ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ดีไหม? เลือกฉีดกับคลินิกที่ไหนดี? ควรใช้กี่ cc จึงจะเห็นผล
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร? ช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้จริงหรือ?
ร่องแก้มลึก หากเกิดในผู้หญิงจะส่งผลให้ใบหน้าดูสูงวัย ซึ่งเมื่อคนเราอายุล่วงเลยไปถึงวัย 25 ปีเป็นต้นไปมักจะมีร่องแก้มที่ลึกมากขึ้นเรื่อย ๆ วิธีการแก้ไขคือการเติมฟิลเลอร์ร่องแก้ม ซึ่งขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก นับเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดี
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การใช้สารเติมเต็มจำพวกไฮยาลูรอนิก ( Hyaluronic acid ) หรือ HA ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมาก หลังจากฉีดไปแล้วหาก filler ร่องแก้มสลายก็สามารถเติมใหม่ได้อีกเรื่อย ๆ ตามปรกติแล้วจะอยู่ได้นานถึง 1 ปี – 1 ปีครึ่ง ขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ไม่มีสารตกค้างเพราะสามารถสลายไปได้เองทั้งหมด 100%
รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและร่องแก้ม คุณโกโก้ รจเรศ นางแบบสาวสวย ที่วีสแควร์ คลินิก
ข้อสำคัญคือ การเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด เพราะแพทย์จะสามารถตรวจสภาพใบหน้า เพื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุและวิธีการแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึกได้อย่างตรงจุด ป้องกันการเกิดเป็นก้อนหลังฉีดฟิลเลอร์ หรือบางเคสที่ใช้วิธีแก้ไขไม่ถูกต้องจนเกิดร่องแก้มที่ลึกยิ่งกว่าเดิม
แม้บางคนจะไม่ได้เข้ามาเติมฟิลเลอร์อย่างต่อเนื่อง ผิวตรงร่องแก้มจะค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาพเดิมแต่ก็ยังดูดีกว่าเมื่อตอนที่ยังไม่ได้ทำ เนื่องจากร่างกายจะถูกฟิลเลอร์กระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนขึ้นมาเป็นของตัวเอง ผิวจึงชุ่มชื่นขึ้น การเกิดริ้วรอย, ร่องลึกย่อมจะมีโอกาสที่จะเกิดได้ลดน้อยลง
ร่องแก้มลึก เกิดจากสาเหตุอะไร?
1.) กระดูกบริเวณร่องแก้ม เกิดการยุบตัวลง
ตัวอย่างเคสรีวิวที่ ร่องแก้มลึก ที่มีสาเหตุมาจากการยุบตัวของกระดูกใต้ร่องแก้มโดยตรง สามารถเติมแค่ฟิลเลอร่องแก้มเพียงจุดเดียวได้
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มด้วยเทคนิคที่ถูกต้องจะทำให้ผลออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด
กรณีที่เกิดจากกระดูกร่องแก้มยุบตัวลงโดยตรง ร่องแก้มมักจะยังไม่ลึกมากนัก ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในคนที่อยู่ในวัย 20-30 ปี
- กระดูกใต้ตายังยุบตัวลงไม่มาก
- การแก้ไข ใช้การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอย่างเดียวได้
- การเติมฟิลเลอร์ร่องแก้ม ต้องใช้เทคนิคฉีดลงในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อ รวมทั้งต้องฉีดในจุดที่ต่ำกว่าร่องแก้มเล็กน้อย
- จะต้องไม่ฉีดที่ร่องแก้มโดยตรง เพื่อเป็นการป้องกันการดึงของกล้ามเนื้อที่ใช้ยิ้ม ไม่เช่นนั้น หากเวลาผ่านไปสัก 2-3 เดือน จะเกิดเป็นก้อน และจะยิ่งทำให้ร่องแก้มลึกขึ้นกว่าเดิม เพราะฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะโดนดึงขึ้นไปกองเป็นเนื้อเหนือร่องแก้ม
2.) กระดูกบริเวณใต้ตาเกิดการยุบตัวลง
(ตัวอย่างรีวิว คนไข้ที่ร่องแก้มลึก โดยมีสาเหตุหลักมาจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา )
ร่องแก้มลึกอันมีสาเหตุมาจากการยุบของกระดูกใต้ตาและร่องแก้มค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่เกิดในคนที่มีวัยตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ส่งผลให้เนื้อแก้มด้านบนหย่อนลงมากองอยู่ที่เหนือร่องแก้ม
ในเคสที่ร่องแก้มลึกโดยมีต้นเหตุจากการยุบตัวลงของกระดูกใต้ตา แล้วแพทย์เน้นฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้มเพียงอย่างเดียว อาจส่งผลให้ร่องแก้มดูแย่ลงกว่าเดิม หน้าจะดูอ้วน ดูอูม ไม่เป็นธรรมชาติ เพราะจะทำให้เนื้อจะมากองอยู่เหนือร่องแก้มดูเป็นก้อนมากขึ้นกว่าเก่า
ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ด้วยการฉีดยกผิวในชั้นกระดูก จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ซึ่งเป็นการดึงโครงสร้างผิวโดยรวมขึ้นไปด้านบนทั้งหมด ให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ส่งผลให้เนื้อแก้มที่กองอยู่เหนือร่องแก้มเป็นก้อนน้อยลง
ในเคสนี้ ถ้าแพทย์ใช้การเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มเพียงอย่างเดียว จะยิ่งทำให้ร่องแก้มลึกขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เพราะเนื้อที่หย่อนลงมาจากด้านบนไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด
3.) ร่องแก้มที่เกิดจากชั้นผิวที่บางลง หรือตากแดดบ่อยจนทำให้ผิวแห้ง
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้มโมเลกุลเล็ก ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวชั้นตื้นได้โดยตรง เพื่อแก้ปัญหาร่องแก้มที่เกิดจากผิวหนังชั้นบนบางลงและแห้ง
*หมายเหตุ: ผลการรักษาแตกต่างกันแต่ละบุคคล
ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์โมเลกุลเล็กเพื่อให้เรียบเนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน ช่วยเติมความชุ่มชื้นลงในชั้นผิวหนังโดยตรง เพื่อแก้ไขปัญหาร่องแก้มอันมีสาเหตุมาจากผิวแห้ง ซึ่งมีลักษณะเป็นริ้วตื้น ๆ บริเวณร่องแก้ม
4.) กล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไป อันเกิดจากการยิ้มบ่อย จนส่งผลให้ร่องแก้มลึก
ร่องแก้มลึกที่เกิดจากกล้ามเนื้อส่วนที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไป ไม่ควรแก้ด้วยการฉีดโบท็อกทั้ง 100% มิฉะนั้นจะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ เพราะยิ้มแล้วดูแข็ง ๆ
การทำให้ร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาตินั้น ควรใช้โบท็อกเทคนิค Dermotoxin ในการแก้ไข คือ การฉีดโบท็อกแค่ 50% และส่วนที่เหลือแก้โดยการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิค Myomodulation
การฉีดโบท็อกปริมาณที่น้อยมาก ๆ ลงในชั้นผิวหนัง คือ เทคนิค Dermotoxin เพื่อให้เส้นใยของกล้ามเนื้อที่มาเกาะกับผิวหนังชั้นบนคลายตัว แต่จะไม่ทำให้กล้ามเนื้อชั้นล่างคลายตัวไปด้วย เนื่องจากถ้ากล้ามเนื้อตรงร่องแก้มคลายตัวมากไป จะทำให้ยิ้มแข็ง ๆ ดูไม่เป็นธรรมชาติ
การใช้ฟิลเลอร์ฉีดหนุน หรือฉีดกดกล้ามเนื้อ คือ เทคนิค Myomodulation จะอยู่ได้นานกว่าโบท็อก สามารถควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อได้บางส่วน ทำให้ผลออกมาดูเป็นธรรมชาติ และไม่แข็งเกินไป
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อันตรายไหม?
เพื่อความปลอดภัยเราควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะใช้ฟิลเลอร์แท้ฉีดให้กับคนไข้เท่านั้น และเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการเกิดร่องแก้มของคนไข้แต่ละรายได้อย่างตรงจุด และวิธีแก้ไขได้อย่างเหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่สวยอย่างเป็นธรรมชาติ ป้องกันการเกิดเป็นก้อน
ฟิลเลอร์ร่องแก้มควรใช้กี่ cc จึงจะเห็นผล?
- ในคนไข้เคสทั่วไป ที่ร่องแก้มไม่ลึกมาก และมีวัยอยู่ในช่วง 30-40 ปี จะใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณเพียง 1-2 cc ทั้ง 2 ข้าง
- ในคนไข้ที่อายุมาก เช่น 50 ปีเป็นต้นไป ต้องใช้ปริมาณ filler จำนวน cc ที่มากขึ้น บางเคสใช้ในปริมาณ 3-4 cc รวมทั้งอาจต้องทำร้อยไหมหรือ hifu ร่วมด้วยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์หน้าเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ไม่จำเป็นต้องแก้ไขทุกสาเหตุในครั้งเดียว แต่สามารถค่อย ๆ ทยอยทำได้ เนื่องจากการฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ซึ่งจะมีความปลอดภัย สามารถเติมเพิ่มได้เรื่อย ๆ โดยแพทย์จะพิจารณาจากความต้องการและงบประมาณของคนไข้เป็นหลัก
ซึ่งหมอที่ชำนาญจะวางแผนการรักษาโดยเริ่มแก้ไขที่สาเหตุหลักก่อนตามงบประมาณและความต้องการของคนไข้เป็นหลัก
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม รุ่นที่แพทย์แนะนำ ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้ออ่อน ทนต่อการขยับได้ดี คือ
- Juvederm ultra plus อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm volume อยู่ได้นาน 18 เดือน
เนื่องจากผิวชั้นบนบริเวณร่องแก้มแห้งและบางมาก ฟิลเลอร์เนื้ออ่อนจะกระจายตัวและเรียบเนียนไปกับผิว ผลที่ได้จะออกมาเป็นธรรมชาติมาก ๆ
[แนะนำ] ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี แตกต่างกันอย่างไร ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี | V Square Clinic
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แล้วเกิดเป็นก้อน มีสาเหตุมาจากอะไร?
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน มีสาเหตุหลัก ๆ มาจาก
- ฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ไม่เหมาะสมกับจุดที่ต้องการฉีด
- แพทย์ฉีดโดยใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น ในคนที่มีอายุมาก กระดูกใต้ตาเกิดการยุบตัวจนร่องแก้มลึก หากฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณร่องแก้มจะทำให้เนื้อมากองที่เหนือร่องแก้ม หน้าจะดูอูม บวม และไม่เป็นธรรมชาติ
วิธีแก้ไขฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน คือการฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ที่ชื่อ Hyaluronidase จะช่วยให้ผิวกลับคืนสู่สภาพเดิมเหมือนตอนยังไม่ได้ฉีด เนื่องจากสามารถสลาย filler ออกได้หมดทั้ง 100%
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ตัวอย่างรีวิว ผลการรักษาด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา ร้องแก้ม 2 cc
ตัวอย่างรีวิว ผลการรักษาด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา ร้องแก้ม 2 cc
ตัวอย่างรีวิว ผลการรักษาด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา ร้องแก้ม 2 cc
ตัวอย่างรีวิว ผลการรักษาด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา ร้องแก้ม 3 cc
ตัวอย่างรีวิว ผลการรักษาด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา ร้องแก้ม
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน? ต้องรอกี่วันจึงจะเห็นผล
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเรียบร้อยแล้ว เราจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างทันทีโดยไม่ต้องรอนาน ส่วนอาการบวมอาจจะเกิดขึ้นได้บ้างเกิดจากเข็มที่ฉีดฟิลเลอร์ แต่จะค่อย ๆ หายดีภายในระยะเวลา 2-3 วัน ระหว่างนั้นควรงดเว้นการเกา กด หรือแตะในบริเวณที่ฉีด
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี? เลือกคลินิกอย่างไรจึงจะปลอดภัยที่สุด
การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ให้ได้ผลลัพธ์สวย ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ควรเลือกสถานที่ฉีดโดยพิจารณาจากปัจจัยหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
- เลือกฉีดกับคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อจะได้วิเคราะห์และเลือกยี่ห้อ/รุ่นของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาร่องแก้มของคนไข้แต่ละราย
- ศึกษาข้อมูลรีวิวของคนไข้ที่เคยเข้ารับการรักษากับคลินิกแห่งนั้นมาก่อน โดยเป็นรีวิวในแหล่งข้อมูลที่เป็นกลาง
- คลินิกได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ
- เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ในการฉีดเท่านั้น
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาเท่าไหร่?
( ฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อ Juvederm รุ่น ultraplus xc ราคา 9,900 บาท/1cc. คงทนอยู่ได้ 1 ปี คือรุ่นที่เหมาะสม )
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคา จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รวมถึงระยะเวลาความคงทนที่ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานขนาดไหน สำหรับที่ V Square Clinic ราคา filler เริ่มต้นจะอยู่ที่ 9,900 บาท ต่อ 1cc ซึ่งผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือนแล้วแต่ว่าจะเลือกใช้รุ่นไหน
- ยี่ห้อ Juvederm ของอเมริกา
- ยี่ห้อ Restylane ของสวีเดน
สุดท้ายนี้ ทุกครั้งก่อนตัดสินใจเลือกฉีด ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี ควรศึกษาข้อมูลรีวิวจากคนไข้ที่เคยเข้ามาใช้บริการจริงในแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ และเป็นกลาง น่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัย และมั่นใจได้ว่าผลจะเป็นที่น่าพึงพอใจมากที่สุด