วิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 10000 เก็บเงินก้อนไม่ยาก หากเก็บอย่างถูกวิธี

วิธีเก็บเงินมนุษย์เงินเดือน 10000 บาท ถ้าเก็บเงินให้เป็นและเก็บอย่างถูกวิธี ก็จะทำให้มีเงินก้อนสำหรับใช้จ่ายหรือซื้อสิ่งของที่ต้องการได้อย่างไม่ลำบาก

ในปัจจุบันที่อยู่ในยุคข้าวยากหมากแพง ทำให้ราคาสิ่งของเครื่องใช้ รวมถึงราคาค่าบริการต่าง ๆ สูงมากขึ้น ทำให้มีเงินเก็บในแต่ละเดือนน้อยหรือไม่มีเลย ซึ่งการที่ไม่มีเงินเก็บเลยก็จะส่งผลทำให้ไม่มีเงินก้อนใช้ในยามคับขันในอนาคต เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดจากการไม่มีเงินเก็บ ในที่นี้ก็จะมาแนะนำวิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 10000 เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับการใช้ชีวิต

1. ส่วนค่าใช้จ่ายจำเป็น

ในหนึ่งวัน มนุษย์เราจำเป็นต้องกินหรือต้องใช้ ซึ่งค่าอาหาร ค่าน้ำ รวมถึงค่าของใช้ส่วนตัวอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิต นั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถตัดหรือหักออกไปเพื่อออมเงินได้เลย เพราะถ้าไม่กินอาหารหรือไม่ดื่มน้ำเลย ก็จะส่งผลทำให้ร่างกายไม่มีแรงทำงาน และนั่นจะส่งถึงสุขภาพ ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง ป่วยง่ายขึ้นและขาดสารอาหารได้

แต่ถึงแม้จะบอกว่าตัดรายจ่ายที่กล่าวข้างต้นออกไปไม่ได้ แต่ก็สามารถลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงเพื่อเพิ่มเงินเก็บได้ วิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 10000 สำหรับผู้ที่ปกติซื้ออาหารและน้ำกินมื้อละ 40-60 บาท รวม 3 มื้อวันละ 120-160 บาท สามารถซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารทานเองเพื่อลดค่าอาหารลง

ในส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นนอกเหนือจากค่าอาหารและน้ำ เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงจะนึกถึงค่าโทรศัพท์หรือค่าอินเทอร์เน็ตที่ในสมัยนี้ที่ต้องใช้ติดต่อกับผู้อื่นหรือนำมาใช้ทำธุรกรรมต่าง ๆ สำหรับผู้ที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ก็อาจจะใช้ซิมโทรศัพท์แบบเติมเงิน และในเชื่อมต่อ wifi ในกรณีที่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตแทน เป็นต้น

2. ส่วนความสุขส่วนตัว

หลังจากผ่านการทำงานอย่างหนักและรับเงินในแต่ละเดือน เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงอยากจะให้รางวัลกับตนเองที่สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาอันเหน็ดเหนื่อยในแต่ละวันได้ โดยในที่นี้บางคนอาจจะเลือกนำเงินเดือนที่ได้ไปใช้จ่ายกับสิ่งของส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า สกินแคร์ เครื่องสำอาง หรือนำไปใช้กับงานอดิเรกหรือความชอบ เช่น ชมภาพยนตร์ เล่นเกม ท่องเที่ยว

แต่สำหรับผู้ที่มีเงินเดือนไม่สูงมากก็อาจจะต้องคำนวณอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้เผลอใช้เงินมากกว่าเงินที่ได้รับ ในที่นี้ก็จะมีวิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 10000 ในส่วนของค่าใช้จ่ายส่วนตัวมาแนะนำ คือ ใช้ 10% ของเงินเดือน โดยในกรณีที่ได้รับเงินเดือนละ 10,000 บาท ใน 1 เดือนจะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ที่ 1,000 บาท 

หากถามว่าทำไมถึงต้องเป็น 10% ไม่ใช่ 20% หรือ 30% ถึงแม้ว่า 10% ของเงินเดือนจะดูเป็นจำนวนเงินที่น้อย แต่ก็เป็นจำนวนเงินที่สามารถใช้ได้อย่างไม่ต้องกังวล อีกทั้งในแต่ละเดือนก็มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าที่พัก ค่าของใช้จำเป็น ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดคิดเข้ามา หากใช้เงินกับการซื้อของที่ชอบ ก็จะทำให้มีโอกาสที่เงินไม่พอเก็บหรือไม่มีเงินสำรองใช้ได้

แต่สำหรับบางคนอาจจะคิดหาวิธีเก็บเงินเพิ่มด้วยการไม่แบ่งเงินค่าของใช้ส่วนตัวเลย ซึ่งอันที่จริงแล้วก็สามารถทำได้โดยการเปลี่ยนเงินสำหรับใช้ส่วนตัวเป็นเงินเก็บแทน อย่างไรก็ตามการเก็บเงินขึ้นอยู่กับความต้องการใช้เงินของแต่ละคน ถ้าหากไม่รู้สึกว่าฝืนจนเกินไปก็สามารถเก็บเป็นเงินออมแทนได้ แต่ถ้ารู้สึกทรมานกับการไม่ใช้เงินเพื่อตนเองเลยก็สามารถใช้เงินเพื่อเพิ่มความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ตนเองได้ด้วยเช่นกัน

3. ส่วนค่าเดินทาง

สำหรับมนุษย์ทำงานแล้ว หนึ่งในค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้ในทุก ๆ วันก็คือ ค่าเดินทาง นั่นเอง เพราะจะต้อง ซึ่งค่าเดินทางในแต่ละวันก็มากจนอาจทำให้เหลือเงินเก็บน้อยมากหรือแทบไม่เหลือเลย ดังนั้นหากต้องการให้วิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 10000 ได้ผลลัพธ์ดี ในที่นี้จะต้องคำนวณค่าเดินทางที่ต้องเสียในหนึ่งวันที่เสียไปทั้งขาไปและขากลับก่อน

สำหรับผู้อาศัยอยู่ใกล้ที่ทำงาน ก็อาจจะไม่ต้องเสียค่าเดินทางเลยหรืออาจจะเสียไม่เยอะมาก แต่สำหรับผู้ที่อยู่ไกลจากที่ทำงานก็อาจจะมีค่าเดินทางหลายต่อ เช่น ค่ารถไฟ ค่ารถเมล์ ค่าวินรถมอเตอร์ไซค์ หรืออื่น ๆ ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกใช้ขนส่งสาธารณะแบบไหน เมื่อคำนวณแล้วค่าเดินทางบางคนอาจจะมากกว่า 100 บาทต่อวัน ซึ่งคิดเป็นเงินเฉลี่ยมากถึง 2,000-3,000 บาทต่อเดือน

เมื่อเทียบกับรายได้ที่ได้รับในหนึ่งเดือนแล้ว จะเห็นได้ว่าค่าเดินทางจะอยู่เกือบ 1 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายรายเดือนเลยก็ว่าได้ ดังนั้นหากต้องการหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายส่วนนี้แล้ว วิธีเก็บเงิน ที่ช่วยมากที่สุด คือ การหาที่พักที่ใกล้ที่ทำงาน แต่ในความจริงแล้วกลับเป็นวิธีที่สามารถทำได้ยาก เพราะค่าที่พักแถวที่ทำงานสูง หางานใกล้ๆที่พักไม่ได้ หรืออาจจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องเลือกทำงานที่ไกลจากที่พัก

ดังนั้นวิธีที่จะช่วยประหยัดเงินค่าเดินทางแทนการหาพี่พักหรือที่ทำงานใหม่ได้โดยที่ไม่ลำบากมากจนเกินไป คือ การเปลี่ยนวิธีเดินทาง เช่น แต่เดิมขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงานก็อาจจะเปลี่ยนเป็นขึ้นรถเมล์หรือรถอื่น ๆ แทน หรือในกรณีที่ปกติขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ไปทำงานก็เปลี่ยนเวลาออกที่พักให้เร็วขึ้นแล้วขึ้นรถสองแถวแทน เป็นต้น 

4. ส่วนค่าที่พักอาศัย

ค่าที่พัก เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่เป็นอุปสรรคต่อการเก็บออมเงินมาก ๆ เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายเป็นก้อนที่ต้องจ่ายทุกเดือน โดยราคาค่าเช่าที่พักแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับ ทำเลที่ตั้ง สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ ลักษณะห้องว่าเป็นห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์หรือห้องเปล่า และอื่น ๆ ซึ่งราคาเฉลี่ยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 3,000-5,000 บาทขึ้นไป แต่เพื่อให้มีเงินเก็บ ราคาค่าที่พักต่อเดือนไม่ควรเกิน 20-30% ของรายได้

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 10000 ด้วยการประหยัดค่าเช่าที่พักอาจจะดูเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องทำงานในสถานที่ที่ไกลจากบ้าน เพราะราคาค่าที่พักส่วนใหญ่อยู่ที่ 3,000-5,000 บาทขึ้นไปแต่ 20-30% ของเงินเดือนนั้นคิดเป็นเงินเพียงแค่ 2,000-3,000 บาทเท่านั้น 

แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีเก็บเงินจากค่าที่พักเลยเสียทีเดียว ในที่นี้หากอยู่คนเดียว อาจจะหาห้องเช่าขนาดเล็กที่เป็นห้องพัดลมแทนราคาห้องแอร์ เพราะราคาห้องเช่าพัดลมส่วนใหญ่จะถูกกว่าห้องแอร์ หรือในกรณีที่ต้องการอยู่ห้องแอร์ก็อาจจะหาเพื่อนร่วมหารค่าห้องเพื่อลดค่าใช้จ่ายลง

แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกที่พักจะต้องคำนึงถึงเรื่องสภาพแวดล้อมและความปลอดภัยบริเวณรอบที่พักด้วย เพราะนั่นอาจส่งผลถึงความปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นหากพบที่พักราคาถูกมากแต่ดูเปลี่ยวและอันตราย ก็ควรที่จะพิจารณามองหาที่อื่นที่มีความปลอดภัยมากกว่าแทน

5. ส่วนเงินเก็บออม

“เงินออมยิ่งเยอะยิ่งดี” นั่นเป็นความคิดที่ไม่ผิด เพราะเงินออมที่เก็บมาก็เพื่อนำไปใช้ในเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นหากมีความพร้อม ไม่มีรายจ่ายเยอะ ก็สามารถเก็บเงินได้เยอะ แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนบางส่วนก็อาจจะไม่สามารถเก็บเงินได้เลย ในที่นี้หากต้องการมีเงินเก็บ สำหรับวิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 10000 ที่สามารถทำได้ทันที คือ การแบ่งเงินออมหลังจากที่ได้รับเงินเดือนทันที 

แล้วควรแบ่งเงินเก็บไว้เท่าไหร่ต่อเดือนดี? ในที่นี้วิธีเก็บเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือนจะขึ้นอยู่กับภาระของแต่ละคน เพราะบางคนอาจมีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากทำให้ในแต่ละเดือนมีรายจ่ายเยอะ หรือเมื่อลองคำนวณแล้วในเดือนหนึ่งมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เสริมเข้ามาเยอะกว่าปกติ ก็อาจจะเลือกเก็บอย่างต่ำเดือนละ 1,000 บาท ซึ่งนับว่าเป็นปริมาณเงินเก็บที่ไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป

สำหรับบางคนที่ไม่ได้มีสิ่งที่จำเป็นต้องรับผิดชอบมากและมีรายจ่ายจำเป็นน้อย ก็อาจจะเก็บเงินออมให้มากขึ้นจากเดิมก็ได้ โดยอาจจะเพิ่มจาก 1,000 เป็น 2,000-3,000 บาท เพื่อนำไปเป็นส่วนหนึ่งของเงินที่กำลังสะสมอยู่ให้เป็นก้อนที่ใหญ่ขึ้น

ตัวช่วยเก็บเงินที่ได้รับความนิยม

หนึ่งในตัวช่วยที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับวิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 10000 คือ การแยกสัดส่วนเงินที่ใช้หรือส่วนที่เก็บไว้อย่างชัดเจน ส่วนใหญ่หลาย ๆ คนมักจะเจอปัญหาไม่มีเงินเก็บ เพราะไม่ได้จัดระเบียบหรือแยกเงินที่ต้องใช้แต่ละส่วนไว้อย่างชัดเจน เลยเผลอหยิบเงินออมมาใช้ ทำให้ไม่มีเงินเก็บไว้ และอาจทำให้เงินไม่พอใช้ได้

ดังนั้นวิธีเก็บเงินจะช่วยให้มนุษย์เงินเดือนและคนทั่วไปที่อยากเก็บเงินสามารถแบ่งเงินเป็นสัดส่วนได้ง่ายขึ้น คือ การกำหนดเงินที่ต้องใช้ในแต่ละส่วนอย่างชัดเจน เช่น ในหนึ่งเดือนจะใช้เงินค่าอาหารไม่เกิน 2,000 บาท ค่าที่พัก 3,000 บาท ค่าเดินทางไม่เกิน 1,000 บาท ค่าสิ่งของจำเป็น 1,000 บาท ค่าของส่วนตัว 1,000 บาทและส่วนที่เหลือเป็นเงินเก็บ

วิธีเก็บเงินในที่นี้อาจจะทำในรูปของบันทึกรายรับรายจ่ายและพยายามถอนเงินเฉพาะส่วนที่ต้องใช้ในแต่ละเดือนเท่านั้น หรือการเปิดบัญชีแยกเงินเก็บกับเงินจ่ายก็จะช่วยให้เงินเก็บไม่ปนกับเงินจ่าย แต่ถ้าเป็นรู้สึกว่าวิธีดังกล่าวยุ่งยาก ในปัจจุบันก็มีแอปพลิเคชันที่สามารถแบ่งเงินให้เป็นสัดส่วนให้ใช้ตามความสะดวกด้วยเช่นกัน 

วิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 10000 เก็บอย่างไรให้ไม่ลำบาก

การเก็บเงินสำหรับผู้ที่มีรายได้ 10,000 ในยุคที่ค่าครองชีพสูงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเก็บไม่ได้เลย สำหรับผู้ที่ต้องการมีเงินเหลือเก็บในแต่ละเดือน ในที่นี้การนำวิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 10000 มาใช้ โดยการแบ่งเงินเดือนที่ได้เป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน เช่น แบ่งค่าใช้จ่ายจำเป็น ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เงินเก็บ ก็จะทำให้เห็นว่าในหนึ่งเดือนใช้จ่ายส่วนไหนบ้าง

เมื่อแยกเงินอย่างเป็นสัดส่วนให้เห็นชัดเจนว่าใช้เงินไปกับส่วนไหนบ้าง ก็ควรตั้งเป้าใช้เงินตามสัดส่วนที่แบ่งไว้อย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้เผลอใช้เงินไปกับส่วนใดส่วนหนึ่งมากเกินจนส่งผลทำให้เงินไม่พอใช้หรือไม่มีเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคตได้