‘รากฟันเทียม’ ตอบทุกโจทย์ของผู้ที่ต้องการทำฟันปลอม
ไม่ว่าคนเพศไหนหรืออยู่ในช่วงวัยใดก็อาจมีเหตุให้ต้องสูญเสียฟันได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ หรือเกิดจากฟันผุก็ตาม แต่พอทำฟันปลอมแบบทั่ว ๆ ไปมาใช้เพื่อทดแทนฟันที่เสียไปก็รู้สึกไม่สะดวกเอาซะเลย ทั้งเคลื่อนหลุดง่าย ทั้งทำความสะอาดลำบาก แถมยังมองดูแล้วไม่ธรรมชาติสุด ๆ
ถ้าหากกำลังรำคาญและเบื่อกับปัญหาเหล่านี้อยู่ล่ะก็ การทำรากฟันเทียมอาจช่วยตอบโจทย์คุณได้มากที่สุด เพราะว่านอกจากรากฟันเทียมจะทำออกมาแล้วดูเป็นธรรมชาติแล้ว ยังมีความแข็งแรงทนทาน ทำความสะอาดง่าย รับประทานอาหารก็สะดวก และยังมีข้อดีต่าง ๆ อีกมากมาย
และถ้าหากใครที่กำลังสนใจการทำ รากฟันเทียม อยู่ล่ะก็ ในบทความนี้เราจะมาบอกถึงข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับรากฟันเทียมเพื่อให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างระหว่างรากฟันเทียมกับฟันปลอม ประเภทของรากฟันเทียม ข้อดีข้อเสียของรากฟันเทียม รวมไปถึงยี่ห้อของรากฟันเทียมที่น่าสนใจ
รากฟันเทียม (Dental Implant) คืออะไร
รากฟันเทียม หรือ Dental Implant คือวัสดุที่มีลักษณะหน้าตาคล้ายกับรากฟัน โดยรากฟันเทียมนั้นจะทำมาจากไทเทเนียม ซึ่งสามารถเข้ากันกับร่างกายเราได้เป็นอย่างดี
โดย รากฟันเทียม จะมีไว้สำหรับใช้ทดแทนรากฟันตามธรรมชาติ ซึ่งจะใช้วิธีการฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อเป็นตัวช่วยในการทำฟันเทียมรูปแบบต่าง ๆ
ในปัจจุบันนี้การทำฟันเทียมด้วยการใส่รากฟันเทียมได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เนื่องด้วยข้อดีที่มีอยู่มากมาย อีกทั้งยังใช้ระยะเวลาในการทำไม่นานเท่าการทำรากฟันเทียมในสมัยก่อน เพียงแค่ 1 อาทิตย์ก็สามารถมีฟันไว้ใช้งานได้แล้ว
รากฟันเทียมประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
รากฟันเทียมจะมีส่วนประกอบหลัก ๆ 3 อย่างด้วยกัน ดังนี้
- รากเทียม (Fixture)
รากเทียม หรือ Fixture ก็คือส่วนที่เป็นตัวของรากฟัน ซึ่งจะมีหน้าตาคล้ายกับสกรู รากเทียมนี้เป็นสิ่งที่จะนำไปฝังลงในกระดูกขากรรไกร เพื่อให้ฟันเทียมที่เราต้องการทำมีสิ่งที่จะใช้เป็นที่ยืด
- เดือยฟัน (Abutment)
เดือยฟัน หรือ Abutment ก็คือส่วนที่เป็นแท่นรองรับฟันปลอม ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ยึดติดต่อจากรากเทียม โดยส่วนของเดือยฟันนี้จะนิยมทำมาจากไทเทเนียมหรือเซรามิก
- ครอบฟัน (Crown)
ครอบฟัน หรือ Crown ก็คือส่วนของตัวฟันเทียมหรือที่ครอบฟัน โดยหลังจากที่ใส่เดือยฟันเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำฟันครอบลงไปยึดติดกับส่วนของเดือยฟันด้วยกาวที่ใช้ทางทันตกรรม
รากฟันเทียม กับ ฟันปลอม แตกต่างกันอย่างไร
รากฟันเทียม กับ ฟันปลอม นอกจากจะแตกต่างกันที่วิธีหรือขั้นตอนในการทำแล้ว ยังมีจุดที่แตกต่างกันอีกมากมาย มีอะไรบ้างนั้น เราจะมาเปรียบเทียบให้เห็นกันค่ะ
- การทำรากฟันเทียมจะมีความสะดวกในการใช้งานที่มากกว่าฟันปลอมแบบทั่ว ๆ ไป เนื่องจากมีการยึดติดที่มั่นคง ไม่เกิดการเคลื่อนตัวหรือหลุดออกง่ายอย่างฟันปลอม
- การทำรากฟันเทียมนั้นฟันจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการใช้ฟันปลอมทั่ว ๆ ไป
- รากฟันเทียมมีความแข็งแรงและทนทานมากกว่าฟันปลอมทั่ว ๆ ไป
- รากฟันเทียมจะช่วยให้สามารถเคี้ยวอาหารได้ดีกว่าการใช้ฟันปลอมแบบปกติ ไม่ต้องคอยระวังอาหารแข็ง ๆ หรือระวังหลุดขณะทานอาหาร
- การใช้ฟันปลอมแบบทั่ว ๆ ไปเป็นระยะเวลานานอาจทำให้สันเหงือกเกิดการยุบตัวลงได้
วัสดุที่ใช้ทำรากฟันเทียม
สำหรับวัสดุที่ใช้ในการทำรากฟันเทียมนั้นจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละส่วนประกอบ โดยตัวรากเทียมจะใช้ไทเทเนียมบริสุทธิ์ในการผลิต เนื่องจากว่าไทเทเนียมเป็นวัสดุที่สามารถเข้ากันได้ดีกับกระดูกขากรรไกร อีกทั้งยังมีความคงทนแข็งแรง ไม่เกิดการผุกร่อน และส่วนของเดือยฟันก็จะนิยมใช้ไทเทเนียมหรือเซรามิกในการผลิต
ประเภทของรากฟันเทียมมีกี่แบบ
รากฟันเทียมนั้นจะมีอยู่ทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกัน คือ รากฟันเทียมแบบ 1 ซี่ รากฟันเทียมแบบหลายซี่ และรากฟันเทียมแบบทั้งปาก ซึ่งรากฟันเทียมทั้ง 3 รูปแบบนี้ก็จะเลือกใช้แตกต่างกันออกไปตามความจำเป็นและสภาพภายในช่องปาก
รากฟันเทียมแบบ 1 ซี่
การทำรากฟันเทียมแบบ 1 ซี่จะใช้ในกรณีที่ต้องสูญเสียฟันไปเพียงซี่เดียวเท่านั้น โดยการทำรากฟันเทียมแบบซี่เดียวนั้นจะไม่จำเป็นต้องกรอฟันซี่ข้างเคียงเพื่อใช้ในการใส่สะพานฟันใด ๆ อีกทั้งยังสามารถดูแลทำความสะอาดได้ง่ายไม่ต่างจากฟันจริง
รากฟันเทียมแบบหลายซี่
การทำรากฟันเทียมแบบหลายซี่จะใช้ในกรณีที่ต้องสูญเสียฟันไปหลายซี่ในตำแหน่งที่ต่างกัน โดยการทำรากฟันเทียมแบบหลายซี่สามารถทำได้ด้วยการทำสะพานฟันบนครอบรากเทียม
รากฟันเทียมทั้งปาก
การทำรากฟันเทียมแบบทั้งปากจะใช้ในกรณีที่ต้องสูญเสียฟันไปหมดทั้งปาก ไม่ว่าจะเป็นฟันแถวบนหรือฟันแถวล่างก็ตาม โดยการทำรากฟันเทียมแบบติดแน่นทั้งปากนอกจากจะช่วยทดแทนฟันได้แล้ว ยังช่วยให้กระดูกบริเวณที่ฝังรากฟันเทียมมีอัตราละลายช้าลงอีกด้วย
รากฟันเทียมมีกี่ยี่ห้อ เลือกยี่ห้อไหนดี
ในปัจจุบันนี้รากฟันเทียมมีอยู่หลากหลายยี่ห้อด้วยกันที่ได้รับการยอมรับและผ่านมาตรฐานทั้งระดับสากลและในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นรากฟันเทียมยี่ห้อ Straumann , รากฟันเทียมยี่ห้อ Astratech , รากฟันเทียมยี่ห้อ Hiossen หรือรากฟันเทียมยี่ห้อ Dentium
โดยรากฟันเทียมแต่ละยี่ห้อก็จะมีความแตกต่างกันทั้งด้านราคา แหล่งที่ผลิต รวมไปถึงสรรพคุณและความพิเศษของวัสดุที่นำมาผลิต ดังนั้นจึงควรเลือกยี่ห้อรากฟันเทียมที่ตรงกับความเหมาะสมของสภาพช่องปาก แต่ถ้าหากใครที่กังวลก็สามารถปรึกษากับทันตแพทย์เพื่อให้ทันตแพทย์แนะนำยี่ห้อรากฟันเทียมที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลได้
ข้อดีของการทำรากฟันเทียม
- ช่วยเพิ่มความมั่นใจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้ที่สูญเสียฟัน
- การทำรากฟันเทียมเป็นการทำฟันปลอมที่ดูธรรมชาติมากที่สุดเมื่อเทียบกับการทำฟันปลอมทั่ว ๆ ไป
- สามารถรับประทานอาหารได้อย่างไร้กังวล สามารถเคี้ยวอาหารแข็ง ๆ ได้ และยังไม่ต้องห่วงว่าฟันปลอมจะเคลื่อนหรือหลุดระหว่างที่รับประทานอาหารอีกด้วย
- ช่วยให้มีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น เนื่องจากการทำรากฟันเทียมจะสามารถทำความสะอาดช่องปากได้ง่ายดายไม่ต่างจากฟันปกติ
- รากฟันเทียมมีความแข็งแรงและคงทนมากกว่าฟันปลอมทั่ว ๆ ไป เนื่องจากใช้วัสดุไทเทเนียม ที่นอกจากจะแข็งแรงแล้ว ยังไม่เกิดการผุกร่อนอีกด้วย
- เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างการทำรากฟันเทียมและการทำฟันปลอมแบบทั่ว ๆ ไปแล้ว การทำรากฟันเทียมจะสามารถออกเสียงได้ชัดเจนและเป็นปกติมากกว่า
ข้อจำกัดของการทำรากฟันเทียม
- การทำรากฟันเทียมจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับการทำฟันปลอมแบบทั่ว ๆ ไป
- การทำรากฟันเทียมจะสามารถทำได้ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีเท่านั้น เนื่องจากว่ากระดูกขากรรไกรจะมีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่แล้ว
- ใช้ระยะเวลาในการรักษานาน โดยเฉพาะผู้ที่จำเป็นต้องทำการปลูกกระดูกสันเหงือกเพิ่มเติม ก็อาจใช้ระยะเวลานานถึง 1 ปี
- ผู้ที่สูบบุหรี่หรือผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนและเจอกับปัญหากระดูกขากรรไกรไม่ผสานกับรากฟันเทียม
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ ควรปรึกษากับแพทย์เสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน โรคปริทันต์อักเสบ โรคไฮเปอร์ไทรอยด์ ผู้ที่มีปัญหาการควบคุมกล้ามเนื้อ หรือผู้ที่มีอาการไขข้ออักเสบรุนแรง เป็นต้น
ข้อสรุป ทำรากฟันเทียมดีไหม
การทำรากฟันเทียมเป็นอีกหนึ่งวิธีการทำฟันปลอมที่ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงถ้าหากนำไปเปรียบเทียบกับการทำฟันปลอมแบบทั่ว ๆ ไป แต่ก็ถือว่ามีข้อดีอยู่มากจนน่าพอใจเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความทนทานแข็งแรง ความสะดวกสบายในการรับประทานอาหารและการใช้ชีวิตประจำวัน และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นถ้าหากว่าใครที่มีกำลังทรัพย์มากพอ การทำรากฟันเทียมก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีมากทีเดียว