ชาวบ้านเศร้า เสือโคร่งของกลาง วัดป่าหลวงตาบัว ทยอยตาย กว่า 86 ตัว
เมื่อวันที่ 14 ก.ย.62 มีรายงานข่าวจาก กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ว่า ขณะนี้เสือโคร่งของกลาง จำนวน 147 ตัว ที่กรมอุทยานฯ ยึดจาก วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จ.กาญจนบุรี แล้วนำมาดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และเขาสน จ.ราชบุรี ป่วยตายด้วยโรคอัมพาตลิ้นกล่องเสียงไปแล้วจำนวน 86 ตัว โดยเจ้าหน้าที่พบอาการของโรคอัมพาตลิ้นกล่องเสียงในเสือโคร่งมาตั้งแต่แรก ซึ่งแม้จะมีการจัดการสุขภาพและดูแลสุขอนามัยเสือ แต่พบว่ากลุ่มเสือโคร่งที่ตายส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ไซบีเรีย ที่เกิดจากการเพาะพันธุ์ในครอบครัวเดียวกันจนเลือดชิดที่ไม่มีภูมิคุ้มกันตัวเองที่ดีพอ
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมรายละเอียดและได้ให้มหาวิทยาลัยมหิดล มาตรวจพิสูจน์ซาก คาดว่าจะได้ผลสัปดาห์หน้า ยืนยันว่ากรมอุทยานฯ ดูแลเสือเป็นอย่างดีตามหลักวิชาการ โดยเสือ 86 ตัวทยอยตาย ไม่ได้ตายรวดเดียว
สำหรับเสือโคร่งของกลางจากวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน ถูกตรวจสอบ และยึดเป็นของกลาง ตั้งแต่ 12 มิถุนายน 2544 เนื่องจากวัดครอบครองเสือโคร่ง สัตว์ป่าคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 โดยไม่ได้รับอนุญาต กรมป่าไม้มอบหมายให้สัตวแพทย์สมชัย วิเศษมงคลชัย เป็นผู้ดูแลเสือของกลาง และฝากเลี้ยงไว้ที่วัดตามเดิม
ต่อมามีการร้องเรียนจากนานาชาติ เรื่องการทรมานเสือด้วยการล่ามโซ่ การเลี้ยงดูเสือที่ไม่ดี และความปลอดภัยของเสือ จนรัฐบาลไทยถูกไซเตสตั้งคำถาม ต่อมาในเดือน มิถุนายน 2559 กรมอุทยานฯจึงได้ย้ายเสือโคร่งมาดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง 85 ตัว แต่ตายไปแล้ว 54 ตัว และเสือโคร่งอีก 62 ตัวส่งไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จ.ราชบุรี ตายแล้ว 32 ตัว
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว กำลังให้ทีมวิชาการของมหาวิทยาลัยมหิดล สรุปข้อมูลส่งกลับมาให้ คาดว่าภายใน 1-2 วัน จะทราบผล เบื้องต้นคาดการว่า น่าจะเป็นโรคติดเชื้อ ซึ่งเป็นโรคติดต่อที่เป็นมาตั้งแต่เอาออกมาจากวัด อย่างไรก็ตาม ต้องรอฟังผลสรุปละเอียดจากทีมนักวิชาการของ ม.มหิดลก่อน