล็ดลับสำหรับคนที่อยากมีลูกด้วยวิธีการธรรมชาติ

นอกเหนือจากวิธีการมีลูกด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ต่าง ๆ ดังที่กล่าวไปแล้วนั้น ยังมีเคล็ดลับ เพื่อช่วยให้ผู้อยากมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติ สามารถทำได้ทุกคน ดังนี้

1. ทานอาหารที่มีประโยชน์

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ถือว่า เป็นเคล็ดลับสำคัญสำหรับผู้อยากมีลูก โดยจะต้องเน้นอาหาร ดังต่อไปนี้

• ผักใบเขียว อุดมด้วยโฟเลต วิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก มีส่วนช่วยในการตกไข่ของฝ่ายหญิง และทำให้ตัวอ่อนมีสุขภาพแข็งแรง
• ถั่วและธัญพืช อุดมด้วยโปรตีนและใยอาหาร ช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานได้ดี
• ปลาแซลมอน อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยให้ระบบฮอร์โมนสมดุล
• ไข่ อุดมด้วยโปรตีน วิตามินบี และโคลีน ช่วยให้ไข่มีคุณภาพดี
• ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงสุขภาพของระบบสืบพันธุ์
• น้ำเปล่า โดยดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และการทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

หากอยากมีสุขภาพแข็งแรง ให้พร้อมสำหรับการมีลูก ก็ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และการทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทั้งสองสิ่งนี้ ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ทั้งชายและหญิงทั้งสิ้น ดังนี้

• ส่งผลต่อฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ เกิดภาวะไม่ตกไข่ ไข่เจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ และรบกวนการฝังตัวของทารกในครรภ์
• ส่งผลต่อจำนวน ความแข็งแรง และความคล่องตัวของอสุจิ

3. หลีกเลี่ยงการทานเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

หากอยากติดลูกง่าย ควรหลีกเลี่ยงการทานเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนด้วยเช่นกัน เพราะการดื่มคาเฟอีนประมาณ 300 มิลลิกรัมต่อวัน (เทียบเท่ากาแฟชงเอง 3 แก้ว) เพิ่มความเสี่ยงการมีบุตรยาก 25% และเพิ่มความเสี่ยงจำนวนอสุจิลดลง 25% หากดื่มกาแฟ 3 แก้วขึ้นไปต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงในการแท้งบุตร นอกจากนี้ คาเฟอีนส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของอสุจิ ทำให้โอกาสการปฏิสนธิลดลง 

4. มีเพศสัมพันธ์ในช่วงไข่ตก

สำหรับผู้ที่อยากท้องจะต้องมีเพศสัมพันธ์ในช่วงไข่ตก เพราะเป็นช่วงที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูงที่สุด โดยเป็น 2 วันก่อนไข่ตก และ 1 วันหลังไข่ตก ซึ่งถือว่า เป็นวิธีการทางธรรมชาติ แต่ทั้งนี้ ก็ควรเตรียมสุขภาพให้พร้อม ทั้งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้พลาดช่วงเวลาดี ๆ ดังกล่าว

5. หลีกเลี่ยงความเครียด

ความเครียด ถือว่าเป็นหนึ่งอุปสรรคสำคัญสำหรับผู้อยากมีลูก โดยเฉพาะผู้มีลูกยาก ก็จะเกิดความเครียดได้ง่าย ๆ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการความเครียดให้ดี เนื่องจากฮอร์โมนจากความเครียด (คอร์ติซอล) จะส่งผลต่อฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ เกิดภาวะไม่ตกไข่ ไข่เจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ และรบกวนการฝังตัวของทารกในครรภ์

---

อยากมีลูกด้วยวิธีการทางการแพทย์ควรใช้วิธีไหนดี?

สำหรับผู้อยากมีลูกที่มีสุขภาพแข็งแรง ก็สามารถเลือกใช้วิธีมีลูกทางธรรมชาติได้ แต่หากมีลูกยากทำไง ก็แนะนำให้เลือกใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ ซึ่งในปัจจุบันได้มีหลากหลายวิธีการมีลูกให้เลือกตามความเหมาะสม ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น 

• การฝากไข่  เป็นการเก็บไข่ของฝ่ายหญิงไว้ในอุณหภูมิต่ำ เพื่อนำมาใช้ในอนาคต เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องการมีลูกในอนาคต หรือ ผู้หญิงที่ต้องเข้ารับการรักษาที่ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์
• การผสมเทียมด้วยการฉีดอสุจิเข้าเซลล์ไข่โดยตรง (ICSI) เป็นการใช้เข็มขนาดเล็กฉีดอสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากจากสาเหตุต่างๆ เช่น ภาวะน้ำอสุจิน้อย อสุจิเคลื่อนที่ช้า รูปร่างอสุจิผิดปกติ หรือ ภาวะมีบุตรยากจากสาเหตุที่ไม่ทราบสาเหตุ
• การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นการนำไข่ของฝ่ายหญิงไปผสมกับอสุจิของฝ่ายชายในห้องปฏิบัติการ  เมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตถึงระยะที่เหมาะสม จะย้ายตัวอ่อนกลับเข้าโพรงมดลูก เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ท่อนำไข่ตัน ไข่ไม่ตก ไข่มีคุณภาพไม่ดี หรือ ภาวะมีบุตรยากจากสาเหตุที่ไม่ทราบสาเหตุ

ทั้งนี้ ในการเลือกวิธีการทางการแพทย์ เพื่อช่วยผู้อยากมีลูก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะมีบุตรยาก โดยแพทย์จะตรวจหาสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก สุขภาพของคู่รัก และแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัย