แต่งตั้งนักการศึกษาเลือดใหม่ "ดร.เอราวัณ ทับพลี" รับหน้าที่ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา" ม.กรุงเทพธนบุรี
มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดย “ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง” รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิการบดี แต่งตั้ง “ดร.เอราวัณ ทับพลี” ดำรงตำแหน่ง “ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา” สำหรับประวัติด้านการศึกษา ดร.เอราวัณ สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาสวัสดิการสังคม มหาวิทยาลัยเกริก ระดับปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และ ระดับปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
สำหรับประวัติการทำงาน เคยดำรงตำแหน่งเลขานุการ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงศึกษาธิการปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักธุรกิจเอสเอ็มอีรุ่นใหม่ และเป็นเจ้าของธุรกิจกระเป๋าลูกบอล แบรนด์ Tk Line ด้วยแนวคิดที่สร้างสรรค์หัตถกรรมไทย โดยการนำอุปกรณ์กีฬา อย่างเช่น ลูกบอล ที่ไม่ผ่านมาตรฐานจากโรงงาน มาแปรรูปเป็น กระเป๋าแฟชั่น สุดเก๋ สร้างมูลค่าให้กับตนเอง และยังได้ส่งต่ออาชีพให้กับกลุ่มหัตถกรรมไทย ในจังหวัดนครสวรรค์ และได้รับพระราชรางวัลกุลบุตรกาชาดดีเด่น คนแรกของสภากาชาดไทย จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทางด้านตำแหน่งในมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโทผู้บริหารยุคใหม่ “NEW ERA” คณะรัฐศาสตร์ ก่อนที่จะรับตำแหน่งใหม่อีกตำแหน่งคือ “ผู้ช่วยรองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา”
ดร.ดวงฤทธิ์ กล่าวว่า การแต่งตั้ง“ดร.เอราวัณ ทับพลี” ดำรงตำแหน่ง “ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา” เนื่องจาก ดร.เอราวัณ เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมและมีประสบการณ์ด้านกิจการนักศึกษาและการศึกษา มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยจะทำให้การบริหารงานของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสามารถรับผิดชอบภารกิจหลักของสถาบันอุดมศึกษา ได้แก่ การบริหารจัดการ และการวิจัย
ดร.เอราวัณ กล่าวว่า การที่ได้รับความไว้วางใจจากคณะผู้บริหาร โดยเฉพาะ ผศ.ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดี และ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา ทำให้ผมตระหนักในหน้าที่และบทบาทที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งทำงานให้สอดคล้องภายใต้หลักปรัชญา “สร้างปัญญา พัฒนาคน ฝึกฝนคุณธรรม” รวมทั้ง พันธกิจและวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
กิจกรรมเพื่อการศึกษาและนักศึกษาในมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีมีมากมาย ผมคิดอยู่เสมอว่า การดำเนินกิจการและกิจกรรมของมหาวิทยาลัยจะดำเนินไปอย่างไม่ติดขัด ปัจจัยเบื้องต้นที่เป็นกำลังหลักสำคัญในการขับเคลื่อนงานให้เดินต่อไปคือ ทีมงาน และนักศึกษา เราจะต้องเอาใจใส่ในคุณค่าและความสามารถของพวกเขา เพื่อให้รู้สึกว่ามีคุณค่า คุ้มค่า เกิดความภาคภูมิใจกับทุกภารกิจที่ทำลงไป และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีบรรลุเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้