สติกเกอร์โลโก้ และฉลากสินค้าสำหรับบรรจุภัณฑ์ มีกี่แบบ?
ในปัจจุบันโลกของเรามีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้มีธุรกิจใหม่เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจอาหาร ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือธุรกิจอะไหล่รถยนต์ ส่งผลให้การที่จะทำให้สินค้าของคุณโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะโลโก้และสติกเกอร์ฉลากสินค้า ซึ่งมีส่วนช่วยทั้งในการอธิบายลักษณะของผลิตภัณฑ์ และระบุว่าผลิตภัณฑ์ของคุณนั้นอยู่ในอุตสาหกรรมประเภทใด
โดยโลโก้และสติกเกอร์ฉลากสินค้านั้นมีถึง 5 แบบ ให้ทุกคนได้เลือกใช้ตามความเหมาะสม ตามมาอ่านกันเลย
ประเภทของโลโก้และสติกเกอร์ฉลากสินค้า
1. สติกเกอร์กระดาษ (Paper Sticker)
เหมาะสำหรับนำไปใช้กับสินค้าทั่ว ๆ ไป ที่ไม่ต้องการระวังการเปียกหรือโดนน้ำ คุณสมบัติของสติกเกอร์กระดาษคือ โดนน้ำได้เพียง 60-70% แต่ทนความร้อนได้ถึง 90 องศาเซลเซียส
2. สติกเกอร์พีวีซี (PVC Sticker)
เหมาะสำหรับนำไปใช้กับสินค้าทั่ว ๆ ไป ที่ต้องการระวังการเปียกหรือโดนน้ำ คุณสมบัติของสติกเกอร์พีวีซีคือ กันน้ำได้ 100% แต่ทนความร้อนได้เพียง 40-60 องศาเซลเซียสเท่านั้น หากโดนความร้อนมากเกินไปจะเกิดการหดตัวและมีรอยย่นได้
3. สติกเกอรพีพี (PP Sticker)
เหมาะสำหรับนำไปใช้กับสินค้าที่ต้องการระวังการเปียกหรือโดนน้ำเป็นอย่างมาก ทนฝนทนแดด ลุยได้ทุกสภาพอากาศ คุณสมบัติของสติกเกอร์พีพีคือ กันน้ำได้ 100% และทนความร้อนได้สูงถึง 90 องศาเซลเซียส ลักษณะสติกเกอร์มีความเรียบเนียนสวยมากกว่าสติกเกอร์ประเภทอื่น ๆ
4. สติกเกอร์กันปลอม
เหมาะสำหรับติดกับสินค้าที่ต้องการกันการลอกเลียนแบบ การปลอมแปลงสินค้า คุณสมบัติของสติกเกอร์กันปลอมคือ กันน้ำและความร้อนได้สูงถึง 100% และเมื่อลอกสติกเกอร์ออก จะยังคงทิ้งคราบของลายตัวอักษรไว้
5. สติกเกอร์สุญญากาศ
เหมาะสำหรับติดกับกระจกรถยนต์ คุณสมบัติของสติกเกอร์สุญญากาศคือ โดนน้ำได้ แต่ทนความร้อนได้เพียง 40-60 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยการพิมพ์สติกเกอร์ชนิดนี้จะทำพร้อมกับการไดคัทขึ้นรูป เพราะสามารถแกะออกมาใช้ได้ง่าย
ดังนั้นสรุปได้ว่า การเลือกใช้โลโก้และสติกเกอร์ฉลากสินค้าแต่ละประเภทนั้นต้องคำนึงถึงคุณสมบัติหลาย ๆ ประการ ทั้งชนิดของสติกเกอร์ สามารถโดนน้ำได้หรือไม่ สามารถกันแดดได้หรือไม่ ป้องกันการลอกเลียนแบบได้หรือไม่ ติดกระจกรถได้หรือไม่ เพื่อทุกท่านจะได้นำความรู้นี้ไปใช้งานได้อย่างเหมาะสมนะคะ