HR เป็นอีกหนึ่งฝ่ายที่สำคัญอย่างยิ่งในบริษัท เพราะ HR นับได้ว่าเป็นหน่วยกลางที่ทำงานประสานกันระหว่างพนักงานและองค์กร เพราะนอกจากทำหน้าที่ในการจัดหาพนักงานที่มีความสามารถแล้ว ฝ่าย HR ยังมีความสำคัญในด้านของการพัฒนาทักษะ การเทรนนิ่ง และการจัดการกำลังคนให้องค์กรเดินหน้าต่อไปได้
ซึ่งเห็นได้ชัดในช่วง Covid-19 ที่ทุกองค์กรต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ทำให้เกิดการลดภาระค่าใช้จ่ายในทุกส่วนที่สามารถทำได้ หนึ่งในนั้นก็คือการลดเงินเดือน หรือจำนวนพนักงาน เพื่อให้องค์กรยังอยู่ต่อไป ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้หลายๆองค์กรเริ่มมีแนวคิดในการนำเทคโนโลยีเข้ามาผนวกในการทำงานของฝ่าย HR ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมีเทรนด์ที่บริษัททั่วโลกให้ความสำคัญดังต่อไปนี้
องค์กรใหญ่ๆในต่างประเทศ ที่มีผู้สมัครเข้าทำงานเป็นจำนวนมาก มักลงทุนในการนำ AI มาช่วยในการวิเคราะห์ เช่น การวิเคราะห์ตลาดแรงงาน ตีความคำตอบของผู้สมัครว่าเหมาะกับตำแหน่งงานที่ว่างอยู่หรือไม่ รวมไปถึงการจัดอันดับผู้เข้าสมัคร การใช้ Chatbots ในการจัดตารางนัดหมาย หรือการถามคำถามทั่วไปสำหรับการรับสมัคร ช่วยลดการทำงานซ้ำซ้อนของฝ่าย HR ได้เป็นอย่างดี
จากการระบาดของไวรัส ส่งผลให้เกือบทุกบริษัทต้องเปลี่ยน Process ในการทำงาน ที่พนักงานไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาที่บริษัท แต่เป็นการทำงานแบบ Work from home แทน ทำให้ฝ่ายบริหาร หรือหัวหน้างานกังวลในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน และ KPI ของบริษัท อีกทั้งยังไม่แน่ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้งหรือไม่ แต่เพื่อเตรียมความพร้อม บวกกับการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล ทำให้ HR ในบริษัทระดับโลกผันตัวเองเข้าสู่ Digital มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงเวลาเข้า-ออกงาน ขอลางาน หรือกาารจ่ายเงินเดือนพนักงาน ที่ฝ่าย HR สามารถทำงานได้ใน Platform เดียว ทำให้องค์กรมีข้อมูลต่างๆของพนักงาน เช่น จำนวนขาด ลา มาสาย ซึ่งช่วย HR ในการประเมินพนักงาน และวางแผนบริหารงานบุคคลได้ดียิ่งขึ้น
ปกติแล้วทุกบริษัทจะมีสวัสดิการสำหรับพนักงาน อย่างเช่นประกันสังคม หรือประกันกลุ่ม แต่ในช่วงที่บริษัททั่วโลกปรับรูปแบบการทำงานเป็นแบบ Work from home พบว่าระดับในความเครียดในกลุ่มพนักงานพ่งสูงขึ้น ทำให้บริษัทหลายๆแห่งหันมาให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพจิตของพนักงานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับกระบวนการทำงานให้ยืดหยุ่นอย่างเช่น การใช้ Google Doc แชร์ไฟล์ผ่านออนไลน์แทนการใช้เอกสารแบบเดิมๆ รวมไปถึงสวัสดิการที่ไม่ใช่แค่สุขภาพ อุบัติเหตุ แต่ยังครอบคลุมไปถึงเรื่องการพบนักบำบัด หรือจิตแพทย์ด้วย
จากเทรนด์ทั้งหมดที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าหลายๆบริษัทมีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้มากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่การใช้เทคโนโลยีอย่างผิวเผินแต่เป็นการลงลึกถึงข้อมูล เพื่อนำมาบริหารจัดการให้องค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในประเทศไทยหลายๆองค์กรก็หันมาให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้นอย่าง โปรแกรม Microsoft Dynamic NAV
เพราะนอกจากจะเป็นโปรแกรมที่ใช้ในการวางแผนจัดการทรัพยากร เช่น การจัดการ Supply Chain การจัดการคลังสินค้า ทำให้มองเห็นภาพรวมของธุรกิจ โดยการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล นำมาวิเคราะห์ รวมถึงควบคุมค่าใช้จ่ายแล้ว Microsoft Dynamic NAV ยังสามารถนำมาใช้ในส่วนของ Microsoft Dynamics 365 HR และยังสามารถปรับรูปแบบการทำงานให้เข้ากับแต่ละองค์กรได้อย่างง่ายดาย
หากบริษัทคุณเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการจัดการข้อมูล วิเคราะห์ธุรกิจให้เติบโตแล้วล่ะก็ สามารถติดต่อ Dynamics 365 Business Central จาก ภัทร โปรเกรส ผู้เชี่ยวชาญในการ Implement ระบบ ตลอดถึงการบริการหลังการขายที่ “ตรงเวลา ตรงจุด ตรงใจ”