รู้สาเหตุ ฝ้ากระเกิดจากอะไร แนะนำวิธีรักษาให้หาย
รู้สาเหตุ ฝ้ากระเกิดจากอะไร แนะนำวิธีรักษาให้หาย
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุของฝ้ากระ เพื่อการรักษาฝ้ากระให้จางลงได้อย่างเห็นผล พร้อมไปรู้ว่ามีวิธีรักษาฝ้ากระอะไรบ้าง
ฝ้ากระถือเป็นหนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้หญิงเอเชีย โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวสีเข้มและต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นประจำ แม้ว่าฝ้ากระจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่กลับสร้างความกังวลใจและทำให้ผู้ที่เป็นสูญเสียความมั่นใจในบุคลิกภาพอย่างมาก ปัญหาฝ้ากระเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลในเชิงความงามเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับกระบวนการผลิตเม็ดสีในร่างกายด้วย บทความนี้ขอพาไปรู้สาเหตุว่า ฝ้ากระเกิดจากอะไร พร้อมแนะนำวิธีรักษาฝ้ากระให้ดูจางลง คืนความกระจ่างใสให้กับผิวหน้าอีกครั้ง
ไขข้อสงสัย ฝ้ากระคืออะไร
ฝ้า (Melasma)
ฝ้าคือความผิดปกติของเม็ดสีผิวที่มีลักษณะเป็นรอยคล้ำหรือปื้นสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม โดยมักเกิดบริเวณใบหน้า เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก จมูก และบริเวณเหนือริมฝีปาก ฝ้ามักปรากฏในลักษณะสมมาตรทั้งสองข้างของใบหน้า แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่
- ฝ้าตื้น (Epidermal Melasma) เม็ดสีเมลานินสะสมอยู่ในชั้นหนังกำพร้า ซึ่งสามารถรักษาได้ง่ายและตอบสนองต่อยาทาได้ดี
- ฝ้าลึก (Dermal Melasma) เกิดจากการสะสมของเมลานินในชั้นหนังแท้ รักษายากกว่า ใช้เวลาในการฟื้นฟูนาน และอาจต้องใช้วิธีทางการแพทย์
- ฝ้าผสม (Mixed Melasma) เป็นรูปแบบที่พบได้บ่อยที่สุด มีลักษณะผสมระหว่างฝ้าตื้นและฝ้าลึก ต้องใช้วิธีการรักษาร่วมกันหลายวิธี
กระ (Freckles and Lentigines)
กระเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อนหรือเข้ม มักกระจายอยู่บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะในคนที่มีผิวขาวหรือมีพันธุกรรม บางชนิดของกระสามารถเกิดจากการถูกแสงแดดสะสมอย่างต่อเนื่อง แบ่งออกได้เป็นหลายชนิด เช่น
- กระแดด (Sun-induced Freckles) เกิดจากการโดนแสงแดดเป็นเวลานาน โดยมักจะปรากฏในช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป
- กระลึก (Lentigo Maligna) มีลักษณะเข้มและลึกมากขึ้น มักพบในวัยกลางคนหรือผู้สูงอายุ รักษายากและต้องใช้วิธีทางการแพทย์
- กระเนื้อ (Seborrheic Keratosis) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขึ้นมาจากผิวหนัง มีความหนา และมักพบบริเวณแก้ม หน้าผาก และลำคอ
สาเหตุของการเกิดฝ้ากระ
แสงแดด (รังสีอัลตราไวโอเลต)
แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ที่กระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป รังสี UVB ทำให้เกิดอาการผิวไหม้แดง ส่วน UVA สามารถทะลุทะลวงเข้าสู่ชั้นหนังแท้ กระตุ้นการสร้างเมลานินอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดฝ้ากระถาวร โดยเฉพาะเมื่อผิวได้รับรังสี UV อย่างสม่ำเสมอ
พันธุกรรมและกรรมพันธุ์
หากพ่อแม่หรือญาติสายตรงเคยเป็นฝ้ากระ โอกาสที่ลูกหลานจะเป็นก็มีสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากโครงสร้างเม็ดสีและการตอบสนองต่อแสงแดดของผิวหนังมีแนวโน้มสืบทอดกันได้
ฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน เช่น เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมกำเนิด หรือผู้ที่มีความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ ส่งผลให้เมลานินผลิตมากกว่าปกติจนเกิดฝ้ากระ
สารเคมีและเครื่องสำอาง
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น สเตียรอยด์ ไฮโดรควิโนน หรือสารกันเสียที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง อาจกระตุ้นการผลิตเมลานินโดยไม่รู้ตัว และส่งผลให้ผิวบางลงจนเกิดฝ้ากระเรื้อรัง
ความเครียด การนอนดึก และการพักผ่อนไม่เพียงพอ
ฮอร์โมนคอร์ติซอลที่หลั่งออกมาในช่วงที่ร่างกายเครียด หรืออดนอน สามารถรบกวนสมดุลของฮอร์โมนอื่น ๆ และกระตุ้นให้เกิดกระบวนการผลิตเม็ดสีผิดปกติ เป็นสาเหตุให้เกิดฝ้ากระตามมา
ปัจจัยที่กระตุ้นให้ฝ้ากระแย่ลง
แม้ว่าฝ้ากระบางชนิดอาจจางลงได้ในบางช่วงเวลา แต่ก็สามารถกลับมาแย่ลงได้หากยังเผชิญกับปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- การไม่ใช้ครีมกันแดดหรือใช้ไม่เพียงพอ
- การขัดผิวแรง ๆ หรือทำทรีตเมนต์ที่ผิวอ่อนแอเกินไป
- การเผชิญมลภาวะในชีวิตประจำวัน เช่น ฝุ่นควัน ความร้อน
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารระคายเคืองซ้ำ ๆ
- การนอนน้อยหรืออดนอนอย่างต่อเนื่อง
แนะนำวิธีการรักษาฝ้ากระให้หาย
การดูแลรักษาฝ้ากระด้วยตนเอง
การรักษาฝ้ากระด้วยตนเองควรเริ่มต้นจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและปลอดภัย เช่น
- ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมไวท์เทนนิ่ง เช่น วิตามินซี อาร์บูติน กรดโคจิก และกรดทรานซามิก ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสี
- การใช้ไนอะซินาไมด์ หรือวิตามินบี 3 ซึ่งมีคุณสมบัติลดการผลิตเมลานิน และเสริมความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว
- การทาครีมกันแดดทุกวันอย่างเคร่งครัด แม้ไม่ได้ออกจากบ้าน โดยควรเลือก SPF 50+ และมีค่า PA++++ เพื่อป้องกันทั้ง UVA และ UVB
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด โดยเฉพาะในช่วง 10.00 - 16.00 น. และสวมหมวก แว่นตา หรือเสื้อคลุมแขนยาวทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้าน
การรักษาฝ้ากระทางการแพทย์
การรักษาฝ้ากระที่มีประสิทธิภาพและได้ผลเร็วขึ้น มักต้องอาศัยเทคโนโลยีหรือการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ เช่น
- การทำเลเซอร์ เช่น Q-Switched, Pico Laser หรือ IPL ซึ่งสามารถทำลายเม็ดสีโดยตรง และกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ แต่ต้องทำต่อเนื่องและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
- การทำ Chemical Peel หรือการผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดอ่อน เช่น AHA หรือ TCA ซึ่งช่วยให้เซลล์ผิวใหม่เผยออกมาได้เร็วขึ้น
- Meso Therapy หรือการฉีดวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง เพื่อเร่งการฟื้นฟูผิว
- การใช้ยาทาฝ้ากระ เช่น ไฮโดรควิโนนหรือเรตินอยด์ ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
วิธีป้องกันฝ้ากระไม่ให้กลับมาอีก
- ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน แม้ในวันที่อยู่แต่ในบ้านหรือออฟฟิศ
- เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารระคายเคือง
- รับประทานอาหารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซี วิตามินอี และเบต้าแคโรทีน
- นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่นอนดึก และหลีกเลี่ยงความเครียดสะสม
- หมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมน
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับฝ้ากระ
ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับฝ้ากระ ที่ทำให้หลายคนเลือกวิธีรักษาที่ไม่เหมาะสม หรือเสี่ยงต่อผิวระยะยาว เช่น
- ฝ้ากระจะหายเองโดยไม่ต้องทำอะไร - ในความเป็นจริง ฝ้ากระแทบไม่เคยหายเอง ยิ่งเป็นฝ้าลึกยิ่งต้องได้รับการดูแลอย่างจริงจัง
- ใช้ครีมแรง ๆ แล้วฝ้ากระจะหายไวขึ้น - การใช้ครีมที่มีสารอันตรายอาจทำให้ผิวบางลง เกิดการระคายเคืองและส่งผลให้ฝ้ากระลึกขึ้น
- เลเซอร์ฝ้ากระครั้งเดียวหาย - โดยทั่วไป การรักษาฝ้ากระด้วยเลเซอร์ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง และจำเป็นต้องมีการดูแลหลังการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
สรุปการดูแลผิวให้ห่างไกลฝ้ากระ
การรักษาฝ้าและกระต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งในเรื่องของสาเหตุและลักษณะของปัญหา ผิวแต่ละคนตอบสนองต่อการรักษาไม่เหมือนกัน การเลือกแนวทางที่ปลอดภัยและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ควรเริ่มต้นด้วยการป้องกัน เช่น การใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการปรับพฤติกรรมและเลือกวิธีรักษาที่ถูกต้อง หากจำเป็นควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวางแผนการดูแลที่ตรงจุดและยั่งยืน













