“ผิวหนังเสื่อม” เลือกทำหน้าอย่างไรให้เหมาะสม สวยงาม
เมื่อผิวหนังเริ่มเสื่อมตามวัย ก็จะเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ กระ หรือแม้แต่ความหย่อนยานปรากฏขึ้นบนใบหน้า ซึ่งด้วยความแตกต่างของการเสื่อมสภาพของผิวหนังบนใบหน้า ทำให้การดูแลรักษาแตกต่างกันด้วย โดยทั่วไปการดูแลรักษาและวิธีแก้ไขมีด้วยกัน 4 วิธี คือ
1.การรักษาความเสื่อมผิวชั้นนอก
เมื่อเริ่มสู่วัยกลางคนผิวหนังจะเริ่มเสื่อมสภาพ โดยผิวแห้งลง มีรอยจุดด่างดำหรือกระเพิ่มขึ้น การดูแลผิวพรรณทางผิวหนัง เช่น ครีมกันแดด การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ก็จะช่วยปกป้องผิวให้เสื่อมช้าลง เครื่องมือทางการแพทย์ในการรักษาความเสื่อมผิวชั้นนอกนี้ คือ IPL หรือคลื่นแสงอีกหลากหลายชนิด แต่จะช่วยเฉพาะส่วนของสีผิว ไม่ช่วยเรื่องการหย่อนของผิว
2. สำหรับในคนที่อายุไม่มากนัก มีริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ผิวหนังไม่หย่อนคล้อยมาก การใช้โบทูลินัม ท็อกซิน (botulinum toxin) จะหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อที่แสดงอาการของใบหน้า ทำให้ไม่เกิดริ้วรอย แต่ยังมีข้อควรระวังคือ ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี หรือฉีดมากไปใบหน้าจะแข็ง ไม่แสดงความรู้สึก และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
3. สำหรับผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย เนื่องจากผิวหนังขาดความยืดหยุ่น จะเห็นร่องรอยการหย่อนตัวของผิวหนังตามแรงโน้มถ่วง ตั้งแต่หางคิ้ว หางตา ร่องแก้ม และมุมคาง จนถึงคอ รอยย่นจากสาเหตุนี้ การใช้ยาฉีด การใช้โบทูลินัม ท็อกซิน (botulinum toxin) จะไม่ได้ผล การรักษาส่วนนี้สมัยก่อนคือ การผ่าตัดดึงหน้า
แต่ปัจจุบันมีวิวัฒนาการ การใช้เทคโนโลยีและการผ่าตัดที่เล็กลง เพื่อลดระยะเวลาพักฟื้นของผู้ป่วย โดยจะเริ่มจากการใช้เครื่องมือที่ทำให้เกิดการบอบช้ำน้อยๆ ได้ผลการเปลี่ยนแปลงไม่มาก ไปจนถึงการผ่าตัดที่ทำมาก ได้ผลการเปลี่ยนแปลงมาก แต่ต้องแลกกับระยะเวลาการพักฟื้นที่นานกว่า วิธีการเหล่านี้ ได้แก่ การใช้คลื่นพลังงานชนิดต่างๆ, Fraxel laser คือ การใช้เครื่องมือพลังงานเลเซอร์ยิงผิวหนังเป็นจุดๆ แม้จะทำลายผิวหนังชั้นนอกบ้าง แต่ผิวหนังข้างเคียงระหว่างจุดที่ยิง สามารถซ่อมแซมได้โดยไม่เกิดแผลเป็น
Thermage คือ การใช้คลื่นวิทยุ ทำให้เกิดความร้อนเผาใต้ชั้นผิวหนัง, HiFU / Ulthera ทั้งสองตัวนี้ใช้ high focus ultrasound คือ คลื่นเสียงความถี่สูง เป็นพลังงานกระตุ้นให้เกิดความร้อนเผาใต้ชั้นผิวหนังบนตำแหน่งที่ต้องการ, การใช้ไหมในการยกกระชับใบหน้า เช่น การร้อยไหมชนิดเกาะเกี่ยว, เอ็นโดไทน์ (ENDOTINE), การดึงหน้าเฉพาะส่วน, การผ่าตัดดึงหน้า
4. การเติมเต็ม การรักษาวิธีนี้ เป็นแนวคิดที่เกิดหลังจาก 3 วิธี เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ผิวหน้านอกจากจะหย่อนคล้อยลงแล้ว ยังมีการฝ่อของชั้นไขมัน และการบอบบางของผิวหนังร่วมด้วย ดังนั้น การเติมเต็มจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวังและทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ทั้งนี้ สารเติมเต็มที่ดีที่สุดในปัจจุบัน คือ ไขมันของตัวเราเอง แต่ไม่คงทนถาวร
ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ควรปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อวิเคราะห์ถึงแนวทางในการดูแลและแก้ไขปัญหาผิวหน้าได้อย่างตรงจุด จะได้มีใบหน้าคงความอ่อนเยาว์ไปยาวนาน