แนะนำ 10 สุดยอด อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้าน ที่สายรักสุขภาพต้องมี!
ในยุคที่มีโควิด-19 เต็มไปหมดแบบนี้ จะออกจากบ้านไปไหนทั้งทีก็เป็นเรื่องที่เสี่ยง กิจกรรมหลายๆ อย่างที่เคยทำ ก็จำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงไปก่อน โดยเฉพาะสายรักสุขภาพอย่างเราๆ ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มๆ จะไปออกกำลังกายข้างนอก หรือจะไปฟิตเนสตอนนี้ก็เสี่ยง เพราะต้องเล่นเครื่องออกกำลังกายร่วมกับคนอื่นๆ จะใส่หน้ากากอนามัยออกกำลังกายก็ไม่ไหว หายใจไม่ทัน
การออกกำลังกายที่บ้าน จึงกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ เพราะนอกจากในแง่ของความสะดวกสบายแล้ว การออกกำลังกายที่บ้านยังช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดจากการติดต่อสัมผัสได้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าการออกกำลังกายที่บ้าน จะทำได้ก็ต้องมี “อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้าน” เป็นของคู่กัน ดังนั้น บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านว่ามีอะไรบ้างที่น่าสนใจ น่าสนุก เหมาะสำหรับการออกกำลังกายที่บ้านสไตล์สายรักสุขภาพอย่างพวกเรากัน
การออกกำลังกายที่บ้าน มีข้อดีอย่างไร
หลายคนส่วนใหญ่ มักจะออกกำลังกายกันข้างนอก ไม่ว่าจะออกกำลังกายที่สวนสาธารณะกับเพื่อนๆ หรือจะไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสก็ตาม แต่พอมาเจอสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้ ทำให้จำเป็นต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิตมาเป็นแบบ New Normal ซึ่งถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนมาออกกำลังกายที่บ้านก็ใช่ว่าจะไม่ดี เพราะจริงๆ แล้ว การออกกำลังกายที่บ้านก็มีข้อดีไม่แพ้การออกกำลังกายข้างนอกเลย โดยจะมีข้อดีหลักๆ ดังต่อไปนี้
1. ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
การออกกำลังกายที่บ้านจะทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องโควิด-19 มากนัก เนื่องจากของใช้ต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นที่นั่ง อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้าน ฯลฯ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของใช้ส่วนตัวของคุณหรือของคนในครอบครัว แตกต่างจากการออกกำลังกายข้างนอก ที่จะมีจุดที่ต้องใช้ร่วมกับผู้อื่นที่ไม่เคยรู้จักกัน เช่น ลิฟท์ ที่จับประตู ที่นั่ง และอีกมากมาย ซึ่งหากเราสามารถลดการสัมผัสสิ่งต่างๆที่มีความเสี่ยงได้ ก็จะช่วยให้การติดต่อเชื้อโควิด-19ลดลงเช่นกัน อีกทั้งการใช้ชุดอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย จึงทำให้สามารถหายใจระหว่างออกกำลังกายได้สะดวกและไม่ต้องกังวลเท่าตอนที่อยู่ข้างนอกนั่นเอง
2. ไม่เกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสภาพอากาศ
ไม่ว่าสภาพอากาศในวันนั้นจะเป็นอย่างไร การออกกำลังกายที่บ้านก็ยังสามารถทำได้โดยไม่หยุดชะงัก เพราะต่อให้จะร้อนระอุ จะฝนตกหนัก หรือน้ำท่วมถนน ก็ไม่มีผลกระทบต่อการออกกำลังกายของเรา เนื่องจากเราไม่จำเป็นต้องฝ่าสภาพอากาศแบบนี้ออกไปข้างนอก และการออกกำลังกายที่บ้านสามารถควบคุมเรื่องของอากาศได้ด้วยตนเอง เรียกได้ว่า ออกกำลังกายแบบที่ไม่มีอะไรมากั้นได้เลยทีเดียว
3. ช่วงเวลาในการออกกำลังกาย
เมื่อคุณซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านมา ก็จะทำให้อุปกรณ์มีอยู่ที่บ้านรอไว้อยู่แล้ว ทำให้เวลาในการออกกำลังกายมีความยืดหยุ่น สามารถออกกำลังกายเวลาไหนก็ได้ ตามที่คุณสะดวก เนื่องจากอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านจะกลายเป็นของใช้ส่วนตัวของคุณไปแล้วนั่นเอง
4. ความปลอดภัย
แน่นอนว่า ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญมาก การออกกำลังกายที่บ้านจะมีความปลอดภัยมากกว่า และสามารถดูแลผู้ใช้งานได้ง่ายกว่า เนื่องจากการใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้าน จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุ เช่น รถชน หกล้ม ฯลฯ อีกทั้งในกรณีที่ผู้ใช้งานมีโรคประจำตัว บุคคลใกล้ชิดในบ้านจะสามารถช่วยดูแลกันและกันได้สะดวกมากกว่า
5. ความเป็นส่วนตัว
การออกกำลังกายที่บ้านจะมีความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ถูกรบกวนโดยสิ่งอื่นๆได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ หรือจะต้องหาชุดสวยๆเพื่อใส่ออกไปข้างนอก เพราะการใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านจะทำให้เรามีอิสระในการจะทำอะไรก็ได้ภายใต้ขอบเขตของเรา
6. ค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่สำคัญ ซึ่งการซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านอาจมีค่าใช้จ่ายโดยรวมที่น้อยกว่า เพราะเราสามารถเลือกซื้อแค่เฉพาะอันที่ตนเองสนใจได้ และซื้อครั้งเดียวสามารถใช้ได้อีกยาวนาน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่นๆไปเรื่อยๆ เช่น ค่าสมาชิก ค่าชุดเสื้อผ้าในการใส่ไป เป็นต้น
7. กิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัว
กิจกรรมออกกำลังกายสามารถนำมากระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัวได้ เพราะการออกกำลังกายไม่ได้มีเพียงแบบเล่นคนเดียว แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่สามารถเล่นร่วมกันหลายๆคนได้ นอกจากจะได้สุขภาพที่ดีแล้ว ยังมีความสนุก ไม่น่าเบื่อ และสามารถใช้เป็นกิจกรรมร่วมกับครอบครัวได้อีกด้วย
เปรียบเทียบการออกกำลังกายที่บ้าน Vs ออกกำลังกายที่ฟิตเนส
จากที่ได้อ่านข้อดีของการออกกำลังกายที่บ้านกันไปแล้ว หลายๆ คนคงสงสัยว่า แล้วแบบนี้การออกกำลังกายที่บ้านจะแตกต่างจากการออกกำลังกายที่ฟิตเนสยังไง? ก็จะต้องบอกก่อนว่า ในความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายที่บ้าน หรือที่ฟิตเนส ต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้
- สภาพแวดล้อม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สภาพแวดล้อมก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้พฤติกรรมการออกกำลังกายมีความต่อเนื่อง หากคุณต้องการแรงบันดาลใจหรือแรงกระตุ้นในการออกกำลังกายแล้วหล่ะก็ การออกกำลังกายที่ฟิตเนสก็อาจจะดีกว่าในแง่มุมนี้ เพราะเมื่อไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส ก็จะทำให้คุณเจอคนที่เข้ามาออกกำลังกายเหมือนกัน ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่คนออกกำลังกาย อาจเป็นตัวกระตุ้นให้คุณออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่องมากกว่า ส่วนในแง่มุมของความสงบ ความสบาย การออกกำลังกายที่บ้านอาจจะตอบโจทย์มากกว่า แต่แน่นอนว่า เมื่อพอมีความสะดวกสบายมากขึ้น ก็อาจจะทำให้คุณต้องใช้พลังอย่างมาก ในการทำให้ตนเองลุกขึ้นมาออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง
- อุปกรณ์ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายที่ฟิตเนส อาจมีข้อดีตรงที่อุปกรณ์ในการออกกำลังกายค่อนข้างหลากหลายกว่า จึงทำให้ผู้ใช้งานไม่รู้สึกจำเจในการออกกำลังกาย แต่ในขณะเดียวกัน การออกกำลังกายที่บ้าน ก็มีข้อดีตรงที่ว่า อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านทุกชิ้นที่คุณซื้อมาจะเป็นของส่วนตัวของคุณ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่หลากหลายเท่าที่ฟิตเนส แต่ก็จะทำให้คุณสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้เลย ไม่ต้องรอให้เครื่องออกกำลังกายว่างถึงจะใช้งานได้ หรือในแง่ของความสะอาดของอุปกรณ์ก็จะทำให้คุณมั่นใจกับอุปกรณ์ที่บ้านมากกว่า เนื่องจากคุณเป็นผู้ที่ดูแลอุปกรณ์เหล่านี้ด้วยตนเอง
- เทรนเนอร์
การออกกำลังกายที่ฟิตเนส จะมีเทรนเนอร์คอยดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับคอร์สต่างๆ ส่วนการออกกำลังกายที่บ้าน คุณอาจจะต้องเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกายหรือสุขภาพด้วยตนเอง หรือถ้าหากคุณต้องการเทรนเนอร์ คุณอาจจะต้องจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวเอง
- ค่าใช้จ่าย
อย่างที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น การลงทุนซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านอาจทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมแล้วถูกกว่าการออกไปฟิตเนส เนื่องจากการซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้าน เป็นการซื้อขาด ทำให้จ่ายเงินครั้งเดียว แต่สามารถใช้งานได้ยาวๆ แตกต่างจากการออกกำลังกายที่ฟิตเนส ที่อุปกรณ์ต่างๆ จะไม่ใช่ของเรา เราจำเป็นต้องสมัครสมาชิก เสียค่าบริการต่างๆ เพื่อเข้าไปใช้งาน อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ต้องมีการจ่ายออกไป ขณะที่ออกไปข้างนอกอีกด้วย เช่น เรื่องของเสื้อผ้า ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เป็นต้น
- ความรู้สึก
การออกกำลังกายที่ฟิตเนสอาจลดความเครียดได้มากกว่าที่บ้าน เนื่องจากเวลาที่เราออกมาข้างนอก ทำให้เราได้สัมผัสเห็นวิวทิวทัศน์รอบๆ ที่หลากหลายกว่า ทำให้ไม่ค่อยรู้สึกเหงามากนัก แต่การออกกำลังกายที่บ้าน จะมีข้อดีกว่าสำหรับคนที่ต้องการความสงบ ความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบการที่ต้องเจอผู้คนเยอะๆ และไม่ชอบความวุ่นวาย
- เวลา
การออกกำลังกายที่บ้านจะมีเวลาที่ยืดหยุ่นกว่าการออกกำลังกายที่ฟิตเนส เพราะการเดินทางไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสจะต้องไปตามระยะเวลาที่มีการเปิด-ปิดเท่านั้น แต่การออกกำลังกายที่บ้าน จะสามารถใช้งานในเวลาใดก็ได้ตามที่ต้องการ
- การเลือกอุปกรณ์ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายที่บ้านจะสามารถเลือกซื้อเครื่องที่เหมาะสมกับตนเองได้ เช่น รูปแบบ สีที่ชอบ ฯลฯ สามารถเลือกและปรับตามความต้องการหรือการใช้งานของเราเองได้เลย ส่วนการออกกำลังกายที่ฟิตเนส จะไม่สามารถเลือกได้ เนื่องจากอุปกรณ์เป็นของส่วนรวม
10 อันดับ อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านยอดนิยม แห่งปี 2021
เข้าสู่ช่วงที่ทุกคนรอคอยกับ “10 อันดับ อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านยอดนิยม” เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและสามารถใช้งานได้หลากหลายที่สุด ก่อนที่คุณจะทำการเลือกซื้อ เรามาดูกันก่อนดีกว่า ว่าปกติแล้ว อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านมีอะไรบ้าง แล้วมีอันไหนที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย
อันดับที่ 1 เชือกกระโดด
“เชือกกระโดด” เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้าน ที่มีความสะดวกในการเก็บและพกพาอุปกรณ์เป็นอย่างมาก ใช้งานได้ง่าย ราคาไม่แพง ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ แถมยังให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่แพ้อุปกรณ์อื่นๆ การกระโดดเชือก เป็นการที่อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายเราจะต้องมีการทำงานประสานกันในระหว่างที่มีการกระโดด ไม่ว่าจะเป็น ตา มือ แขน ขา สมาธิ การทรงตัว ประสาทสัมผัส จึงทำให้การกระโดดเชือกเปรียบเหมือนการที่ค่อยๆ ฝึกให้อวัยวะหลายๆ ส่วนเหล่านี้ทำงานประสานกันได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นวิธีที่มีความสนุก ช่วยในเรื่องของการที่ทำให้รูปร่างกระชับสมส่วน แถมยังช่วยเผาผลาญได้มากๆ อีกด้วย โดยอุปกรณ์เชือกกระโดดมีข้อดี ดังนี้
- ช่วยทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง
- สามารถช่วยลดไขมันบริเวณหน้าท้องและกล้ามเนื้อลำตัวได้เร็วขึ้น
- เมื่อกระโดดเชือกอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยทำให้การทรงตัวดีและสมดุลยิ่งขึ้น
- สามารถเร่งการเผาผลาญแคลอรี่ได้
- รูปร่างกระชับ ทำให้การเคลื่อนไหวคล่องตัวมากขึ้น
แน่นอนว่าการเลือกซื้ออุปกรณ์เชือกกระโดดก็จำเป็นจะต้องพิจารณาถึงคุณภาพ ความเป็นมาตรฐาน ความแข็งแรงทนทาน มีความยาวและน้ำหนักเชือกที่เหมาะสมกับเรา มีด้ามจับ และตัวหมุนที่ดี แถมที่สำคัญ คุณภาพที่ได้จะต้องสมราคาด้วย ซึ่งทางเราจะขอแนะนำตัวอย่างเชือกกระโดดที่มีดีไซน์สวยทันสมัย และมีการออกแบบในแง่ของการใช้งานที่ดี อย่างเช่น
Bebe Fit Routine Speed Rope
- วัสดุ สายเชือกทำจากลวดเหล็กหุ้มด้วยพีวีซี มีความหนา 0.2 เซนติเมตร ความยาว 3 เมตร และ ด้ามจับทำจากอลูมิเนียมผสมอัลลอย มีความกว้าง 2 เซนติเมตร ความยาว 15 เซนติเมตร
- คุณสมบัติ แกนหมุนเป็นแบบSpin ตัวล็อกมีลักษณะแบบหัวน็อต ตัวเชือกสามารถปรับวัดและตัดให้เหมาะสมกับความสูงของผู้ใช้งานได้ มีถุงผ้าสำหรับการจัดเก็บเชือกกระโดด มีรับประกันความเสียหายของสินค้า 30 วัน
- ข้อดี เนื่องจากแกนหมุนเป็นแบบ Spin จึงทำให้การหมุนเชือกระหว่างกระโดดควบคุมได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องใช้แรงเหวี่ยงมาก ไม่ติดขัด สามารถปรับความยาวเชือกได้ ด้ามจับมีน้ำหนักเบา ดีไซน์ค่อนข้างสวยงาม มีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีชมพู สีดำ สีเงิน เหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่และผู้ที่เป็นมืออาชีพ
- ราคา 790 บาท รวมจัดส่ง
อันดับที่ 2 ฮูล่าฮูป
ฮูล่าฮูป เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านที่เป็นแบบ Cardio Workout ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่คนทั่วไปรู้จัก และมีความสนุก เพลิดเพลินในการใช้งานเป็นอย่างมาก ฮูล่าฮูปเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พื้นที่ในการจัดเก็บไม่มากนัก สามารถเล่นในพื้นที่ไม่มากได้ และยังมีข้อดีอื่นๆ อีก ดังต่อไปนี้
- ช่วยในการเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ ทำให้สามารถนำมาเป็นวิธีในการลดความอ้วนได้
- น้ำหนักลดลง สัดส่วนดูกระชับขึ้น โดยเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องและส่วนหลัง
- อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มสูงขึ้น ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายดีขึ้น
- สามารถเป็นกิจกรรมที่ไว้สร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัวได้
- ราคาไม่แพง พกพาได้สะดวก
- ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับปรุงท่าทางและความสมดุลของร่างกายได้
ซึ่งการเลือกฮูล่าฮูป ก็จำเป็นต้องพิจารณาในเรื่องของขนาดที่มีความเหมาะสมกับตัวผู้เล่น น้ำหนักของห่วง และอื่นๆ ซึ่งทางเราก็มีตัวอย่างฮูล่าฮูปดีๆ มาให้ชมกัน
Hula Hoop JASON รุ่น Fitness hula hoop JS0533
- วัสดุ ทำมาจาก พลาสติกPP และโฟม PU ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 100 เซนติเมตร น้ำหนัก 1.2 กิโลกรัม
- คุณสมบัติ สามารถถอดประกอบได้ มีการออกแบบเป็นลักษณะคลื่น ผ่านมาตรฐาน CE จากยุโรป
- ข้อดี เนื่องจากวัสดุ การออกแบบต่างๆผ่านมาตรฐาน CE จากยุโรป จึงทำให้รับรองได้ว่ามีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม ราคาไม่แพงมาก วัสดุมีผิวสัมผัสที่ไม่นิ่มและไม่แข็งจนเกินไป จึงทำให้สามารถเล่นได้อย่างต่อเนื่อง และเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
- ราคา 790 บาท
อันดับที่ 3 เสื่อโยคะ
ถึงแม้ว่าหลายๆคนจะเรียกว่า เสื่อโยคะ แต่แท้ที่จริงแล้ว ไม่ได้มีไว้เพื่อเล่นโยคะเพียงอย่างเดียว เพราะเสื่อโยคะก็ถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านที่มีความอเนกประสงค์ สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแบบบอดี้เวท หรือฟิตเนส ก็สามารถใช้งานได้ อีกทั้งยังมีข้อดีมากมาย ได้แก่
- ช่วยลดแรงกด แรงกระแทกได้ดี
- ลดความเสี่ยงในการลื่นขณะออกกำลังกายได้
- ลดความเจ็บที่อาจเกิดขึ้นขณะออกกำลังกาย
- เป็นอุปกรณ์ที่พกพาสะดวก ดูแลทำความสะอาดง่าย
โดยวิธีการเลือกเสื่อโยคะที่ดีและคุ้มค่า จะต้องพิจารณาในเรื่องของ วัสดุ ความหนา พื้นผิวของเสื่อโยคะ และขนาดเหมาะสมกับผู้ใช้งาน ซึ่งทางเราก็จะขอแนะนำตัวอย่างของเสื่อโยคะที่ดี เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกซื้อของทุกคน ดังนี้
เสื่อโยคะ Bebe Fit Routine
- วัสดุ ทำมาจากยางพาราธรรมชาติ มีขนาดความกว้าง 68 เซนติเมตร ความยาว 183 เซนติเมตร และความหนา 5 มิลลิเมตร บริเวณหน้าเสื่อทำจากวัสดุหนังกลับ คล้ายพรม
- คุณสมบัติ มีความยืดหยุ่นสูง พื้นผิวนิ่ม คงสภาพได้ สามารถกันน้ำและกันเหงื่อได้ดี มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีชมพูเข้ม สีชมพูอ่อน และสีเทาอมม่วง มีการรับประกันความเสียหายของสินค้า 30 วัน
- ข้อดี จากวัสดุที่ใช้ ทำให้เสื่อโยคะมีความทนทาน สามารถรองรับการกระแทกและป้องกันการบาดเจ็บได้ดี ถึงแม้ว่าเหงื่อจะออกก็ไม่ลื่น เนื่องจากซึมซับเหงื่อได้ดีและมีความหนึบ
- ราคา 1,790 บาท
อันดับที่ 4 ลูกบอลโยคะ
ลูกบอลโยคะ หรือบางคนอาจจะเรียกว่า ลูกบอลพิลาทิส หรือลูกบอลออกกำลังกาย เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่มีลักษณะเป็นลูกบอล ทำมาจากวัสดุยาง PVC จึงทำให้เมื่อมีการเติมลมเข้าไปแล้วจะทำให้มีความยืดหยุ่นสูง ทนทาน และยังมีข้อดีอื่นๆ อีก ดังนี้
- สามารถใช้สร้างการฝึกที่มีความหลากหลายได้ เช่น การฝึกกล้ามหน้าท้อง ฝึกความยืดหยุ่น ฝึกกล้ามเนื้อขา
- สามารถรองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้ดี พื้นผิวไม่ทำให้เกิดการลื่นขณะใช้งาน
- ช่วยกระชับในส่วนของหน้าท้อง สะโพก ต้นขา ได้
- สามารถใช้ง่ายได้ง่าย และใช้พื้นที่ในการออกกำลังกายไม่มาก
- เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย รวมไปจนถึง ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ผู้ที่อยู่ในระหว่างกระบวนการการทำกายภาพบำบัด
การเลือกลูกบอลโยคะ ควรเลือกขนาดที่มีความเหมาะสมพอดีกับผู้ใช้งาน หรือหากบุคคลใดมีพื้นที่ในการจัดเก็บไม่มาก ก็แนะนำว่าให้เลือกลูกบอลโยคะที่มีขนาดเล็กๆมาก่อน เพื่อนำไปประยุกต์กับกิจกรรมอื่นๆได้ โดยทางเรามีตัวอย่างของลูกบอลโยคะที่ดี มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน
BEBE Fit Routine Pilates Ball (เบเบ้ฟิตรูทีน พิลาทิสบอล)
- วัสดุ ทำมาจากพลาสติก PVC มีขนาด 3 X 10 X 10 เซนติเมตร น้ำหนัก 150 กรัม
- คุณสมบัติ มีความยืดหยุ่นสูง แข็งแรง ทนต่อแรงกดทับได้ดี มีหลอดและจุกมาให้เพื่อใช้ในการเติมลม รับประกันความเสียหายของสินค้าได้ 30 วัน
- ข้อดี มีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก ทำให้พกพาได้สะดวก สามารถนำไปใช้ประยุกต์ร่วมกับกิจกรรมอื่นๆ ได้ เหมาะสำหรับทั้งการออกกำลังกายแบบ Body weight training, YOGA, Pilates
- ราคา 290 บาท
อันดับที่ 5 เครื่องออกกำลังกาย Air Walker
เครื่องออกกำลังกาย Air Walker เป็นเครื่องออกกำลังกายที่บ้านที่มีลักษณะเหมือนการเดินบนอากาศ กล่าวคือ ตัวเครื่องจะมีแป้นลอยที่ไว้รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งาน จากนั้นให้ผู้ใช้งานจับแฮนด์และทำการเดินแบบปกติ ซึ่งเครื่องออกกำลังกาย Air Walker นี้ มีข้อดีต่างๆ ดังนี้
- ลดแรงกระแทกตามข้อต่อของร่างกาย
- สามารถบริหารได้หลากหลายท่าในเครื่องเล่นเดียว
- ใช้ในการลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วนได้
- การเลือกเครื่องออกกำลังกาย Air Walker ควรเลือกจากวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน และอาจจะมีฟังก์ชั่นเสริมอื่นๆ ที่เหมาะสำหรับการใช้งานของแต่ละบุคคล โดยทางเราได้นำตัวอย่างของเครื่องออกกำลังกาย แบบ Air Walker มาให้ชมกัน
- วัสดุ ทำมาจากเหล็ก มีขนาด 50 X 77 X 130 เซนติเมตร มีน้ำหนัก 15 กิโลกรัม
- คุณสมบัติ เนื่องจากโครงสร้างทำมาจากเหล็ก จึงทำให้ผู้ใช้งานสามารถดูแลรักษาได้ไม่ยาก มีล้อสำหรับความสะดวกในการเคลื่อนย้าย มีหน้าจอLED สำหรับการแสดงผลขณะใช้งาน และมีเชือกดึงสายแรงต้านให้ฟรีจำนวน 1 เส้น เครื่องออกกำลังกายนี้สามารถรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้ถึง 100 กิโลกรัม มีการรับประกันคุณภาพสินค้า 1 ปี
- ข้อดี เป็นเครื่องออกกำลังกายที่สามารถช่วยกระชับกล้ามเนื้อเอว สะโพก ต้นแขน ต้นขา และหน้าท้องได้ อีกทั้งยังทำให้การหมุนเวียนโลหิตและกล้ามเนื้อหัวใจดีขึ้น
- ราคา 4,990 บาท
อันดับที่ 6 บาร์โหนติดประตู
บาร์โหนติดประตู เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านที่มีคนใช้ค่อนข้างมาก เพราะด้วยเอกลักษณ์ที่สามารถติดตั้งได้แม้มีพื้นที่จำกัด โดยไม่ต้องเจาะให้ยุ่งยาก แถมอุปกรณ์ก็น้อยชิ้น สามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจในการใช้งานได้ไม่ยากอีกด้วย ซึ่งบาร์โหนติดประตู มีข้อดีมากมาย ดังต่อไปนี้
- สามารถช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าอก ไหล่ หลัง แขน และหน้าท้อง
- สามารถสร้าง SIX PACK ได้
- ประยุกต์ท่าในการเล่นได้หลากหลาย
- เพิ่มความแข็งแรงของข้อต่อต่างๆภายในร่างกาย
- ช่วยปรับในเรื่องของบุคลิกภาพให้มีหลังที่ตรงขึ้น
ซึ่งหากจะเลือกบาร์โหนติดประตูสักอัน ควรเลือกอันที่ได้มาตรฐาน มีความแข็งแรง ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน และมีความสะดวกในการจัดเก็บ โดยทางเราก็มีตัวอย่างแนะนำมาให้ทุกคนได้ชมกัน ดังนี้
Bebe Fit Routine Pull Up Bar
- วัสดุ แกนเหล็กแท้ ขนาด 25 X 1.5 มิลลิเมตร มีน้ำหนัก 1.85 กิโลกรัม สามารถปรับขนาดได้ตั้งแต่ 70-100 เซนติเมตร ด้ามจับเป็นแบบบุฟองน้ำหนา มียางยึดที่ปลายทั้ง 2 ด้าน
- คุณสมบัติ บาร์โหนติดประตู มีความแข็งแรง ทนทาน มีกลไกในการล็อกไม่ให้แกนคลายหรือหมุนเมื่อมีการใช้งาน สามารถรองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้ถึง 136 กิโลกรัม
- ข้อดี มีข้อมูลขั้นตอนในการติดตั้งอุปกรณ์ให้ สามารถยึดติดกับผนังได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ผนังซีเมนต์ โถงทางเดิน ฯลฯ มีวัสดุป้องกันการลื่นไถลที่ปลายของทั้ง 2 ด้านอุปกรณ์
- ราคา 1,100 บาท
อันดับที่ 7 จักรยานออกกำลังกายที่บ้าน
จักรยานออกกำลังกายที่บ้าน เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านที่คนส่วนใหญ่มักนิยมใช้ เนื่องจากการปั่นจักรยานออกกำลังกาย ช่วยให้สามารถเผาผลาญได้ดีมาก และมีประโยชน์มากมาย ดังต่อไปนี้
- เพิ่มการเผาผลาญไขมันส่วนเกินของร่างกาย จึงทำให้ช่วยในเรื่องการลดความอ้วนได้
- ช่วยกระตุ้นระบบหัวใจ ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหายใจ ให้ทำงานได้ดีขึ้น
- กล้ามเนื้อส่วนต่างๆดูกระชับและได้สัดส่วนมากขึ้น
- ทำให้ประสิทธิภาพในการนอนหลับดีขึ้น
- ใช้งานได้ง่ายและไม่ซับซ้อน
- ไม่มีแรงกระแทกที่อาจส่งผลต่อข้อเข่า หรือข้อกระดูกต่างๆ
- เหมาะสำหรับบุคคลหลากหลายช่วงวัย
แต่อย่างไรก็ตาม จักรยานออกกำลังกายที่บ้าน เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาหลากหลายองค์ประกอบมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ วัสดุ ประเภทของจักรยาน น้ำหนัก ระบบแรงต้าน ฟังก์ชั่นต่างๆ เป็นสิ่งที่อาจส่งผลต่อการปั่นจักรยานออกกำลังกายทั้งสิ้น จึงจำเป็นต้องเลือกให้เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานให้มากที่สุด โดยขอแนะนำจักรยานออกกำลังกายที่บ้านที่มีคุณสมบัติที่ดี มาเป็นตัวอย่างให้สำหรับผู้ที่กำลังตามหาหรือสนใจอยู่ตามด้านล่างนี้
Bebe Fit Routine Spinning Bike Limited Edition
- วัสดุ เหล็กหนามาตรฐาน พ่นสีเคลือบกันสนิม มีขนาด 56.5 X 131 X 132 เซนติเมตร น้ำหนักโดยรวม 53 กิโลกรัม
- คุณสมบัติ จักรยานออกกำลังกายมีแฮนด์จับสามารถปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งหนานุ่ม สามารถปรับระดับสูงต่ำได้ถึง 17 ระดับ ระดับความหนืดปรับได้ 5 ระดับ มีช่องไว้สำหรับวางขวดน้ำและโทรศัพท์ มียางกันรอยและล้อเลื่อนสำหรับเคลื่อนย้ายตัวเครื่อง มีหน้าจอ LCD ในการแสดงผล ระยะทาง ความเร็ว แคลอรี่ และอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย โดยการวัดชีพจรจะเป็นแบบมือสัมผัส (Hand Pulse)
- ข้อดี มีดีไซน์สวยงาม ที่บันไดปั่นมีสายรัดเท้าเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน วัสดุมีความแข็งแรง ทนทาน มี Bebe Fit Routine Spinning Bike Program (โปรแกรมฟิตหุ่นด้วยจักรยานออกกำลังกาย) มูลค่า 1,500 บาท ให้ฟรี
- ราคา 29,900 บาท
อันดับที่ 8 ลู่วิ่งออกกำลังกายไฟฟ้า
ลู่วิ่งออกกำลังกายไฟฟ้า คือการออกกำลังกายบนสายพาน ที่เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้าน ซึ่งช่วยในการคาร์ดิโอได้ง่ายที่สุด โดยมีข้อดีดังต่อไปนี้
- สามารถควบคุมน้ำหนักได้ดี รูปร่างกระชับและได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น
- เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านที่ใช้พลังงานเป็นอย่างมาก
- เหมาะสำหรับบุคคลที่มีโรคกระดูกพรุน มีอาการปวดหลัง หรือความดันโลหิตสูง
- การจะเลือกลู่วิ่งออกกำลังกายไฟฟ้านั้น จะต้องพิจารณาจาก มอเตอร์ ขนาดของสายพาน ความเร็วสูงสุดที่ตัวเครื่องสามารถทำได้ การปรับระดับความชัน มีฟังก์ชั่นเพิ่มเติมต่างๆ มาให้ในจอแสดงผล ฯลฯ ซึ่งทางเราก็มีตัวอย่างมาให้ทุกคนได้ชมกัน
MERRIRA รุ่น MX-1000
- วัสดุ ไม่ระบุในเรื่องของวัสดุ มีขนาดความกว้าง 58 เซนติเมตร ความยาว 145 เซนติเมตร
- คุณสมบัติ มอเตอร์DC มีกำลังสูงสุด 5 แรงม้า สามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 150 กิโลกรัม ปรับความเร็วได้ 1-22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปรับความชันได้ถึง 20 ระดับ มีโปรแกรมการออกกำลังกายมากถึง 16 โปรแกรม
- ข้อดี ลู่วิ่งออกกำลังกายสามารถพับเก็บขึ้นลงได้ มีระบบหยอดน้ำมันและแจ้งเตือนในการหยอดน้ำมันทุก 50 กิโลเมตร มีหน้าจอการแสดงผล LED เรื่อง เวลา ความเร็ว ระยะทาง แคลอรี่ และชีพจร อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อเพื่อเล่น ZWIFT ซึ่งเป็นเกมส์วิ่งเสมือนจริงกับผู้เล่นทั่วโลกได้อีกด้วย
- ราคา 59,990 บาท
อันดับที่ 9 ดัมเบล บาร์เบล
ดัมเบล บาร์เบล คืออุปกรณ์ลูกน้ำหนักอิสระที่ช่วยทำให้เกิดมัดกล้ามเนื้อสวยๆได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน โดยในความเป็นจริงแล้ว ดัมเบลและบาร์เบลมีความแตกต่างกัน คือ ดัมเบลจะมีลักษณะเป็นคานเล็กๆ ที่มีลูกตุ้มเหล็กอยู่ที่ปลายของทั้ง 2 ข้าง สามารถยกได้ด้วยมือข้างเดียว ใช้สำหรับการออกกำลังกายเฉพาะส่วนได้ ส่วนบาร์เบลจะมีลักษณะที่มีความยาวมากกว่า มีลูกตุ้มเหล็กอยู่ที่ปลายของทั้ง 2 ข้างเช่นกัน แต่จำเป็นจะต้องใช้ 2 มือในการยกบาร์เบลขึ้นมา และมีการใช้กล้ามเนื้อมากกว่าดัมเบล ซึ่งมีข้อดีดังนี้
- สามารถสร้างกล้ามเนื้อที่สวยงาม เพื่อให้มีบุคลิกภาพที่ดูดีขึ้นได้
- สามารถใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย หากปรับระดับน้ำหนักที่มีความเหมาะสม
- ทำให้กล้ามเนื้อกระชับ หุ่นดีสมส่วนตามที่ต้องการ
- ซึ่งการเลือกซื้อดัมเบลหรือบาร์เบลนั้น จำเป็นจะต้องพิจารณาถึง วัตถุประสงค์ในการใช้งาน ความต้องการของผู้ใช้งาน น้ำหนักของดัมเบลหรือบาร์เบลที่มีความพอดี จำนวนครั้งที่ยกได้ ที่มีเหมาะสมกับตนเอง และทางเราขอแนะนำอุปกรณ์ที่สามารถใช้แทนดัมเบลได้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่กำลังสนใจ
Bebe Fit Routine Freeform Wrist Weights
- วัสดุ ทำมาจากซิลิโคนเกรดคุณภาพ ขนาด 70 เซนติเมตร น้ำหนักข้างละ 0.5 กิโลกรัม
- คุณสมบัติ เป็นอุปกรณ์เวทเทรนนิ่ง ใช้สำหรับพันข้อมือและข้อเท้าเพื่อถ่วงน้ำหนัก พื้นผิวของอุปกรณ์มีลักษณะอ่อนนุ่ม สามารถใช้แทนดัมเบลได้
- ข้อดี ใช้งานได้ง่าย สามารถปรับขนาดตามข้อมือและข้อเท้าของแต่ละบุคคลได้โดยไม่เจ็บขณะออกกำลังกาย กันน้ำและกันเหงื่อได้ดี มีกระเป๋าผ้าในการจัดเก็บให้
- ราคา 990 บาท
และอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สามารถใช้แทนบาร์เบลได้ นั่นก็คือ
Bebe Fit Routine Body Step
- วัสดุ ทำมาจากพลาสติก PP และ PE เกรดสูง มีขนาด 78 X 28 X 20 เซนติเมตร น้ำหนักทั้งหมด 10 กิโลกรัม
- คุณสมบัติ เป็นอุปกรณ์ที่สามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลายในการฝึก ไม่ว่าจะเป็นการฝึกแบบ Cardio หรือ Weight Training ก็สามารถใช้อุปกรณ์นี้แทนเก้าอี้บาร์เบลได้ หรือจะใช้เป็นเก้าอี้ฟิตเนสปรับระดับก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะอุปกรณ์นี้ สามารถปรับระดับความสูงได้ 3 ระดับ ซึ่งสูงสุดอยู่ที่ 20 เซนติเมตร ผิวหน้าและฐานด้านล่างมีวัสดุกันลื่น สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 150 กิโลกรัม
- ข้อดี อุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว สามารถฝึกได้หลายท่า หลากหลายรูปแบบการฝึก เป็นอุปกรณ์ที่ทุกคนภายในครอบครัวสามารถเล่นได้
- ราคา 1,990 บาท
อันดับที่ 10 ลูกกลิ้งบริหารหน้าท้อง
ลูกกลิ้งบริหารหน้าท้อง หรือ ลูกกลิ้งออกกำลังกาย เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้าน ที่สามารถเล่นในพื้นที่จำกัดได้ ใช้งานได้ง่ายมาก สามารถบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องได้ด้วยตนเอง และยังมีข้อดีอื่นๆอีกมากมาย ดังนี้
- ทำให้บริเวณหน้าท้องกระชับขึ้น
- บรรเทาอาการปวดหลังและปวดคอได้
- ใช้พื้นที่ในการใช้งานไม่มาก
- ทำให้มีหุ่นที่ดีขึ้น สัดส่วนต่างๆกระชับขึ้น
- การเลือกซื้อลูกกลิ้งบริหารหน้าท้อง จะต้องพิจารณาจาก ความแข็งแรงของวัสดุ ด้ามจับ แผ่นรองเข่า และอื่นๆที่มีความเหมาะสมกับตัวผู้ใช้งาน โดยทางเราก็ได้ทำการหาข้อมูล และขอแนะนำเครื่องบริหารหน้าท้องดีๆ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
Bebe Fit Routine 2in1 Roller x Handles
- วัสดุ ทำมาจาก PP TPE และ NBR มีขนาดความกว้าง 20 เซนติเมตร ความยาว 17 เซนติเมตร และความสูง 10 เซนติเมตร มีแผ่นรองเข่าแบบหนา ขนาดความกว้าง 17.2 เซนติเมตร ความยาว 34.7 เซนติเมตร และมีความสูง 0.5 เซนติเมตร
- คุณสมบัติ มีล้อหมุนข้างละ 4 ล้อ ช่วยในเรื่องของการรองรับน้ำหนักตัวได้ดีขึ้น สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 300 กิโลกรัม มีฟังก์ชั่นการใช้งาน 2 อย่าง ได้แก่ 1.ฟังก์ชั่นมือจับวิดพื้น สำหรับการกระชับกล้ามเนื้อลำตัวช่วงบน หน้าอก ไหล่ ต้นแขน และ 2. ฟังก์ชั่นเปิดลูกล้อออกมาจากด้ามจับ สำหรับการฝึกกล้ามท้องและกระชับส่วนลำตัว หรือใช้สำหรับการลดพุงนั่นเอง
- ข้อดี เป็นการที่ซื้ออุปกรณ์เพียง 1 ชิ้น แต่ได้ฟังก์ชั่นมา 2 แบบ ถือว่ามีความคุ้มค่า และตัวด้ามจับมีการออกแบบมาเพื่อช่วยรองรับแรงกด แรงกระแทก อุปกรณ์สามารถพกพาได้สะดวก
- ราคา 890 บาท
ข้อควรระวังในการออกกำลังกายที่บ้าน
เมื่อมีการใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้าน สิ่งที่ควรระวัง มีดังนี้
- ดูสภาพแวดล้อมโดยรอบให้เหมาะสมสำหรับการใช้งาน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เช่น หากต้องการใช้เชือกกระโดดออกกำลังกาย ควรเลือกพื้นที่ที่ใช้งานแล้วจะไม่โดนสิ่งของอื่นๆ
- หากมีการเรียนรู้ด้วยตนเอง เช่น การเปิดวีดิโอสอนออกกำลังกายใน Youtube ดู ควรสังเกตถึงท่าทาง ลักษณะการกระทำของตนเอง ว่ามีความถูกต้องหรือไม่ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บเกิดขึ้น
- ควรมีการวอร์มอัพ หรือการยืดกล้ามเนื้อทุกครั้ง ก่อนและหลังการออกกำลังกาย
- ควรเลือกอุปกรณ์ และลักษณะการออกกำลังกายที่มีความเหมาะสมกับตนเอง ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหักโหมจนเกินไป
- ในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บเกิดขึ้น ไม่ควรออกกำลังกายต่อ ให้ทำการประคบเย็นในเบื้องต้น จากนั้นเฝ้าดูอาการ หากไม่ดีขึ้น ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการ
- หากวันใด ร่างกายเกิดไม่สบาย ไม่แนะนำให้ทำการออกกำลังกาย
- สำหรับผู้สูงอายุ หากต้องการที่จะออกกำลังกาย ควรเริ่มจากการออกกำลังกายเบาๆก่อน แล้วค่อยๆเพิ่มให้หนักขึ้น เมื่อเกิดความชินหรือความชำนาญแล้ว
- หากออกกำลังกายเกินขีดจำกัดของตนเอง แล้วมีอาการที่อาจจะแสดงว่าคุณเริ่มที่จะไม่ไหว ไม่แนะนำให้ฝืนเล่นต่อ ควรหยุดพักการออกกำลังกาย เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
ข้อสรุป ‘อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้าน’
สรุปก็คือ อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้าน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่เหมาะสำหรับในยุคโควิด-19 มากที่สุด เนื่องจากการใช้ชีวิตของหลายๆ คนในตอนนี้ ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นวิถี New Normal จึงทำให้การออกกำลังกายที่บ้านค่อนข้างตอบโจทย์
อีกทั้งอุปกรณ์ในการออกกำลังกายที่บ้านมีมากมายหลากหลายชนิด และมีประโยชน์ที่ค่อนข้างมาก หากผู้ใช้งานสามารถเลือกประเภทได้เหมาะสม ตรงกับความต้องการของตัวเอง ก็อาจจะทำให้ผลลัพธ์ในการออกกำลังกายดีไม่แพ้รูปแบบการออกกำลังกายข้างนอกบ้านเลยก็เป็นได้