เลือกประกันรถยนต์ ชั้น 1 อย่างไรให้คุ้มค่า และเหมาะกับเรามากที่สุด
ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี ได้เบี้ยประกันคุ้มค่าที่สุด!
สำหรับการเลือกทำประกันรถยนต์สำหรับคนมีรถ น่าจะเป็นเรื่องหนักใจที่ต้องมาเช็คค่าเบี้ยประกันรถกันตลอด โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ราคาค่าเบี้ยประกันค่อนข้างจะราคาสูง และมีมาให้เลือกหลากหลายบริษัท แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะ SILKSPAN นำมารวมไว้เพื่อคุณแล้ว รวบรวมประกันรถยนต์จากกว่า 20 บริษัทชั้นนำทั่ว เพื่อให้ตอบรับ และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของการใช้รถของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็น วิริยะประกันภัย กรุงเทพประกันภัย ทิพยประกันภัย เทเวศประกันภัย และธนชาติประกันภัย ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่นิยมสำหรับใครหลายคน SILKSPAN พร้อมให้คำปรึกษาในการเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อคุณ
ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง เหมาะกับเราจริงหรือเปล่า
ก่อนจะเลือกซื้อ เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือการเช็คความคุ้มครองที่ประกันรถยนต์มีให้แก่ตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของเรา ตัวเราเอง คู่กรณี และบุคคลภายนอกอื่นๆ ที่อาจได้รับผลกระทบความเสียหายนี้ด้วย รวมไปถึงการคุ้มครองในกรณีอื่นๆ เช่น น้ำท่วมรถ ไฟไหม้ เหตุภัยธรรมชาติ ชนแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณีว่าประกันรถยนต์นั้นให้ความคุ้มครอง และวงเงินประกันมากน้อยเพียงใด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยหลักในการตัดสินใจเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้เข้ากับรถยนต์ที่คุณขับ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เพื่อให้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม และคุ้มค่าที่สุดสำหรับการใช้งานรถยนต์ของแต่ละคน
ความคุ้มครองของประกันชั้น1ต่อตัวรถยนต์
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ถึงแม้จะมีค่าเบี้ยที่ค่อนข้างสูงกว่าประกันรถยนต์ในชั้นอื่นๆ แต่ประกันรถยนต์ชั้น 1 มักให้ความคุ้มครองที่สูง และครอบคลุมในบางกรณีมากกว่าประกันรถยนต์ในชั้นอื่นๆ ด้วยเช่นกัน รวมไปถึงการให้ความคุ้มครองของประกันชั้น 1 เมื่อเกิดอุบัติเหตุ และเกิดความเสียหายแก่รถยนต์ หากมีอุบัติเหตุแบบรถชนรถทั่วไป ไม่ว่าจะเกิดความเสียหายต่อตัวรถยนต์ของคุณมากน้อยเพียงใด ประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็ให้ความคุ้มครองในกรณีนี้ และรวมไปถึงรถยนต์ของคู่กรณีด้วยเช่นกัน ประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม และสามารถทำเรื่องเคลม เบิกจ่ายได้เช่นเดียวกัน
และนอกจากนั้นแล้ว ความพิเศษของประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่บอกได้เลยว่าประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆ ไม่มี นั่นก็คือ การให้ความคุ้มครองในกรณีการเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์ของคุณโดยที่ไม่มีคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นการที่คุณอาจถอยรถไปครูดกำแพง ชนเสา ชนรั้วบ้าน ฟุตบาธ ชนกรวยจราจร และสิ่งต่างๆ ที่เป็นสิ่งกีดขวางประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครอง เคลมได้อย่างแน่นอน แต่อาจต้องมีการจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) ในกรณีที่เคลมการถูกชนแล้วไม่มีคู่กรณี เช่น การถูกชนแล้วหนี แบบที่ไม่มีหลักฐานก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเพิ่มเติมตรงจุดนี้ และแน่นอนถ้าหากคุณมีกล้องวงจรปิด หรือมีหลักฐานที่ชี้ชัดคู่กรณี ก็สามารถเคลมได้หายห่วง
ความคุ้มครองของประกันชั้น1เมื่อเสียหายหรือเจออุบัติภัย ภัยธรรมชาติ
ความพิเศษของประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่ได้มีเพียงการเคลมได้ทั้งแบบมี และไม่มีคู่กรณี แต่ประกันรถยนต์ชั้น 1 ยังให้ความคุ้มครองครอบคลุมไปถึงในกรณีที่รถยนต์ของคุณเกิดความเสียหายเมื่อเจอกับภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ เช่น น้ำท่วมรถ ก็สามารถเคลมได้อย่างแน่นอน แต่เรื่องที่สำคัญที่ต้องรู้ คือ ในกรณีน้ำท่วม ต้องเป็นการที่คุณอาจจอดรถทิ้งไว้ แล้วเกิดการน้ำท่วมโดยเฉียบพลัน และไม่สามารถนำรถไปจอดไว้ที่อื่น หรือขับหนีน้ำไปได้ ถ้าเป็นในกรณีนี้ก็สามารถเคลมได้อย่างแน่นอน
แต่ถ้าหากสมมติคุณกำลังขับรถกลับบ้าน และเจอว่าทางข้างหน้ามีน้ำท่วมขังตลอดแนว และคุณก็ยังเลือกที่จะฝ่าน้ำท่วมไป ในกรณีนี้ ถ้ารถยนต์เกิดความเสียหายในระหว่างลุย เช่น เครื่องดับ น้ำเข้าเครื่องยนต์ หรือซึมเข้าบริษัทห้องโดยสาร ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะไม่ได้ให้ความคุ้มครอง เนื่องจากเป็นการตัดสินใจของตัวเจ้าของรถ หรือผู้ขับขี่เองเรียบร้อยแล้วว่าจะลุยน้ำ จึงขอแนะนำว่าถ้าหากไม่จำเป็นไม่ควรนำรถยนต์ไปลุยน้ำ อาจลองค้นหาเส้นทางอื่นที่สามารถสัญจรไปยังจุดหมายเดียวกันได้ เพื่อความปลอดภัยของคุณ และรถยนต์
ความคุ้มครองของประกันชั้น1ต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งตัวรถยนต์ ผู้ขับขี่ คู่กรณี รวมถึงบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ด้วยเช่นกัน หากเกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองในกรณีรถชนรถ และความคุ้มครองทั้งตัวรถยนต์ และตัวคู่กรณี ไม่ว่าจะฆ่ารักษาพยาบาล รวมไปถึงหากเป็นอุบัติเหตุใหญ่ก็จะมีค่าชดเชยในกรณีที่เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็ก หรือใหญ่แค่ไหน ประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็ให้ความคุ้มครองอย่างแน่นอน
แต่ถ้าหากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก หรือมีคู่กรณีหลายราย เช่น เหตุการณ์ชนซ้อนคัน ที่มีการพิสูจน์ได้ว่าเราอาจเป็นฝ่ายผิด ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากวงเงินความเสียหายสูงกว่าวงเงินที่ตามกรมธรรม์ระบุไว้แล้ว ตัวเจ้าของรถ หรือผู้ขับก็ต้องเป็นฝ่ายจ่ายค่าส่วนต่างของค่าเสียหายจำนวนนั้นๆเอง แต่ถือว่าอย่างน้อยการมีประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็สามารถช่วยคุณจ่ายค่าเสียหายไปจำนวนหนึ่งเช่นกัน
และแน่นอนว่าถ้าหากพิสูจน์แล้วว่าคุณเป็นฝ่ายผิด ทำการชนคู่กรณี แน่นอนว่าค่าเบี้ยประกันในปีถัดไปก็จะสูงขึ้นเช่นกัน และสูงขึ้นตามประวัติการขับขี่ของคุณ ที่ไม่ว่าจะเปลี่ยนบริษัทรถยนต์ไปแล้วก็ยังสามารถทำการเช็คได้ และเป็นอีกเหตุผลที่ราคาเบี้ยประกันรถยนต์สูงขึ้นอีกด้วย
ความคุ้มครองในกรณีรถหาย หรือไฟไหม้
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถหาย หรือไฟไหม้ด้วยเช่นกัน ในกรณีที่รถหาย ไม่สามารถตามกลับคืนมาได้ จะสามารถทำเรื่องเคลมได้สูงสุดถึง 80% ของราคารถยนต์ ซึ่งจะตีราคาจากค่าเสื่อมสภาพของรถยนต์เข้าไปด้วย สมมติเป็นตัวเลขง่ายๆว่า ถ้าหากรถยนต์ราคามีการประเมินว่าราคา 1,000,000 บาท ทำแจ้งเคลมรถหาย และผ่านการพิสูจน์เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าหายจริง ตามกลับมาไม่ได้ สามารถได้รับเงินคืน 800,000 บาท (1,000,000 x80%) แต่ในกรณีนี้ก็ต้องดูที่การตีราคาของค่าทุนประกันของรถยนต์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ปีที่ผลิต รวมไปถึงค่าเสื่อมสภาพด้วยเช่นกัน
ข้อควรรู้ก่อนทำประกันรถยนต์ชั้น 1
สำหรับการเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 สำหรับหลายคนก็อาจยังมีความไม่เข้าใจ หรือมีคำถามในใจต่างๆ ที่สงสัย SILKSPAN ช่วยสรุปเรื่องสาระน่ารู้อื่นๆ ที่ควรรู้ก่อนการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 มาไว้ให้แล้วเพื่อคุณ
จะทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
คุณสมบัติที่ควรมีเมื่อจะต้องทำประกันรถยนต์ชั้น 1
- ผู้ขับขี่ต้องมีประสบการณ์ในการขับขี่รถยนต์มาอย่างน้อย 2 ปี และมีอายุตั้งแต่ 20-70 ปี
- ผู้ขับขี่จะต้องมีใบขับขี่ และไม่เคยถูกยกเลิก หรือระงับใบขับขี่ ในตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา
- การทำประกันรถยนตร์ สามารถระบุชื่อผู้ขับขี่รวมกันได้ทั้งหมดสูงสุด 2 คน
- รถยนต์ที่จะทำประกัน จะต้องเป็นรถที่มีการจดทะเบียนภายในประเทศไทย
จะทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ต้องมีเอกสารอะไรบ้าง
การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาใบขับขี่
- สำเนาหนังสือจดทะเบียนรถยนต์
- สำเนากรมธรรม์ประกันรถยนต์ปัจจุบัน หรือใบเตือนต่ออายุ
การซ่อมรถยนต์ตามแผนประกันชั้น 1 ทำอย่างไรบ้าง
การซ่อมรถยนต์ของประกันชั้น 1 จะแตกต่างกันจากการที่เราเลือกซ่อมเป็นแบบไหนระหว่างการซ่อมห้าง(ซ่อมศูนย์) และการซ่อมอู่
โดยส่วนใหญ่ของคนที่ทำประกันชั้น 1 มักจะเป็นการเลือกซ่อมห้าง เพราะจะมีอะไหล่แท้ให้บริการ และยังมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แยกกันทำงานกันอย่างชัดเจน และผลงานที่ออกมามีมาตรฐานอย่างแน่นอน สามารถทำเรื่องเคลมได้โดยการติดต่อเข้าไปกับทางศูนย์เพื่อทำการแจ้งข้อมูลโดยคร่าวๆ และทำการนัดวันที่จะเข้าไปทำการซ่อม แต่อาจต้องใช้เวลารอนาน เนื่องจากมีคิวค่อนข้างมาก
ส่วนการซ่อมอู่ โดยเฉพาะการเลือกซ่อมกับอู่ซ่อมที่เป็นอู่ใหญ่ได้มาตรฐาน ช่างก็มีความชำนาญเรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากการซ่อมศูนย์เลย แถมคิวซ่อมอู่อาจจะว่าง และทำเสร็จได้รวดเร็วกว่าการซ่อมศูนย์ก็เป็นได้
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ต่างจากประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆอย่างไร
การเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ถึงแม้ว่าจะมีค่าเบี้ยประกันรถที่ค่อนข้างสูงกว่าประกันรถยนต์ในชั้นอื่นๆ แต่ก็ได้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าในทุกกรณี และสามารถเคลมในกรณีอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีที่ประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆ ไม่คุ้มครอง และยังสามารถเคลมค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวผู้เอาประกันเพิ่มได้ ที่นอกจากประกันรถยนต์ชั้น 1 แล้วมีเพียงประกันรถยนต์ชั้น 2+ เท่านั้นที่มี นับว่าเป็นความคุ้มครองที่คุ้มค่าสุดๆ สำหรับการเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1
ทำประกันชั้น1อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด
การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้คุ้มค่าสามารถเลือกใช้บริการการเปรียบเทียบราคาประกันภัยรถยนต์จาก SILKSPAN ที่เปรียบเทียบเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับคุณ และรถยนต์ของคุณ เพื่อความคุ้มครองที่คุ้มค่าอย่างเต็มที่
และที่สำคัญยังสามารถใช้สิทธิ์ส่วนลดค่าเบี้ยอื่นๆ ที่สามารถทำให้ค่าเบี้ยรถยนต์ของคุณถูกลงได้มากกว่าเดิมอีก
- ระบุชื่อผู้ขับขี่ ประหยัดเบี้ยลงไปได้ 5-20%
- ติดกล้องหน้ารถ ประหยัดเบี้ยลงไปได้ 5-10%
- ส่วนลดประวัติดี สำหรับคนที่ไม่เคยเคลม หรือไม่เคยเป็นฝ่ายผิด ประหยัดเบี้ยลงไปได้ 20-50%
- ระบุค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ประหยัดเบี้ยลงไปได้ 1,000-5,000 บาท
- เลือกการซ่อมอู่แทนการซ่อมห้าง ประหยัดเบี้ยลงไปได้ 10-30%
- เปรียบเทียบเบี้ยประกันออนไลน์กับ SILKSPAN ผ่อน 0% ได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน