ยาคุมฉุกเฉิน Madonna ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง
ความรู้รอบตัวที่สาว ๆ ควรทราบ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์คือเรื่องการคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี เพราะปัญหาตั้งครรภ์โดยที่ไม่พร้อมนั้นเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก อาจส่งผลต่อทั้งชีวิตของคนคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ยิ่งในวัยรุ่นที่มักจะรักสนุกแต่ไม่รู้วิธีป้องกันตัวเองอย่างถูกต้องจนเกิดการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม มักจะทำให้พลาดโอกาสหลาย ๆ อย่างในชีวิตเลยก็เป็นได้
การป้องกันไม่ให้ตนเองไปสู่ปัญหาเหล่านั้นคือการคุมกำเนิดด้วยวิธีที่ถูกต้องอย่างเช่น การใช้ถุงยางอนามัย ห่วงยางอนามัย ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานและยาคุมกำเนิดชนิดฝัง แต่อย่างไรก็ตามหากการคุมกำเนิดพลาดไม่ว่าจะถุงยางแตก ห่วงยางหลุด ลืมรับประทานยาคุมกำเนิด ก็ยังมีวิธีป้องกันการตั้งครรภ์อีกวิธีหนึ่งคือการรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั่นเอง
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ได้ ในตลาดจะเห็นยาคุมฉุกเฉินที่มีจำหน่ายอยู่หลากหลายยี่ห้อ เช่น ยาคุมมาดอนน่า โพสตินอร์ แมรี่พิงค์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการใช้ยาคุมฉุกเฉินมักมีข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง จึงทำให้ไม่ควรใช้บ่อย ๆ ใช้เฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
ยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน หรือยาคุมฉุกเฉิน (emergency contraceptive pills, morning-after pills) เป็นยาฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูง ใช้สำหรับการลดโอกาสการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์จากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน หรือการป้องกันไม่ได้ประสิทธิภาพ
เพื่อประสิทธิภาพการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ดีจำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งปล่อยนานไปประสิทธิภาพของยาก็ยิ่งลดลง และเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากขึ้น
ยาคุมฉุกเฉินมีกี่ประเภท
ยาคุมฉุกเฉินที่มีการใช้ป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์มีอยู่ 3 ประเภท ดังนี้
1. ยาคุมฉุกเฉินประเภทฮอร์โมนเดียวโพรเจสโตเจน
โดยตัวยาจะประกอบไปด้วยลีโวนอร์เจสเตรล (levonorgestrel, LNG) ที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการตกไข่ หากรับประทานยาคุมฉุกเฉินประเภทนี้ยิ่งเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสลดการตั้งครรภ์สูงขึ้น แต่หากรับประทานยาคุมฉุกเฉินหลังจากที่ไข่ตกมาแล้วจะทำให้การรับประทานยาคุมฉุกเฉินไม่ได้ผล
ตัวยาคุมฉุกเฉินประเภทฮอร์โมนเดียวจะมีลีโวนอร์เจสเตรลขนาด 0.75 มิลลิกรัม 2 เม็ด สามารถรับประทานทีเดียวทั้ง 2 เม็ดหรือแบ่งรับประทานครั้งละ 1 เม็ด ห่างกัน 12 ชั่วโมงก็ได้ และแบบ 1 เม็ดที่มีตัวยาลีโวนอร์เจสเตรลขนาด 1.5 มิลลิกรัม
แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้ยามีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดจะต้องรับประทานหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 24 ชั่วโมง และอย่างช้าที่สุดไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมง
2. ยาคุมฉุกเฉินประเภทฮอร์โมนรวม
ยาคุมฉุกเฉินประเภทฮอร์โมนรวมเป็นยาที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเพศ 2 ตัวคือ เอสโตรเจน (estrogen) และโปรเจสเตอโรน (progesterone) ซึ่งจะไปยับยั้ง เลื่อนเวลาการตกไข่ และส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีสภาพที่ไม่เหมาะสมในการฝังตัวของตัวอ่อน
3. ยาคุมฉุกเฉินประเภท Selective Progesterone Modulator
ยาคุมฉุกเฉินประเภทนี้จะไปยับยั้งไม่ให้โปรเจสเตอโรนสามารถทำหน้าที่ได้ ดังนั้นทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีสภาพไม่เหมาะสมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน ตัวยาคุมฉุกเฉินประเภทนี้ให้ประสิทธิภาพการป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงกว่าลีโวนอร์เจสเตรลที่ทำได้แค่ป้องกันการตกไข่ และยังมีผลข้างเคียงน้อยกว่ายาคุมฉุกเฉินประเภทอื่น ๆ อีกด้วย
ยาคุมฉุกเฉินมาดอนน่า (Madonna)
ที่มา: http://www.naturepharmacare.com/product/655/madonna-2s-มาดอนน่า-2เม็ด-กล่อง
ยาคุมมาดอนน่า (Madonna) ยาคุมฉุกเฉินที่ใช้สำหรับป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ชนิดฮอร์โมนเดียวโพรเจสโตเจน โดยมีตัวยาลีโวนอร์เจสเตรล (levonorgestrel, LNG) อยู่เม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม ในแผงมีทั้งหมด 2 เม็ด ซึ่งต้องรับประทานทั้ง 2 เม็ดเพื่อให้ได้รับลีโวนอร์เจสเตรล 1.5 มิลลิกรัม จึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้
กลไกการออกฤทธิ์ของยาคุม Madonna
ยาคุมมาดอนน่าออกฤทธิ์เช่นเดียวกับยาคุมฉุกเฉินประเภทฮอร์โมนเดียวโพรเจสโตเจนคือตัวยาลีโวนอร์เจสเตรลที่เป็นฮอร์โมนสังเคราะห์กลุ่มเดียวกับโปรเจสเตอโรน ซึ่งทำให้ร่างกายมีปริมาณฮอร์โมนเพศหญิงสูงขึ้น ซึ่งจะมีผลทำให้การตกไข่ช้ากว่าปกติ ยับยั้งการตกไข่ไม่ให้ไข่ได้มาเจอกับอสุจิจนเกิดการปฏิสนธิขึ้น
สรรพคุณยาคุม Madonna
ยาคุมมาดอนน่าเป็นยาคุมฉุกเฉินประเภทฮอร์โมนเดียวโพรเจสโตเจนที่มีสรรพคุณดังนี้
1. ป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์
เพราะตัวยาคุมมาดอนน่าออกฤทธิ์ในการยับยั้งการตกไข่ เมื่อเซลล์ไข่ไม่ตกลงมาที่โพรงมดลูกและเจอกับอสุจิ ก็จะไม่สามารถเกิดการปฏิสนธิและการตั้งครรภ์ได้
2. ทดแทนการคุมกำเนิดที่มีการป้องกันผิดพลาด
กรณีที่มีการคุมกำเนิดอยู่แล้วไม่ว่าจะการใช้ถุงยางอนามัย การใส่ห่วงยางอนามัยหรือการรับประทานยาคุมกำเนิดก็สามารถเกิดข้อผิดพลาดได้ทำให้การคุมกำเนิดนั้น ๆ ไม่มีประสิทธิภาพไม่ว่าจะถุงยางขาดขณะมีเพศสัมพันธ์ ห่วงยางอนามัยหลุดขณะมีเพศสัมพันธ์ ลืมรับประทานยาคุมกำเนิด เป็นต้น
การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้นก็จะช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์จากความผิดพลาดในการคุมกำเนิดเหล่านี้ได้มากขึ้น
ข้อควรระวังก่อนใช้ยาคุม Madonna
- เป็นยาคุมฉุกเฉินประเภทฮอร์โมนเดียว ซึ่งตัวยามีปริมาณฮอร์โมนเพศหญิงที่สูงมาก อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ตามมาอย่างเช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน ประจำเดือนมาผิดปกติ เป็นต้น
- เป็นยาคุมฉุกเฉินที่มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก หากใช้บ่อยอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงระยะยาว คือจะทำให้เกิดความเสี่ยงตั้งครรภ์นอกมดลูกสูงขึ้น ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ควรใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น และไม่ควรใช้ยาคุมมาดอนน่าเกิน 4 เม็ดต่อเดือน
- การใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีคุมกำเนิดป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าการคุมกำเนิดประเภทอื่น ๆ อย่างการใช้ถุงยาง การรับประทานยาคุมกำเนิดชนิด 21 และ 28 เม็ด ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเฉพาะกรณีจำเป็นเท่านั้น
- ยาคุมมาดอนน่าทำหน้าที่เพียงยับยั้งและชะลอการตกไข่เพื่อไม่ให้ไข่เจอกับอสุจิจนเกิดการปฏิสนธิเท่านั้น หากรับประทานยาคุมมาดอนน่าไปหลังจากที่ไข่กับอสุจิผสมกันแล้วก็จะไม่สามารถยับยั้งการตั้งครรภ์ได้
- ยาคุมมาดอนน่าไม่สามารถทำให้เกิดการแท้งได้ ด้วยเหตุผลเดียวคือยาคุมมาดอนน่าทำได้เพียงแค่การชะลอการตกไข่ ไม่ได้มีผลที่จะไปทำลายตัวอ่อนจนเกิดการแท้ง
- การรับประทานยาคุมฉุกเฉินควรรับประทานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หลังการมีเพศสัมพันธ์เพื่อให้ประสิทธิภาพการป้องกันสูงขึ้น โดยการรับประทานยาคุมมาดอนน่าเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมงจะช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่ถ้ารับประทานยาคุมมาดอนน่าเม็ดแรกภายใน 24 ชั่วโมงจะลดโอกาสการตั้งครรภ์ได้สูงขึ้นถึง 85% เลยทีเดียว
- ยาคุมฉุกเฉินทำได้แค่ลดโอกาสการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์เท่านั้น ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
- ยาคุมฉุกเฉินไม่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป และไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ หากรับประทานไปขณะที่ไม่ทราบว่าเกิดการตั้งครรภ์แล้ว และไม่ได้ลดโอกาสการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป
วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน Madonna
Madonna ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด ประกอบไปด้วยฮอร์โมนสังเคราะห์ลีโวนอร์เจสเตรลเม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม โดยวิธีกินยาคุมฉุกเฉิน madonna สามารถรับประทานได้ทั้ง 2 แบบดังนี้
วิธีกินยาคุม Madonna แบบครั้งละ 1 เม็ด
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินมาดอนน่าครั้งละ 1 เม็ดจะต้องเริ่มรับประทานเม็ดแรกภายใน 24 ชั่วโมง หรืออย่างช้าที่สุดไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมงหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ และรับประทานยาคุมฉุกเฉินมาดอนน่าเม็ดที่ 2 ให้ห่างจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง
วิธีกินยาคุม Madonna แบบทีเดียว 2 เม็ด
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินมาดอนน่าทีเดียว 2 เม็ดคือให้รับประทานยาคุมมาดอนน่า 2 เม็ดพร้อมกันให้เร็วที่สุดไม่เกิน 24 ชั่วโมงหรือช้าที่สุดไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมงหลังจากการมีเพศสัมพันธ์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิด
เพราะยาคุมมาดอนน่าเป็นยาฮอร์โมนปริมาณสูงมาก ๆ ทำให้เมื่อร่างกายได้รับฮอร์โมนที่สูงกว่าปกติอาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายได้ โดยผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้นแตกต่างกันขึ้นกับแต่ละบุคคล ดังนี้
- คลื่นไส้ อาเจียน
- วิงเวียนศีรษะ
- ปวดศีรษะมาก
- ปวดท้อง คล้ายกับการปวดท้องประจำเดือน
- ประจำเดือนมาผิดปกติ ประจำเดือนกะปริบกระปรอย
- มีเลือดออกทางช่องคลอด (ที่ไม่ใช่ประจำเดือน)
- เสื่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูก
ยาคุมฉุกเฉิน Madonna ซื้อที่ไหน ราคาเท่าไหร่
ยาคุมฉุกเฉิน madonna ราคาประมาณ 40-80 บาทขึ้นอยู่กับสถานที่จัดจำหน่าย โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป หรือสั่งจากร้านค้าออนไลน์ก็ได้ แต่แนะนำว่าควรซื้อยาคุมมาดอนน่าที่ร้านขายยา เพราะที่ร้านขายยาจะมีเภสัชที่สามารถให้คำแนะนำการใช้ยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้องได้
ข้อสรุป
วิธีป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ที่ดีที่สุดคือการคุมกำเนิดด้วยการรับประทานยาคุมกำเนิด ใช้ถุงยางอนามัย ใส่ห่วงยางอนามัย หรือการฝังยาคุมกำเนิด
แต่หากการคุมกำเนิดเกิดข้อผิดพลาดไม่ว่าจะถุงยางขาด ห่วงยางหลุดขณะมีเพศสัมพันธ์ การลืมกินยาคุมกำเนิด หรือแม้กระทั่งการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจและไม่ยินยอม ก็สามารถคุมกำเนิดด้วยการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินได้ แต่อย่างไรก็ตามยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีข้อจำกัดมากมายจึงควรใช้เฉพาะกรณีจำเป็นเท่านั้น