รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ทำได้หรือไม่
การผ่อนรถยนต์นั้น ถือว่าเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่ลองมาจากหนี้บ้าน ซึ่งเมื่อผ่อนชำระเป็นเวลานานผู้กู้อาจเกิดปัญหาทางการเงิน ไม่ว่าจะด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูง และค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่ไม่เพียงพอต่อการผ่อนชำระ ดังนั้นหลายคนจึงเลือกที่จะรีไฟแนนซ์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน แต่หลายคนอาจสงสัยว่า จะสามารถรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดได้ไหม? ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปไขคำตอบกัน
รีไฟแนนซ์รถยนต์ คืออะไร
การรีไฟแนนซ์รถยนต์ คือการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนชำระไม่หมด หรือรถที่กำลังผ่อนชำระอยู่ ไปดำเนินการขอสินเชื่อกับธนาคารใหม่ เพื่อยืดระยะเวลาผ่อนต่อเดือนให้นานยิ่งขึ้น ผ่อนต่อเดือนน้อยลง โดยเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับตัวเอง ซึ่งในบางครั้งถ้าได้โปรโมชันดี ๆ จากธนาคารใหม่ก็อาจจะทำให้สามารถลดดอกเบี้ยลงได้อีกด้วย
รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดได้ไหม
หลายคนอาจสงสัยว่า จะสามารถรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดได้ไหม? สามารถตอบได้ว่าสามารถทำได้ เพราะความหมายของการรีไฟแนนซ์คือการนำรถยนต์ที่ยังผ่อนชำระไม่หมดเพื่อไปขอทำเรื่องกู้เงินกับธนาคารเจ้าใหม่ แต่หากเป็นการนำรถยนต์ที่ผ่อนชำระหมดแล้วไปทำการขอสินเชื่อ จะเป็นการกู้ที่เรียกว่า “สินเชื่อรถแลกเงิน”
โดยส่วนใหญ่ของการรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้น ควรจะทำหลังจากที่ผู้กู้ทำการผ่อนชำระมาเป็นเวลาอย่างน้อยประมาณครึ่งหนึ่งของระยะเวลาที่ผ่อนทั้งหมด สมมติว่าหากผ่อนชำระรถเป็นเวลา 4 ปี การที่ผู้กู้จะขอรีไฟแนนซ์ได้นั้นจะต้องผ่อนชำระเป็นเวลา 2 ปีขึ้นไป
รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ช่วยอะไรได้บ้าง
การรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ผ่อนไม่หมด จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ดังนี้
- ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระให้นานขึ้น โดยจะทำให้ผู้กู้สามารถผ่อนชำระหนี้ต่อเดือนในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น เช่น จากที่ต้องผ่อนชำระ 3 ปี อาจยืดระยะเวลาออกไปเป็น 4 ปี ทำให้ยอดชำระต่อเดือนน้อยลง
- ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน การรีไฟแนนซ์ คือสิ่งที่ทำมาเพื่อช่วยเหลือคนที่ต้องการจัดการปัญหาภาระทางการเงิน ซึ่งการรีไฟแนนซ์จะช่วยลดภาระการผ่อนชำระต่อเดือนของผู้กู้ให้น้อยลง ทำให้ผู้กู้สามารถมีเงินเหลือใช้พอที่จะไปจับจ่ายใช้สอยอื่น ๆ ที่จำเป็น
- ลดความเสี่ยงที่จะโดนยึดรถ การผ่อนรถยนต์เป็นเวลานาน หากผู้กู้เริ่มที่จะไม่สามารถรับภาระการผ่อนต่อเดือนได้ ไม่ว่าจะด้วยยอดผ่อน หรืออัตราดอกเบี้ยแต่ละงวดที่สูงเกินไป จนส่งผลให้ผู้กู้เกิดวิกฤติทางการเงิน ไม่สามารถผ่อนชำระตรงเวลา อาจทำให้รถยนต์ถูกธนาคารยึดได้ ดังนั้นการรีไฟแนนซ์จึงเข้ามาช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าว ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ให้เหมาะสมกับผู้กู้มากยิ่งขึ้น
ซึ่งหากใครที่ต้องการรีไฟแนนซ์รถแนะนำให้เข้าไปใช้บริการเปรียบเทียบโปรโมชันจากธนาคารชั้นนำฟรีและสมัครได้ที่ Refinn.com
การเตรียมตัวก่อนรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด
สำหรับใครที่ต้องการรีไฟแนนซ์รถยนต์เรามาเตรียมความพร้อมกันก่อนดีกว่าครับว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อให้ง่ายต่อการรีไฟแนนซ์รถยนต์
เอกสารที่ใช้สำหรับรีไฟแนนซ์รถ
เอกสารที่จำเป็นต่อการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ได้แก่
1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมบัตรประชาชนตัวจริง
2.สำเนาทะเบียนบ้าน
3.สำเนาทะเบียนรถยนต์ตัวจริง ที่ระบุชื่อเจ้าของรถอย่างชัดเจน
4.สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร ที่แสดงรายการเดินสมุดย้อนหลังเป็นเวลา 6 เดือน
5.หลักฐานที่แสดงที่มาของรายได้ เช่น ใบรับรองเงินเดือน, 50 ทวิ เป็นต้น
รถที่นำมาสมัครรีไฟแนนซ์รถ
รถที่สามารถนำมารีไฟแนนซ์ได้นั้น สามารถเป็นรถทั่วไปทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง 4 ประตู รถกระบะไปจนถึงรถ SUV ก็สามารถนำมาขอรีไฟแนนซ์ได้ โดยจะมีเงื่อนไข และการดำเนินการต่าง ๆ เหมือนกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์ แต่หากในกรณีที่รถเก่า หรือรถที่มีอายุมากเกิน 16 ปีขึ้นไป ธนาคารจะไม่รับรีไฟแนนซ์ หรืออาจให้ยอดวงเงินที่ค่อนข้างน้อย
คุณสมบัติของผู้รีไฟแนนซ์รถ
นอกจากการเตรียมเอกสาร และรถให้พร้อมสำหรับการรีไฟแนนซ์แล้ว สิ่งที่ผู้กู้ควรคำนึงคือคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อการรีไฟแนนซ์รถซึ่งมีดังนี้
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุระหว่าง 20 - 65 ปี
- มีรายได้เป็นประจำ หากเป็นพนักงานเอกชน หรือพนักงานราชการ จะต้องมีสลิป หรือหนังสือรับรองเงินเดือน หากเป็นฟรีแลนซ์ หรือประกอบอาชีพค้าขาย ให้ใช้เอกสารรับรองรายได้ เช่น หลักฐานการเสียภาษี, 50 ทวิ เป็นต้น
ขั้นตอนรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด
การรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด มีขั้นตอนไม่ต่างจากการรีไฟแนนซ์อื่น ๆ โดยมีการดำเนินการ ดังนี้
- ศึกษาข้อมูลการรีไฟแนนซ์ ก่อนที่จะทำการรีไฟแนนซ์ ผู้กู้ควรทำการศึกษาข้อมูลให้ดี เพื่อเตรียมความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการทำความเข้าใจถึงข้อดี ข้อเสียของการรีไฟแนนซ์ วงเงินที่จะได้รับ และเตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่ใช้ประกอบการรีไฟแนนซ์ให้พร้อม นอกจากนี้ควรเปรียบเทียบโปรโมชันของธนาคาร เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกธนาคารไหนในการรีไฟแนนซ์
- ติดต่อธนาคาร หรือสถาบันการเงินที่ต้องการรีไฟแนนซ์ หลังจากที่เตรียมเอกสาร และเลือกธนาคารที่ต้องการรีไฟแนนซ์ได้แล้ว ผู้กู้จะต้องดำเนินการเพื่อติดต่อกับทางธนาคารเพื่อขอทำเรื่องรีไฟแนนซ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของธนาคารจะให้กรอกเอกสาร และชี้แจงข้อมูล กระบวนการ และระยะเวลาในการอนุมัติ ให้เราทราบ
- รอผลอนุมัติ หลังจากทำเรื่องติดต่อธนาคารแล้วผู้กู้จะต้องรอผลอนุมัติ โดยทั่วไปจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3 - 7 วัน ในระหว่างนี้ทางธนาคารอาจทำการติดต่อเพื่อขอเอกสารเพิ่มเติม ให้รีบดำเนินการจัดส่งทันทีเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติเร็วยิ่งขึ้น
- ติดต่อกับธนาคารเก่าเพื่อปิดหนี้เก่า หลังจากที่ผู้กู้ได้รับการอนุมัติจากการรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่แล้ว จะต้องทำการติดต่อกับธนาคารเก่าเพื่อขอปิดหนี้ก้อนเดิมให้เรียบร้อย ในขั้นตอนนี้อาจต้องเสียค่าปรับ หรือค่าธรรมเนียมตามเงื่อนไขของธนาคารเดิม
- รับเอกสารการเปลี่ยนแปลงธนาคาร หลังจากที่ดำเนินการปิดหนี้เก่ากับธนาคารเก่าแล้ว ผู้กู้จะได้รับเอกสารที่แสดงถึงการรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ และสามารถเริ่มชำระหนี้กับธนาคารใหม่ได้เลย
รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดที่ไหนดี
การรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้น สามารถทำได้ทั้งกับธนาคารเก่า และธนาคารใหม่ แต่หลายคนอาจสงสัยว่าควรเลือกทำรีไฟแนนซ์รถที่ยังผ่อนไม่หมด กับที่ไหนดี โดยสามารถใช้เกณฑ์การตัดสินใจ ดังนี้
1. เลือกรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม หรือธนาคารใหม่ การรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้น ผู้กู้สามารถเลือกตัดสินใจได้ว่าจะดำเนินการกู้กับธนาคารเก่า หรือธนาคารใหม่ดี โดยเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายทั้งหมด เช่น อัตราดอกเบี้ยของที่เก่า หรือที่ใหม่ ที่ไหนให้ดอกเบี้ยถูกกว่ากัน รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการดำเนินการ เป็นต้น
สำหรับการรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่นั้น จะต้องมีการตรวจสอบเครดิตบูโรด้วย เพื่อเป็นการประเมินโดยธนาคารว่าสถานะทางการเงินของผู้กู้จะสามารถชำระหนี้ได้หรือไม่
2. พิจารณาจากค่าธรรมเนียมของธนาคารนั้น ๆ นอกจากการพิจารณาโปรโมชัน หรืออัตราดอกเบี้ยแล้ว อีกสิ่งที่ผู้กู้ควรพิจารณาในการรีไฟแนนซ์คือค่าธรรมเนียมในการรีไฟแนนซ์ ไม่ว่าจะเป็น ค่าธรรมเนียมการรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ หรือค่าปรับของธนาคารเก่าในกรณีที่ปิดหนี้ก่อนกำหนด ซึ่งผู้กู้ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้ดีก่อนทำการรีไฟแนนซ์
3. เปรียบเทียบเงื่อนไขของแต่ละที่ก่อนตัดสินใจ อย่างที่ทราบกันว่าแต่ละธนาคาร จะมีการใช้โปรโมชันเพื่อจูงใจให้คนอยากเข้ามารีไฟแนนซ์ บางธนาคารอาจให้ดอกเบี้ยราคาถูก หรือบางธนาคารอาจให้ระยะเวลาผ่อนที่ยาวนาน ดังนั้นก่อนรีไฟแนนซ์ผู้กู้ควรเปรียบเทียบโปรโมชันของแต่ละธนาคารให้ดี เพื่อให้ได้อัตราการผ่อนต่อเดือนที่เหมาะสมแก่ตนเองมากที่สุด
ซึ่งทางเว็บไซต์ Refinn ก็มาพร้อมบริการเปรียบเทียบโปรโมชันรีไฟแนนซ์ของแต่ละธนาคารแบบฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง โดยทางเว็บจะแนะนำธนาคารที่ให้วงเงินสูงสุด หรือดอกเบี้ยในราคาประหยัดที่สุด เพียงกรอกข้อมูลรถ และวงเงินที่ต้องการ เพียงคลิก www.refinn.com/รีไฟแนนซ์รถ
รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดไม่เช็คเครดิตได้ไหม
อีกหนึ่งข้อสงสัยยอดนิยมของการรีไฟแนนซ์รถยนต์คือ หากต้องการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ผ่อนไม่หมด โดยไม่เช็กเครดิตได้ไหม? คำตอบคือสามารถทำได้ โดยจะมีสถาบันการเงินบางแห่งที่รับรีไฟแนนซ์โดยไม่ตรวจเช็กเครดิต แต่ผลเสียคืออาจมีอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างแพงมากกว่าการรีไฟแนนซ์กับธนาคาร และค่อนข้างมีความน่าเชื่อถือน้อยกว่าสถาบันการเงิน หรือธนาคารทั่วไป ดังนั้นผู้กู้ควรศึกษาข้อมูล และเงื่อนไขให้ดี
สรุป
จะเห็นได้ว่าการรีไฟแนนซ์รถที่ยังผ่อนไม่หมดนั้น คือตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่กำลังผ่อนรถแล้วเกิดประสบปัญหาทางการเงิน เช่น ปัญหาเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่มีราคาสูงเกินไป หรือกำลังผ่อนต่อเดือนไม่เพียงพอ การรีไฟแนนซ์จะช่วยจัดการปัญหาอัตราผ่อนต่อเดือน เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง หรือขยายเวลาชำระหนี้ออกไป ทำให้คุณสามารถมีเงินเพียงพอที่จะไปใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็น และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินมากยิ่งขึ้น