มูลนิธิพัฒนาเครื่องมือแพทย์ไทย ฯ…สานต่อพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ 9มอบเครื่องไบโอพลาสมา เครื่องแรกในประเทศไทย ผลิตโดยฝีมือคนไทยศิริราชนำร่อง รักษาแผลเรื้อรังแผลกดทับและแผลเบาหวาน
มูลนิธิพัฒนาเครื่องมือแพทย์ไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สานต่อพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ 9 มอบเครื่องไบโอพลาสมา เครื่องแรกในประเทศไทย ที่ผลิตและคิดค้นโดยคนไทย แก่ภาควิชาศัลยศาสตร์ตกแต่ง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช เพื่อนำมารักษาผู้ป่วยที่มีแผลรื้อรังแผลติดเชื้อ และผู้ป่วยแผลเบาหวาน โดยจากสถิติพบว่า ในประเทศไทยมีผู้ป่วยนอนติดเตียงสูงถึง 2 ล้านคนต่อปี ซึ่งผู้ป่วยที่นอนติดเตียงจะมีแผลเรื้อรังและแผลเบาหวานประมาณ 6 แสนคนต่อปี
นายทำนุ ธรรมมงคล กล่าวว่า นับเป็นความสำเร็จของคนไทยที่สามารถผลิตเครื่องไบโอพลาสมาได้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาก ใช้สำหรับดูแลแผลเรื้อรังและแผลเบาหวาน ซึ่งยังไม่มีการนำเข้าเครื่องมือแพทย์ลักษณะดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทย มูลนิธิพัฒนาเครื่องมือแพทย์ไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ตั้งขึ้นมาตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
- เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณด้านการแพทย์ต่อพสกนิกรชาวไทย
- ดำเนินการตามพระราชประสงค์และตามแนวพระราชดำรัส “ให้ทำงานวิจัย ค้นคว้า พัฒนาวัสดุฝังในทางการแพทย์สำหรับใช้ในมนุษย์ และให้ทำวิจัยสำหรับใช้ในสัตว์ให้มาก ซึ่งท้ายที่สุดก็จะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์”
- สนับสนุน ดำเนินการ ศึกษา คิดค้น พัฒนาเครื่องมือแพทย์ตามพระราชบัญญัติ เครื่องมือแพทย์ไทย ให้ได้มาตรฐานสากล
4 . ส่งเสริม สนับสนุน เผยแพร่ เทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ที่เกิดจากการพัฒนาและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
นายแพทย์ชาญชัย ฉัตรศิริมงคล ผู้ผลิตและคิดค้นเครื่องไบโอพลาสมา กล่าวว่า เครื่องไบโอพลาสมาที่คิดค้นขึ้นมา ราคาต้นทุนอยู่ที่ 450,000 บาท ได้มาตรฐาน ISO 13485 และสามารถนำไปใช้ได้จริงพร้อมกับตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และคนไข้ที่มีแผลเรื้อรังนอนติดเตียงจะมีมากขึ้นทุกวัน เครื่องไบโอพลาสมานอกจากจะช่วยในการดูแลแผลเรื้อรังให้หายเร็วขึ้น ยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายและภาระของญาติผู้ป่วย ที่ต้องไปโรงพยาบาลติดต่อกันหลายครั้งเป็นระยะเวลา 60-90 วัน โดยคุณสมบัติของเครื่องไบโอพลาสมา จะลักษณะคล้ายๆ กับเครื่อง MRI เป็นการฉายแสงสีม่วง ซึ่งพลาสมาเป็นสถานะที่ 4 ของ มีคุณสมบัติหลัก คือ 1. เจาะผิวหนัง คล้ายการยิงเลเซอร์ หรือทำ MRI 2.ฆ่าเชื้อโรค และเชื้อดื้อยาต่างๆ ที่ทำให้แผลเน่า และ 3. กระตุ้นการทำงานของเนื้อเหยื่อ และการทำงานของเซลล์ต่างๆ ทำให้แผลสามารถสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาได้ ทำให้คนไข้ไม่ต้องทนทุข์ทรมานอีกต่อไป
ศ.คลินิก นพ.อภิรักษ์ ช่วงสุวนิช หัวหน้าสาขาวิชาศัลยศาสตร์ตกแต่ง ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เครื่องไบโอพลาสมานับเป็นนวัตกรรมใหม่ของวงการแพทย์ ที่สามารถนำมารักษาผู้ป่วยที่เป็นแผลรื้อรัง แผลติดเชื้อและแผลเบาหวาน ที่มีจำนวนมากขึ้นทุกปี เฉลี่ยปีละประมาณ 2 ล้านคน โดยในศิริราชจะมีผู้ป่วยที่มีแผลรื้อรัง แผลติดเชื้อและแผลเบาหวาน เข้ามาทำการรักษาเดือนละประมาณ 400 คนต่อเดือน หรือประมาณ 20 คนต่อวัน ซึ่งจากการทดลองรักษาคนไข้จำนวน 50 คน ด้วยเครื่องไบโอพลาสมา พบว่า ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจ จากเดิมต้องใช้เวลารักษานานถึง 8 สัปดาห์ แต่เมื่อรักษาด้วยเครื่องไบโอพลาสมา เพียง 1 สัปดาห์ แผลจะเริ่มตื้นขึ้น อาการติดเชื้อลดลงอย่างเห็นได้ชัด และหายเป็นปกติในที่สุด นอกจากนี้การรักษาด้วยเครื่องไบโอพลาสมา จะทำให้คนไข้ไม่ต้องเจ็บปวด เพราะใช้แสงในการรักษา ไม่ต้องไปสัมผัสกับบาดแผลโดยตรงเหมือนวิธีเดิมๆ และยังสามารถย่นระยะเวลาในการรักษาได้ โดยแผล 1 ตารางเซ็นติเมตร ใช้เวลาเพียง 30 วินาที สำหรับค่าใช้จ่ายต่อครั้งเฉลี่ยอยู่ที่ 3 พันบาท
นายทำนุ ธรรมมงคล กล่าวปิดท้ายว่า ต่อจากนี้มูลนิธิฯ จะดำเนินการตามพระราชประสงค์ และตามแนวพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชการที่ 9 “ให้ทำงานวิจัย ค้นคว้า พัฒนาวัสดุฝังในทางการแพทย์สำหรับใช้ในมนุษย์ และให้ทำวิจัยสำหรับใช้ในสัตว์ให้มาก ซึ่งท้ายที่สุดก็จะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์” และยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงการรักษา ดังนั้นจึงอยากให้ภาครัฐและเอกชน เข้ามาช่วยเหลือ ส่งเสริม และต่อยอดผลงานคนไทยให้เป็นที่ยอมรับทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ