หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
รวมข่าว บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ปวดหัวข้างขวา ปวดแบบไหนที่อันตราย และวิธีบรรเทาอาการปวด

โพสท์โดย tothemoon555

ปวดหัวข้างขวาแบบจี๊ดๆ คืออะไร ปวดหัวข้างเดียวสาเหตุจากอะไร จะบรรเทาอาการปวดหัวข้างเดียวอย่างไร

เคยประสบพบเจอกับการปวดหัวข้างขวา หรือปวดหัวข้างซ้ายกันหรือไม่ ซึ่งเป็นอาการที่หลายๆคนอาจเป็นกัน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาจจะสร้างความกังวลใจหรือส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แล้วอาการปวดหัวข้างขวานี้หมายถึงอะไร บ่งบอกอะไรถึงสุขภาพของเรากัน เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการบ่งบอกถึงอาการปวดหัวนี้ ในบทความนี้เราจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับการปวดหัวข้างขวาว่ามีอาการอย่างไรบ้าง ปวดบริเวณตรงไหนบ้าง อาการปวดหัวเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วจะสามารถแก้ไขได้อย่างไร

ทำความรู้จักกับ กับ อาการปวดหัว

รู้หรือไม่ว่าอาการ ปวดหัวข้างขวา นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายบริเวณ ซึ่งจะบ่งบอกถึงอาการที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เราสามารถรับรู้ได้ว่าการปวดบริเวณนี้เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง และเมื่อเรารู้ถึงสาเหตุของอาการปวดหัวข้างขวา ไม่ว่าจะเป็นการปวดหัวจี๊ดๆข้างขวา เป็นๆหายๆ หรือจะปวดขมับขวา และปวดท้ายท้อยข้างขวา เราก็จะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อบรรเทาอาการปวดเหล่านั้นได้

1. ปวดหัวข้างขวา หรือ ปวดหัวข้างซ้าย

การปวดหัวสลับกันระหว่างข้างซ้ายกับข้างขวานั้น ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดหัวแบบจี๊ดๆ หรือการปวดแบบตุบๆ ซึ่งบางครั้งอาจจะมีอาการปวดไปถึงกระบอกตาร่วมด้วย ทำให้อาจมีอาการคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ ถ้าขณะปวดหัวอยู่นั้นมีแสงสว่างจ้า หรือเสียงดัง อาจทำให้อาการแย่ลง เนื่องจากอาการนี้เป็นอาการที่รู้จักกันในชื่อ โรคไมเกรน

2. ปวดหัวรอบ ๆ ขมับทั้งสองข้าง 

จะรู้สึกมีอาการเกร็งที่บริเวณหน้าผาก และอาจลามไปถึงบริเวณอื่น ๆ อย่างท้ายทอย ต้นคอ และบ่าไหล่ร่วมด้วย ซึ่งเป็นอาการปวดหัวที่สามารถพบได้บ่อยที่สุด เนื่องจากสาเหตุมาจากความเครียด เกิดจากความเหนื่อยล้า หรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการปวดหัวที่ขมับทั้งสองข้าง

3. ปวดหัวบริเวณหน้าผากไปถึงโหนกแก้ม 

จะรู้สึกปวดตรงบริเวณหัวคิ้ว ดั้งจมูก หัวตา และโหนกแก้ม ซึ่งเป็นตำแหน่งของไซนัส ถ้าเกิดมีการอักเสบของไซนัส อาการปวดตรงบริเวณแถวส่วนนี้ จะสามารถบ่งบอกถึงการเป็นไซนัสอักเสบ

4. ปวดหัวลามลงไปบริเวณเบ้าตา

การที่ปวดหัวและมีการลามไปถึงบริเวณเบ้าตานั้น มักจะมีอาการที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ซึ่งอาจทำให้มีการมองเห็นที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นการมองไม่ชัด อาการตาพร่ามัว หรือมีอาการมือเท้าชา กล้ามเนื้ออ่อนแรงต่าง ๆ สาเหตุของอาการปวดนี้อาจบ่งบอกถึงโรคทางสมอง ไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดสมอง หรือเนื้องอกในสมอง และอาการอักเสบของเนื้อเยื่อสมอง ซึ่งเป็นโรคที่รุนแรง ควรจะรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษา

5. ปวดหัวลามไปยังบริเวณใบหูและกราม 

จะมีลักษณะการปวดที่บริเวณข้อต่อกรรไกร มักจะมีอาการปวด เมื่อเคี้ยวอาหารหรือตอนตื่นนอน ซึ่งบอกคนอาจจะมีอาการกัดฟันตอนนอนหลับทำให้ไม่รู้ตัว จึงเป็นสาเหตุทำให้กระดูกกรามหน้าใบหูมีอาการอักเสบจากการกัดฟันตอนนอน

อาการปวดหัวข้างขวา ข้างซ้าย เกิดจาก 

อาการปวดหัวข้างขวา ไม่ว่าจะปวดบริเวณคิ้ว ปวดท้ายทอย รวมไปถึงการปวดสลับกันระหว่างฝั่งขวาและฝั่งซ้ายนั้นล้วนมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป ตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของตนเอง เช่น มีความเครียด มีการอดอาหาร และมีการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งมีอาการปวดหัวในบริเวณต่าง ๆ นั้นอาจบ่งบอกถึงบางโรคได้ เช่น โรคไซนัสอักเสบ เนื้องอกในสมอง โรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงอาการทางเส้นประสาทอย่างโรคปวดเส้นประสาทบริเวณใบหน้า โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และการใช้ยาบางชนิดนั้นอาจทำให้มีอาการปวดหัวได้อีกด้วย เกิดได้จากการรับประทานยาที่เกินขนาดหรือผลข้างเคียงของยา เช่น ยาแก้ปวดทั่วไป อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้หากรับประทานติดต่อกันเกิน 15 วัน หรือ ยารักษาโรคไมเกรน ก็สามารถทำให้ปวดหัวได้หากรับประทานติดต่อกันเกิน 10 วัน

วิธีแก้อาการปวดหัวข้างขวาด้วยตัวเอง

อาการปวดหัวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย บางคนอาจจะมีอาการปวดหัวที่ไม่บ่อยมากเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่มีอาการปวดหัวบ่อย ๆ นั้น ทำให้ส่งผลถึงการใช้ชีวิตประจำวันได้ทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ เมื่อมีอาการปวดหัวเมื่อไหร่ หลาย ๆ คนก็คงจะเลือกทานยาเพื่อบรรเทาการปวดหัวได้ แต่สำหรับใครที่เป็นบ่อย ๆ นั้นการทานยาอาจจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่หนัก เพราะอาจจะทำให้ตับทำงานหนักได้ เราจึงมาเสนอวิธีการต่าง ๆ ที่สามารถแก้อาการปวดหัวข้างขวาด้วยตัวเอง

1. กินยาแก้ปวด

เป็นที่แน่นอนกันอยู่แล้วว่าถ้ามีอาการปวดหัวเมื่อไหร่ก็สามารถหยิบยาแก้ปวดอย่างพาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน เพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะข้างขวา แต่การรับประทานที่มากไปนั้นก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ จึงต้องปรึกษาแพทย์ก่อน และทำตามคำแนะนำ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

2. นวดยืดกล้ามเนื้อ

การนวดก็เป็นอีกหนึ่งทางที่สามารถบรรเทาอาการปวดหัวได้ ถ้าอาการปวดหัวมีการตึงของกล้ามเนื้อคอ ท้ายทอย และบ่าไหล่ร่วมด้วย ให้คุณกดนวดตรงกล้ามเนื้อบริเวณคอ ท้ายทอย หรือบ่าไหล่ ที่อาการปวด นวดกดคลายกล้ามเนื้อที่เป็นก้อนไปเรื่อย ๆ จนเกิดการคลายตัว จากนั้นให้ทำการยืดกล้ามเนื้อโดยการดึงศีรษะไปทางซ้าย 10 วิ และสลับข้างไปท้างขวาอีก 10 วิ อาการปวดนั้นก็จะคลายลง

3. ดื่มน้ำ

เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าน้ำเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อร่างกายที่ขาดไม่ได้ เราจึงต้องดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย ถ้ามีอาการปวดหัวร่วมด้วยก็ให้ดื่มเป็นน้ำขิงอุ่น ๆ ที่ทำให้สามารถบรรเทาอาการปวดหัวได้ 

4. ดมยาหอม

ยาหอมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดหัว และแก้วิงเวียนศีรษะ หรือจะเป็นการดมกลิ่นน้ำมันหอมระเหยจากสารสกัดธรรมชาติ เช่นกลิ่นจากดอกลาเวนเดอร์ ที่ช่วยลดอาการปวดหัว ลดความเครียดได้

5. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายนั้นนอกจากจะช่วยให้เสริมสร้างร่างกายที่แข็งแรงแล้วยังช่วยให้ห่างจากโรคภัยต่าง ๆ ได้ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ไปยังสมองดีขึ้น เมื่อออกกำลังกายแล้วร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินที่มีความสามารถไหนการบรรเทาปวดได้ นั้นเป็นสาเหตุที่เมื่อออกกำลังกายแล้วจะรู้สึกผ่อนคลายร่างกาย

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันอาการปวดหัวข้างขวา 

เมื่อเรารู้สึกปวดหัวหรือมีอาการใดๆ ที่ผิดปกติต่อร่างกาย เราควรสำรวจตัวเองว่ากิจกรรมที่เราทำในแต่ละวันนั้นส่งผลต่อร่างกายอย่างไร จากนั้นจึงเริ่มทำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหัวอีก เช่น 

ปวดหัวข้างเดี่ยวเกิดจากอะไร

การปวดหัวข้างเดียวนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเป็นการปวดแบบจี๊ดๆเล็กน้อยหรือจะเป็นการปวดแบบหนักๆ และมักร่วมกับอาการอาเจียนด้วย ซึ่งเกิดได้จากการมองแสงที่จ้า หรือเสียงดังๆ และได้กลิ่นที่รุนแรง เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเป็นโรคไมเกรน หรือโรคอื่น ๆ ทางสมองได้ เช่นโรคหลอดเลือดในสมอง ดังนั้นเมื่อเกิดอาการเหล่านี้แล้วจึงควรเข้าพบแพทย์เพื่อทำการปรึกษาและทำการรักษา

สรุป 

การปวดหัวนั้นมีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการปวดหัวข้างขวา หรือปวดหัวข้างซ้าย จะมีลักษณะการปวดที่ต่างกันออกไป ทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าการปวดแบบนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีใดในเบื้องต้น เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจส่งผลให้เกิดการปวดศีรษะ หรืออาจเข้าพบรับคำปรึกษาจากแพทย์แล้ววินิจฉัยโรค เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง และทำตามคำแนะนำอย่างถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพร่างกาย

เนื้อหาโดย: tothemoon555
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
tothemoon555's profile


โพสท์โดย: tothemoon555
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นางเอกดังสุดเศร้า กับการสูญเสียครั้งใหญ่ โพสต์อาลัยรักสุดหัวใจเจนนี่ทำเซอร์ไพรส์ใหญ่! มอบบ้านพร้อมโฉนดให้ “ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ฉลองอายุครบ 20 ปี6 วิธีเติมพลังใจในวันศุกร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับวันหยุดสุดสัปดาห์รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่เป็นวันศุกร์แล้ว พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันหยุดของหลายๆคนแล้วน๊า สู้ๆแอฟ ทักษอร และ นนกุล คู่รักสุดอบอุ่น รับบทช่างภาพคู่ เฝ้ากองเชียร์ น้องปีใหม่ โชว์ความสามารถบนเวทีหมอเหรียญทองกำลังมองหาสถานที่เช่าสำหรับตั้งซูเปอร์คลินิก เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีบัตรทองจากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะบ้านในฝันก็ต้องปล่อย! 'กวินท์-ปุ้มปุ้ย' เปิดใจขายบ้าน 19.5 ล้าน ทั้งที่รักมาก"น้องธาช่า" ลูกสาว "กิ๊ก สุวัจนี" แจ้งเกิดเต็มตัว! ประเดิมละครเรื่องแรกกับบทบาทสุดปัง"ผู้บริหารมาม่าไขปริศนา ยอดขายพุ่งเพราะเศรษฐกิจแย่ หรือแค่คิดไปเอง?"ดวงประจำสัปดาห์ 25 พ.ย.-1 ธ.ค. 67 by ภูริดา พยากรณ์ดวงรายสัปดาห์ 24 - 30 พ.ย. by ครูเป็นหนึ่งดวงรายสัปดาห์ วันที่ 25 พ.ย. - 1 ธ.ค. 2567 by อ.กิ่ง นาคราช
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ผู้บริหารมาม่าไขปริศนา ยอดขายพุ่งเพราะเศรษฐกิจแย่ หรือแค่คิดไปเอง?"หมอเหรียญทองกำลังมองหาสถานที่เช่าสำหรับตั้งซูเปอร์คลินิก เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีบัตรทองจากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะครูสงสัยทำไม นร.ชายใส่กระโปรง..รู้เหตุผลแล้วบอกเลย ใจนายแมนมากนายกยิ้มร่า ทักษิณรอดศาล
กระทู้อื่นๆในบอร์ด โฆษณา ประชาสัมพันธ์
ร้านหม่าล่ายอดนิยม คอนเฟิร์มความอร่อย ที่บอกเลยว่าต้องลองเตรียมบ้านให้พร้อมสำหรับคริสต์มาส ด้วยของขวัญสุดพิเศษในสไตล์ยุโรปเตรียมความพร้อมก่อนสร้างเว็บไซต์ เลือกบริการรับทำเว็บไซต์อย่างไรให้คุ้มค่าและตอบโจทย์ธุรกิจโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์, ด่างคลี, วัตถุเจือปนอาหาร, Potassium Hydroxide, KOH, Food Additive, E525
ตั้งกระทู้ใหม่