ฟิลเลอร์คืออะไร? เจ็บไหม และต้องรู้อะไรบ้างก่อนฉีด
ฟิลเลอร์คืออะไร และสิ่งที่ควรรู้ในการเลือกฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก เพื่อแก้ปัญหาผิว ทั้งริ้วรอยตามวัย และริ้วรอยที่เกิดจากใช้งาน พร้อมการเตรียมตัวและข้อควรระวังหลังจากฉีดแล้ว
ผิวหนังของคนเรามีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญซึ่งทำให้ผิวมีความแข็งแรง สุขภาพดี เต่งตึง หากคอลลาเจนเหล่านี้ลดลงเรื่อย ๆ จะทำให้ผิวเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถเลือกวิธีการเติมฟิลเลอร์ตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้าได้ โดยรายละเอียดต่าง ๆ สามารถเรียนรู้ได้เบื้องต้นจากหัวข้อถัดไป
1. ฟิลเลอร์คืออะไร ช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าได้อย่างไร
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA ที่เป็นตัวยาช่วยเติมเต็มให้ร่องลึกบนใบหน้าจากหายไป เป็นการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนังตามปริมาณที่เหมาะสมตามที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ที่ช่วยลดและแก้ไขปัญหาผิว ริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า ให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ กระชับ เปล่งปลั่ง ซึ่งสามารถเห็นผลได้ในทันทีหลังจากที่มีการฉีด
2. ฟิลเลอร์อันตรายไหม
ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์หากเลือกใช้บริการจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ จากสถานเสริมความงามที่มีการรับรองอย่างถูกต้องก็จะได้รับการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้องได้มาตรฐานการรักษา และใช้ฟิลเลอร์แท้ที่เป็นสารเติมเต็มไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid : HA) ซึ่งมีความปลอดภัยสูงช่วยลดความเสี่ยงฉีดฟิลเลอร์ตาบอดหรือการเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจว่าตนเองจะสามารถรับการบริการฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม สามารถปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางซึ่งมีการรับรองด้านผิวหนังจากแพทยสภาได้โดยตรงหรือสามารถเลือกแพทย์เพื่อให้คำปรึกษาด้านการฉีดฟิลเลอร์ได้ตามต้องการ
3. ฉีดฟิลเลอร์กับโบท็อกต่างกันอย่างไร
ฟิลเลอร์และโบท็อกซ์มีจุดที่เหมือนกัน คือ สามารถใช้ลดริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัดทั้งคู่ครับ แต่ยังมีหลายจุดที่แตกต่างกัน เช่น คุณสมบัติของสารตัวยา โมเลกุล หลักการทำงาน รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้
- Filler มีตัวยา Hyaluronic Acid เป็นเนื้อเจล โมเลกุลต่างกัน เช่น เนื้อนิ่ม เนื้อละเอียด และเนื้อแน่นฉีดเพื่อเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังทดแทนคอลลาเจน อิลาสติน เนื้อและกระดูกที่ยุบตัว ทำให้ผิวบริเวณร่องลึกให้ตื้นขึ้น ใช้เติมเต็มริ้วรอย เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ที่เกิดขึ้นทั้งจากการขยับกล้ามเนื้อหรือไม่ขยับบนใบหน้า ยังช่วยปรับรูปหน้าให้สมส่วน มีมิติ และลดโอกาสการเกิดริ้วรอยร่องลึกในอนาคต หลังฉีดจะเห็นผลได้ทันทีและอยู่ได้นานถึง 6-24 เดือนก็จะสลายไปเองตามธรรมชาติ
- Botox มีตัวยา Botulinum Toxin A เป็นผลึกขาวอยู่ที่ก้นขวด โดยแพทย์จะผสมกับน้ำเกลือและนำมาฉีดเพื่อลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ และใช้ลดริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหว เช่น รอยย่นบนหน้าผาก รอยตีนกา รอยย่นระหว่างคิ้วเวลาขมวดคิ้ว ปรับรูปหน้า ลดกราม เพิ่มหน้าเรียว หลังฉีดจะเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 3-4 วัน และอยู่ได้นาน 4-6 เดือนก็สลายไปเองตามธรรมชาติ
4. ฟิลเลอร์ ฉีดตรงไหนได้บ้าง บนใบหน้า
การใช้ฟิลเลอร์สามารถทำได้ในหลายส่วนของร่างกาย ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขริ้วรอย ร่องลึก หรือการเสริมปรับรูปร่างบางสวนและเมื่อพูดถึงการฉีดฟิลเลอร์บนใบหน้ามีทั้งหมด 7 จุดที่สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด
- ฟิลเลอร์ใต้ตา เมื่อเราอายุมากขึ้นกระดูกใต้ตาะเริ่มยุบตัวลงพร้อมทั้งเนื้อเยื่อก็ลดลงตามไปด้วยส่งผลให้ผิวหนังหย่อนคล้อย การแก้ไขสามารถทำได้โดยการเติมฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งจะช่วยปรับลดรูขุมขนทำให้หน้าดูเด็กลงและส่งผลให้ใต้ตาดูสดใสมากขึ้นได้
- ฟิลเลอร์คาง การใช้เทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์ช่วยปรับรูปหน้าให้สมมาตรหรือหน้าเรียววีเชฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้จากเทคนิคนี้สามารถเทียบได้กับการผ่าตัดเสริมคาง ซึ่งการใช้ฟิลเลอร์จะเห็นผลได้รวดเร็วกว่า
- ฟิลเลอร์จมูก เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเจ็บจากการผ่าตัดรวมถึงไม่มีเวลาพักฟื้น การทำฉีดฟิลเลอร์นี้ผู้ที่สนใจต้องมีฐานจมูกอยู่บ้าง เพื่อเป็นการปรับปรุงสันจมูกหรือปลายจมูกให้โดดเด่นเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยซึ่งก็ได้ผลลัพธ์ทันที
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม การมีร่องแก้มลึก หน้าดูแก่กว่าวัย การใช้ฟิลเลอร์เป็นการเติมร่องแก้มโดยตรงช่วยร่องแก้มตื้นขึ้น ผิวหน้าอิ่มเอิบมากขึ้น ซึ่งการใช้ฟิลเลอร์ของแต่ละคนจะได้รับการประเมินจากแพทย์อย่างเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ฟิลเลอร์ปาก สำหรับคนต้องการปรับรูปทรงปากให้อิ่มเอิบมากขึ้น จากการริมฝีปากบาง ริ้วรอยบริเวณขอบปาก หรือปากแห้ง สามารถใช้ฟิลเลอร์ 1 CC ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน
- ฟิลเลอร์ขมับ สำหรับคนที่ต้องการปรับปรุงรูปหน้าให้ได้สัดส่วน เพื่อให้ได้รูปหน้าที่สวยงามและได้ลักษณะตามโหงวเฮ้ง การทำฟิลเลอร์ขมับเป็นทางเลือกที่ทำได้ง่าย และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว
- ฟิลเลอร์หน้าฝาก การใส่ฟิลเลอร์ที่หน้าผากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยปรับรูปหน้าให้มีสัดส่วนสวยงามเพิ่มขึ้น เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งโดยไม่ต้องผ่าตัดซึ่งสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที
5. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน มีปัจจัยอะไรบ้างส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
ฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐานสามารถสลายได้เองภายในระยะเวลา 6-24 เดือน โดยไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงหรือเป็นอันตราย และระยะเวลาการสลายไปของแต่ละคนก็อาจจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ด้วยเช่นกัน
- ความร้อน การอยู่ในที่มีอุณหภูมิสูงมาก ๆ จะทำให้ฟิลเลอร์สลายได้เร็วกว่าปกติ
- ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ มีคุณสมบัติต่างกันทำให้มีระยะเวลาอยู่ในผิวนานไม่เท่ากัน
- ระดับการสลายเองของแต่ละคนแตกต่างกัน เพราะมีเอมไซน์ไม่เท่ากัน
- ตำแหน่งที่ฉีดและการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อก็มีผล ต่อการสลายของฟิลเลอร์
- การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ฟิลเลอร์สลายช้าลง
6. ฟิลเลอร์มีข้อเสียและผลข้างเคียงอะไรบ้าง
แม้การฉีดฟิลเลอร์จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียและข้อควรระวังในการเลือกใช้บริการก็ตรงที่ราคาฟิลเลอร์ค่อนข้างสูง และหากเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่มีการรับรองจาก อย. รวมถึงไม่ได้ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็อาจจะมีผลข้างเคียงได้ อีกทั้งการฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนก็ตาม ต้องมีการกลับมาฉีดเพิ่มเป็นระยะหลังจากฉีดไปแล้ว 6-24 เดือน โดยผลข้างเคียงที่มีได้หลังจากฉีดแล้ว
- อาจมีรอยแดง ซึ่งเกิดจากรอยเข็ม โดยจะหายไปเองได้ภายในระยะเวลา 2-3 วัน
- อาจมีอาการบวมเพียงเล็กน้อยได้ โดยจะหายไปเองภายใน 7-14 วัน
- อาจแพ้ฟิลเลอร์ได้ โดยมีโอกาสเพียง 1% ที่จะเกิดการอักเสบเป็นก้อนบวมแดง หรือเป็นลมพิษ
7. ฟิลเลอร์ 1 cc เยอะแค่ไหน ใช้บริการเท่าไหร่จึงเหมาะสม
ฟิลเลอร์ 1 CC. เท่ากับ 1 ml.สำหรับหารใช้ฟิลเลอร์ในการแก้ไขปัญหาบนใบหน้า โดยใช้ในปริมาณเพียง 1 CC. ก็เห็นถึงผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน แต่ปริมาณการใช้ฟิลเลอร์กี่ CC. ในแต่ละคนนั้นอาจจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับแพทย์จะเป็นผู้ประเมินจากหลาย ๆ ปัจจัย รวมถึงอายุและปัญหาของผู้ที่ต้องการใช้ฟิลเลอร์ ซึ่งเริ่มต้นการเติมฟิลเลอร์ 1 CC.ก็ทำให้เห็นผลได้แล้ว แต่ในกรณีที่มีปัญหาผิวหรือริ้วรอยมากกว่าปกติ เช่น ปัญหาคางไม่ได้รูป มีผิวหย่อนคล้อยมากนอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาแล้วยังต้องการปรับรูปทรงคางให้เรียวเข้ารูปได้สัดส่วน แพทย์ก็จะพิจารณาให้ใช้ฟิลเลอร์คาง 2 CC. หรือให้ใช้ได้ไม่เกิน 2 CC. และนอกจากปริมาณที่ใช้ในการฉีดแล้วยังมีในส่วนของความเข้มข้นของตัวยาในแต่ละยี่ห้อ
8. ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม มีขั้นตอนลดการเจ็บปวดอย่างไร
สำหรับผู้เข้าใช้บริการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ที่มีความชำนาญสูงจะดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อทำให้ความเจ็บหรืออาการบวมช้ำมีน้อยที่สุด โดยการทาหรือฉีดยาชาให้ผู้รับบริการหรือในตัวยาฟิลเลอร์เองก็มีส่วนผสมของยาชาอยู่ด้วย ซึ่งเป็นการช่วยลดความเจ็บปวดจากการฉีดฟิลเลอร์ได้ หรือแทบจะไม่รู้สึกเจ็บเลยและการเลือกใช้บริการสถานเสริมความงามที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพก็จะได้พบกับแพทย์ที่มีทักษะการให้บริการที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการเจ็บน้อยที่สุด
สวยอ่อนเยาว์ได้ด้วยฟิลเลอร์ ข้อควรรู้ในการเลือกใช้บริการ
สำหรับผู้รับบริการฉีดฟิลเลอร์สามารถปรับปรุงปัญหาเรื่องผิว ริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้อ่อนวัยขึ้นได้ ทั้งในเรื่องความสวยงามและการฉีดฟิลเลอร์ปรับโหงวเฮ้งตามความเชื่อ ซึ่งต้องเลือกใช้บริการสถาบันความงามและแพทย์ที่มีความชำนาญ มีมาตรฐานการให้บริการและใช้ฟิลเลอร์ที่มีการรับรอง อย.อย่างถูกต้อง มีรีวิวน่าเชื่อถือ, ราคาไม่ถูกเกินไป